ในเกม Solo Leveling: ARISE ที่ถูกสร้างมาจากซีรีส์เว็บตูนชื่อดัง Solo Leveling ตัวละครต่างๆ ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านสกิล รูปแบบการโจมตี และความสามารถเฉพาะที่ส่งผลอย่างมากต่อแนวทางการเล่นของผู้เล่น โดยเฉพาะ “ตัวละครหลัก” ที่เป็นหัวใจของทีม ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างดาเมจ แต่ยังช่วยควบคุมสถานการณ์ในสนามรบอย่างชาญฉลาด ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับตัวละครหลักที่ “ต้องมีไว้ในทีม” อย่างแท้จริง
1. ซองจินอู (Sung Jin-Woo) – นักล่าเงาแห่งความมืด
แน่นอนว่าตัวละครที่โดดเด่นที่สุดและขาดไม่ได้เลยคือ ซองจินอู พระเอกของเรื่อง ผู้เป็น Shadow Monarch หรือราชาแห่งเงา ในเวอร์ชั่นเกม ARISE เขาคือสายบู๊สายหลักที่สามารถเรียกกองทัพเงาออกมาร่วมรบได้ ไม่ว่าจะเป็น อิกริส หรือ แบร์ ต่างเป็นซัมมอนที่สร้างดาเมจหนักหน่วงพร้อมคุมจังหวะศึกได้ดีมาก ความสามารถในการต่อสู้แบบระยะประชิดของจินอู รวมถึงการหลบหลีกและสกิลตีไว ทำให้เขาเป็นฮีโร่ที่ควรอยู่ในทีมทุกครั้ง
2. อิกริส (Igris) – อัศวินเงาแห่งความภักดี
หนึ่งในซัมมอนหลักของซองจินอูที่ผู้เล่นสามารถปลดล็อคมาใช้ได้คือ อิกริส เขาไม่เพียงเป็นนักรบดาบที่มีความสามารถในการโจมตีต่อเนื่องอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ยังมีสกิลสายแทงค์ที่สามารถรับดาเมจแทนเพื่อนร่วมทีมได้ดีเยี่ยม จุดเด่นของอิกริสคือความเสถียรในแนวหน้า สร้างความได้เปรียบในการตั้งรับและสวนกลับ
3. แชฮเยอิน (Cha Hae-In) – นักดาบแห่งแสง
ตัวละครสายโจมตีที่โดดเด่นอีกคนคือ แชฮเยอิน รองหัวหน้ากิลด์ Hunters เธอเป็นสายดาบที่มีความเร็วและพลังโจมตีสูง สามารถทำดาเมจต่อเนื่องอย่างรุนแรง และยังมีสกิล AOE ที่กวาดศัตรูได้หลายตัวในครั้งเดียว นอกจากนี้ ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและเอฟเฟกต์พิเศษในการคอมโบยังทำให้เธอเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับทีมที่เน้นบุกเร็ว
4. เบอร์รู (Beru) – ราชาแห่งมด
อีกหนึ่งเงาที่สำคัญของซองจินอูที่ควรมีไว้คือ เบอร์รู ซัมมอนสายสมดุลที่ผสมผสานการโจมตีหนักหน่วงกับการสนับสนุนทีม จุดเด่นของเขาคือสกิลที่สามารถสตั้นศัตรูได้ และลดความเร็วในการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ทำให้ทีมสามารถควบคุมจังหวะเกมได้ดียิ่งขึ้น การมีเบอร์รูในทีมคือการเพิ่มโอกาสในการสร้างแผนที่ยืดหยุ่นทั้งรุกและรับ
ตัวละครใน Solo Leveling: ARISE มีหลากหลายสายและสไตล์การเล่นให้เลือก แต่หากคุณอยากสร้างทีมที่แข็งแกร่งในทุกสถานการณ์ การมี ซองจินอู, อิกริส, แชฮเยอิน และเบอร์รู อยู่ในทีมคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งในแง่ของพลังโจมตี, ความสามารถในการควบคุมศึก และการป้องกันแบบรอบด้าน การจัดทีมที่มีสมดุลระหว่างดาเมจและการซัพพอร์ตคือหัวใจของชัยชนะในเกมนี้อย่างแท้จริง