รีวิวซีรีส์จีน Kill to Love

รีวิวซีรีส์จีน Kill to Love ตราบสิ้นปฏิพัทธ์” ลุ้นบทพิสูจน์มิตรภาพสุดซับซ้อน

โอ๊ยยย…ต้องบอกเลยว่านาทีนี้ถ้าใครมองหางานพีเรียดจีนแบบที่เนื้อเรื่องเข้มข้น ดราม่าจัดเต็ม มีกลิ่นอายความสัมพันธ์แบบซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนต้องนั่งลุ้นตามทุกวินาที “Kill to Love ตราบสิ้นปฏิพัทธ์” คือคำตอบที่ห้ามพลาดเด็ดขาด! ซีรีส์เรื่องนี้มันไม่ได้มาเล่น ๆ นะ แต่มาพร้อมภารกิจพิสูจน์ “มิตรภาพ” ที่มีคำว่า “ทรยศ” และ “ความแค้น” คอยเป็นเงาตามติดอยู่ตลอดเวลา

พลอตเรื่องที่ทำเอาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

เรื่องราวของซีรีส์นี้เกิดขึ้นในยุคที่สองแคว้นคือ แคว้นเหนือ (จี้เป่ย) และแคว้นใต้ (หนานฮุย) กำลังขัดแย้งกันอย่างดุเดือด แล้วดันมีสองหนุ่มที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ชะตากลับพาให้พวกเขาต้องอยู่คนละฝั่งและมีสถานะที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงคนแรกคือ ต้วนจื่ออั๋ง (รับบทโดย จางเจ๋อซวี่) ชายหนุ่มที่เติบโตมาในเงามืด ถูกฝึกฝนจนกลายเป็นมือสังหารสุดโหดจากแคว้นเหนือ เยือกเย็น ไร้หัวใจ มีเป้าหมายเดียวคือการล้างแค้นและช่วงชิงอำนาจ เขาหวนกลับมาพร้อมฐานะใหม่ที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึงส่วนอีกคนคือ เซียวซูเฮ่อ (รับบทโดย หมี่จิน) องค์ชายหกแห่งแคว้นใต้ ที่ดูสุภาพ อ่อนโยน แต่ภายใต้ความเรียบร้อยนั้นกลับมีไหวพริบและแผนการซ่อนอยู่ เซียวซูเฮ่อรู้ดีว่าต้วนจื่ออั๋งกลับมาด้วยจุดประสงค์อะไร แต่เขากลับเลือกที่จะ “แกล้งไม่รู้” และปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามแผนที่ถูกวางไว้…ทั้งแผนของฝ่ายตรงข้าม และแผนซ้อนแผนของตัวเองนี่แหละค่ะที่ทำให้เรื่องนี้มันแซ่บ! การกลับมาพบกันครั้งนี้ของทั้งคู่มันคือการเอา “ความรู้สึกเก่า ๆ” มาเป็นเดิมพันในเกมการเมืองที่เดิมพันด้วย “ชะตาของแผ่นดิน” ดูไปก็ต้องมานั่งคิดตามว่า…ใครกันแน่ที่หลอก? ใครกันแน่ที่ถูกหลอก? หรือจริง ๆ แล้วต่างฝ่ายต่างรู้ทันกันหมด แต่เพราะความผูกพันในวัยเด็กมันยังไม่จางหาย เลยทำให้ความสัมพันธ์นี้ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก

รีวิวซีรีส์จีน Kill to Love

รีวิวซีรีส์จีน Kill to Love เสน่ห์ที่ต้องยกนิ้วให้

 

  1. ดราม่าจัดเต็ม ไม่ยืดเยื้อ: ซีรีส์นี้มีแค่ 12 ตอนจบ (ตอนนึงประมาณ 30 กว่านาที) บอกเลยว่าเดินเรื่องเร็วมาก! ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยค่ะ ทุกฉากทุกตอนคือมีเหตุการณ์สำคัญ มีดราม่า มีความขัดแย้งให้ต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา ใครไม่ชอบซีรีส์ยาว ๆ เรื่องนี้ตอบโจทย์สุด ๆ
  2. นักแสดงงานดี เคมีพุ่งปรี๊ด: ต้องยอมรับเลยว่าคู่นักแสดงหลักอย่าง จางเจ๋อซวี่ และ หมี่จิน เนี่ย ทั้งหล่อ ทั้งแสดงเก่ง เคมีระหว่างทั้งคู่มันส่งถึงกันสุด ๆ สายตา ท่าทาง ทุกอย่างมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซ่อนไว้ ทำให้คนดูอินตามไปกับความสัมพันธ์แบบ “รักพี่เสียดายน้อง” (ในที่นี้คือรักเพื่อนแต่ต้องทำตามหน้าที่)
  3. โปรดักชั่นสวยงามตามมาตรฐานพีเรียดจีน: ภาพสวย คอสตูมสวยงามเข้ากับคาแรคเตอร์ โดยเฉพาะชุดของต้วนจื่ออั๋งที่เน้นสีเข้ม ดูเท่และทะมัดทะแมง ส่วนชุดองค์ชายก็ดูเรียบร้อยสมฐานะ ฉากต่าง ๆ ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานซีรีส์ย้อนยุค ทำให้การรับชมเพลินตามาก ๆ
  4. เพลงประกอบเพราะได้อารมณ์: เพลงและดนตรีประกอบเรื่องนี้ช่วยบิ้วอารมณ์ได้ดีมากค่ะ ทำให้ฉากดราม่า ฉากต่อสู้ หรือฉากที่ต้องใช้สายตาสื่อสาร มันยิ่งทวีความเข้มข้นและเร้าใจขึ้นไปอีก

บทสรุปที่อยากบอกต่อ

“Kill to Love” ไม่ใช่แค่ซีรีส์วายพีเรียดธรรมดา แต่มันคือการทดสอบ “มิตรภาพ” และ “ความรัก” ที่ถูกบีบคั้นด้วย “อำนาจ” และ “การเมือง” ที่โหดร้าย เนื้อเรื่องอาจจะ ขม แต่รับรองว่า ไม่คาย แน่นอน เพราะมันจะทำให้คุณหยุดดูไม่ได้ ต้องตามไปลุ้นว่าสุดท้ายแล้วเส้นทางที่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและการทรยศนี้ จะนำพาความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไปสู่จุดไหน

ถ้าคุณพร้อมที่จะดำดิ่งสู่ดราม่าสุดเข้มข้นที่ต้องใช้สมองในการคิดตามและใช้หัวใจในการลุ้นไปด้วยกัน ก็กดดูเลยค่ะ รับรองว่า 12 ตอนจบนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้อะดรีนาลีนหลั่งแบบไม่รู้ตัว! ใครชอบแนวดราม่าพีเรียดที่ตัวละครหลักฉลาดทันกัน ต้องจัดเรื่องนี้ด่วน ๆ!

Scroll to Top