หากพูดถึงเกมแนว Battle Royale ที่ทั้งน่ารัก ฮา และทำให้ผู้เล่นหัวร้อนในเวลาเดียวกัน ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก Fall Guys เกมที่ให้ผู้เล่นรับบทเป็นตัวละครเจลลี่สุดน่ารัก ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อไปให้ถึงรอบสุดท้ายและคว้ามงกุฎแห่งชัยชนะมาให้ได้ แม้ภาพภายนอกจะดูเป็นเกมที่เล่นง่ายและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย แต่ความจริงแล้ว แอบซ่อนความโหดหินไว้ไม่น้อย โดยเฉพาะบางด่านที่กลายเป็นฝันร้ายของผู้เล่นหลายคน วันนี้เราจะพาไปดูว่า ด่านไหนที่ยากที่สุด และทำไมมันถึงขึ้นชื่อเรื่องการทำให้คนหัวร้อน
ด่าน Slime Climb ศัตรูของผู้เล่นสายพลาดง่าย
หนึ่งในด่านที่มักจะถูกพูดถึงเสมอว่ายากที่สุ ใน Fall Guys คือ Slime Climb ด่านที่ผู้เล่นต้องวิ่งไต่ขึ้นเนินผ่านสิ่งกีดขวางมากมาย โดยมี “น้ำเมือกสีชมพู” ค่อย ๆ ไล่ขึ้นมา จึงไม่ใช่แค่ทดสอบฝีมือ แต่ยังวัดใจผู้เล่นว่าจะใจเย็นพอไหมท่ามกลางความวุ่นวายรอบตัว หากพลาดตกลงไปในสไลม์ ผู้เล่นจะตกรอบทันที อะไรที่ทำให้ Slime Climb โหดขนาดนั้น?
- สิ่งกีดขวางแต่ละช่วงถูกออกแบบมาให้ “ผลักตก” ได้ง่ายมาก เช่น แท่นหมุน, เสาแกว่ง, ลูกกลิ้งชน และบันไดเลื่อน
- มีจุดให้ “ผู้เล่นเกรียน” คอยดักถ่วงเวลา ซึ่งอาจทำให้คนที่กำลังจะรอด กลับต้องพลาดตกสไลม์เพราะถูกดันหรือจับ
- ความกดดันจาก “สไลม์ที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น” ทำให้ผู้เล่นไม่มีเวลาช้า ต้องรีบแต่ต้องระวัง
ด่าน “Hoverboard Heroes” สมดุลและเวลา คือกุญแจ
อีกหนึ่งด่านที่ท้าทายไม่แพ้กันคือ Hoverboard Heroes ที่ผู้เล่นต้องอยู่บนแพลตฟอร์มลอยฟ้าซึ่งเคลื่อนตัวไปช้า ๆ ท่ามกลางกับดัก เช่น แท่นหมุน, เลเซอร์, และลูกกลิ้ง จุดยากของด่านนี้คือ
- ผู้เล่นต้องเดินหน้าไปเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถรีบจนเกินไปได้ เพราะต้องรอแพลตฟอร์มเลื่อนมาให้ทันก่อนก้าวต่อ
- หากพลาดตกลงจากแพลตฟอร์มถือว่าจบเกมทันที
- มีช่วงที่ทุกคนเบียดกันเยอะ ทำให้ล้มง่ายและอาจโดนผลักตกได้ตลอด