รีวิวภาพยนตร์เรื่อง Dune มหากาพย์ไซไฟสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

ภาพยนตร์ Dune หรือชื่อภาษาไทยว่า “ดูน” คือภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่สร้างจากนิยายชื่อดังของ Frank Herbert กำกับโดย Denis Villeneuve ผู้กำกับมากฝีมือที่เคยฝากผลงานไว้กับเรื่อง Arrival และ Blade Runner 2049 หนังเรื่องนี้ได้รับความคาดหวังอย่างสูงจากแฟน ๆ ทั่วโลกตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย เพราะเนื้อเรื่องต้นฉบับขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในตำนานของนิยายไซไฟที่ยิ่งใหญ่และเข้าถึงยากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์

Dune

เรื่องราวเล่าถึงโลกอนาคตที่จักรวาลถูกปกครองด้วยจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ โดยแต่ละตระกูลทรงอำนาจจะได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลดาวเคราะห์ต่างๆ ดาวที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ Arrakis หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ดูน ดาวเคราะห์ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิต “Spice” สารล้ำค่าที่จำเป็นต่อการเดินทางในอวกาศและการคงอยู่ของจักรวาล

ตัวเอกของเรื่องคือ Paul Atreides (รับบทโดย Timothée Chalamet) ทายาทแห่งตระกูล Atreides ที่ได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้ย้ายไปปกครอง Arrakis ต่อจากตระกูล Harkonnen ซึ่งเป็นศัตรูคู่แค้น Paul ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย การเมืองที่เต็มไปด้วยการทรยศหักหลัง และชะตากรรมลึกลับที่กำลังรอเขาอยู่ ในขณะเดียวกัน เขายังต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับพลังพิเศษที่เขามี และบทบาทสำคัญที่เขาอาจต้องแบกรับในอนาคต

จุดเด่นที่สุดคือภาพและงานโปรดักชันที่ยิ่งใหญ่ตระการตา Denis Villeneuve ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของดาว Arrakis ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งทิวทัศน์ทะเลทรายกว้างใหญ่ การออกแบบฉาก เครื่องแต่งกาย และยานอวกาศล้วนดูสมจริงและอลังการจนแทบหยุดหายใจ อีกทั้งยังเลือกใช้โทนสีอบอุ่นและแสงเงาแบบธรรมชาติ สะท้อนถึงความโดดเดี่ยวและความแร้นแค้นของดาวแห่งนี้ได้อย่างลงตัว ดนตรีประกอบโดย Hans Zimmer เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยยกระดับอารมณ์ของหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เสียงดนตรีเน้นความหนักแน่นและลึกลับ สร้างความรู้สึกตึงเครียดและยิ่งใหญ่ให้กับทุกฉากสำคัญ

Paul Atreides

แม้จะโดดเด่นในด้านงานภาพและเสียง แต่สิ่งที่หลายคนอาจรู้สึกคือจังหวะการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างช้า หนังเต็มไปด้วยบทสนทนาเชิงปรัชญา การเมือง และการปูพื้นฐานของตัวละครมากมาย บางช่วงอาจรู้สึกหนักและใช้เวลาในการทำความเข้าใจ แต่หากตั้งใจดูจะพบว่าทุกบทสนทนามีความหมายและปูทางไปสู่เหตุการณ์สำคัญในอนาคต ในแง่ของการแสดงถ่ายทอดบท Paul ได้อย่างลึกซึ้ง นิ่งแต่ทรงพลัง ส่วน Rebecca Ferguson ที่รับบทแม่ของ Paul ก็แสดงได้ยอดเยี่ยม ถ่ายทอดอารมณ์ความขัดแย้งในบทบาทของแม่และผู้ฝึกฝนได้อย่างชัดเจน นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ เช่น Oscar Isaac, Zendaya และ Jason Momoa ต่างก็เสริมความเข้มข้นให้กับเรื่องได้ดี

สรุปแล้ว Dune คือหนังไซไฟที่ไม่เพียงแต่ยิ่งใหญ่ในด้านงานสร้าง แต่ยังเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ซับซ้อน เหมาะกับผู้ชมที่ชอบหนังที่ต้องใช้ความคิดและตั้งใจในการติดตาม ใครที่หลงใหลในหนังไซไฟฟอร์มยักษ์หรือเป็นแฟนนิยายต้นฉบับ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่คุณไม่มีวันลืม

Scroll to Top