CASPER ภาพยนตร์แฟนตาซี คอมเมดี้สุดคลาสสิกที่ออกฉายในปี 1995 ได้นำเสนอเรื่องราวอันอบอุ่นหัวใจของ แคสเปอร์ ผีน้อยใจดีที่แตกต่างจากผีตนอื่น ๆ เขาไม่ต้องการหลอกหลอนผู้คน แต่กลับปรารถนาที่จะมีเพื่อนและใช้ชีวิตเหมือนเด็กธรรมดา เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แคท ฮาร์วีย์ (รับบทโดย คริสตินา ริชชี) และพ่อของเธอ ดร. เจมส์ ฮาร์วีย์ (รับบทโดย บิล พูลล์แมน) นักบำบัดผีผู้โด่งดัง ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เก่าแก่ชื่อ “วิปสแตฟฟ์” ที่เต็มไปด้วยวิญญาณสี่ตน ได้แก่ แคสเปอร์ และลุงผู้ชั่วร้ายทั้งสามของเขา คือ สเตรทช์, สตริงกี้ และ แฟตโซ่ ผีขี้โมโหที่มักจะหาเรื่องรบกวนทุกคนที่เข้ามาในบ้านอยู่เสมอ
ความสัมพันธ์ระหว่าง แคท และแคสเปอร์คือแกนหลักของเรื่อง แคทเป็นเด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียแม่และต้องย้ายโรงเรียนบ่อยๆ ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและเข้าใจความรู้สึกของแคสเปอร์ที่อยากมีเพื่อน เธอไม่กลัวแคสเปอร์เลยแม้แต่น้อย แต่กลับมองเห็นความดีงามภายในตัวผีน้อยตนนี้ มิตรภาพของทั้งสองค่อยๆ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความปั่นป่วนที่เกิดจากลุงผีสามตนที่พยายามไล่คนออกจากคฤหาสน์
แคสเปอร์พยายามช่วยเหลือแคทและพ่อของเธอให้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้อย่างสงบสุข ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความเจ้าเล่ห์ของลุงๆ ที่ไม่เคยหยุดสร้างปัญหา จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการผสมผสานองค์ประกอบของความแฟนตาซี, ความตลกขบขัน, และดราม่าเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แม้จะมีฉากที่น่ากลัวบ้างจากเหล่าผีจอมป่วน แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงรักษาโทนเรื่องที่เป็นมิตรและเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย
นอกจากแคทและแคสเปอร์แล้ว ตัวละครสมทบอื่นๆ ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างสีสันให้กับเรื่อง โดยเฉพาะเหล่าลุงผีทั้งสาม ที่แม้จะร้ายกาจแต่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์และสร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย ดร. ฮาร์วีย์เองก็เป็นตัวละครที่น่าสนใจ ด้วยความพยายามที่จะสื่อสารกับวิญญาณและคลี่คลายปริศนาต่างๆ ในคฤหาสน์ นอกจากนี้
ภาพยนตร์ยังเล่าถึงเรื่องราวเบื้องหลังของแคสเปอร์ที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจและผูกพันกับตัวละครผีน้อยตนนี้มากยิ่งขึ้น การเปิดเผยว่าแคสเปอร์เป็นใครก่อนที่จะกลายเป็นผี และเหตุผลที่ทำให้เขายังคงอยู่ในคฤหาสน์วิปสแตฟฟ์ เป็นส่วนที่เพิ่มความซาบซึ้งและปนเปื้อนความเศร้าเล็กน้อย แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวสมบูรณ์แบบ
เทคนิคพิเศษด้านภาพและเสียงในยุคนั้นถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ การสร้างสรรค์ตัวละครผีที่ดูโปร่งแสงและสามารถโต้ตอบกับวัตถุต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ชมเชื่อและดื่มด่ำไปกับโลกของ CASPER ได้อย่างง่ายดาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพียงความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึงประเด็นของมิตรภาพ ความเหงา การยอมรับ และการก้าวข้ามความแตกต่าง เพื่อค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ (แม้จะอยู่ในฐานะผีก็ตาม) CASPER จึงเป็นภาพยนตร์ที่ยังคงอยู่ในใจของใครหลายๆ คน และเป็นเครื่องยืนยันว่ามิตรภาพที่แท้จริงสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นคนหรือวิญญาณก็ตาม