รีวิวซีรีย์ พลิกชะตาเงาคู่ลิขิต The Atypical Family เป็นซีรีส์ที่ฉีกขนบ และ นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวที่มีพลังพิเศษได้อย่างน่าสนใจและแตกต่างไปจาก ซีรีส์ ซูเปอร์ฮีโร่ที่เราคุ้นเคย ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่การใช้พลังเพื่อกอบกู้โลกหรือต่อสู้กับวายร้าย แต่กลับพาเราไปสำรวจความเจ็บปวด ความเปราะบาง และความขัดแย้งภายในครอบครัวที่สูญเสียพลังไปเพราะความทุกข์ทางใจ
แนวคิดที่น่าสนใจและสดใหม่
สิ่งที่ทำให้ The Atypical Family โดดเด่น คือ การตีความพลังพิเศษในมุมมองใหม่ พลังไม่ได้เป็นเพียงแค่พรสวรรค์ แต่เป็นตัวสะท้อนถึงสภาพจิตใจ ของ แต่ละคนในครอบครัวโก พ่อ (รับบทโดย จางกียง) ที่สามารถเดินทางย้อนเวลาได้แต่ทำได้เฉพาะความทรงจำ ที่มีความสุข สูญเสียพลังไปเมื่อเขาเผชิญกับภาวะซึมเศร้าและไม่สามารถหาความสุขในชีวิตปัจจุบันได้อีกต่อไป แม่ (รับบทโดย โกดูชิม) ที่เคยมีพลังในการมองเห็นอนาคตกลับมองไม่เห็นอะไรอีกเลยเมื่อเธอต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้าจากการกิน และ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น พี่สาว (รับบทโดย ซูฮยอน) ที่เคยมีพลังในการบินได้กลับกลัวความสูงและไม่สามารถบินได้อีกเมื่อเธอมีความกังวล เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเอง และน้องสาว (รับบทโดย พัคโซอี้) ที่เติบโตมาพร้อมกับความรู้สึกไม่มั่นคงในครอบครัวที่สูญเสียพลัง ไปทีละคน แนวคิดนี้ทำให้ตัวละครมีมิติและน่าเห็นใจมากขึ้น เพราะความบกพร่องของพวกเขาไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดทางกายภาพ แต่มาจากบาดแผลทางใจที่ลึกซึ้ง
การแสดงที่เข้าถึงบทบาทและสร้างความประทับใจ
จางกียง กลับมาอีกครั้งในบทบาทที่ซับซ้อน และ ท้าทาย ซีรีย์ พลิกชะตาเงาคู่ลิขิต เขาถ่ายทอดความรู้สึกของชายที่สิ้นหวังและติดอยู่ในกับดักของอดีตได้อย่างน่าเชื่อถือ ขณะที่ ชอนอูฮี ในบท โดดาแฮ หญิงสาวลึกลับที่เข้ามาในชีวิตของครอบครัวนี้ ก็สามารถแสดง บทบาทได้อย่าง มีเสน่ห์ เธอเป็นตัวละครที่มีทั้งความเปราะบางและความแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน การที่เธอ มีอดีตที่เจ็บปวดทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกของครอบครัวโกได้ดี และเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของครอบครัวนี้ได้นักแสดงทุกคนในครอบครัวโก ไม่ว่าจะเป็น โกดูชิม, ซูฮยอน หรือ พัคโซอี้ ต่างก็ถ่ายทอดความทุกข์ ความสับสน และความผูกพันของครอบครัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คนดูรู้สึกร่วมและเอาใจช่วยตัวละครเหล่านี้ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
ข้อดีและข้อสังเกต
ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้ดีใน การผสมผสานระหว่าง เรื่องราวแฟนตาซี และดราม่าครอบครัวได้อย่างลงตัว การดำเนินเรื่องไม่เร่งรีบจนเกินไป ทำให้เราได้ทำความรู้จัก กับตัวละคร และ ปมปัญหาของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง การใช้โทนสีและภาพที่สวยงามก็ช่วยเสริมบรรยากาศของเรื่องให้ดูอบอุ่นและเหงาในเวลาเดียวกันอย่างไร ก็ตาม ช่วงกลางเรื่องอาจจะดำเนินไปอย่างช้าๆ สำหรับผู้ชมที่ คาดหวังความตื่นเต้นแบบซีรีส์แอ็กชัน หรือ มีบางช่วงที่เนื้อเรื่องอาจจะดูยืดเยื้อไปบ้าง แต่ซีรีส์ก็ยังคงรักษาแก่นหลักของ เรื่องไว้ได้อย่างมั่นคง นั่นคือการสำรวจความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและการเยียวยาจิตใจ