1617260407_minari

รีวิวหนังเรื่อง Minari มินาริ รากฝันของครอบครัวผู้อพยพ

เป็นภาพยนตร์ดราม่าเชิงชีวิต Minari สะท้อนความฝันแบบอเมริกันในมุมของผู้อพยพเกาหลีใต้ที่เดินทางมายังสหรัฐอเมริกาในช่วงยุค 1980 ผ่านสายตาของครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง หนังเรื่องนี้กำกับโดย “ลี ไอแซค ชุง” (Lee Isaac Chung) ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเองอย่างลึกซึ้ง นุ่มนวล และเปี่ยมด้วยอารมณ์ที่เข้าถึงใจผู้ชม

Minari

เรื่องราวของ Minari เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เจค็อบ (รับบทโดย สตีเวน ยอน) พาภรรยา โมนิกา และลูกสองคน ย้ายจากแคลิฟอร์เนียไปยังชนบทในรัฐอาร์คันซอ ด้วยความหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการสร้างฟาร์มผักเกาหลีเพื่อขายให้กับตลาดผู้อพยพ เขาหวังจะเป็นนายตัวเอง ไม่ต้องทนทำงานตรวจเพศลูกไก่อีกต่อไป แต่เส้นทางแห่งความฝันกลับเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งเรื่องเงิน ความขัดแย้งในครอบครัว และการปรับตัวกับสังคมใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวคือหัวใจหลักของเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อ “ซุนจา” ยายของเด็ก ๆ เดินทางมาจากเกาหลีเพื่อช่วยดูแลหลานชายตัวน้อย เดวิด ซึ่งเป็นเด็กขี้กลัวแต่ช่างสงสัย การมาของยายซุนจาสร้างสีสันและความตลกอบอุ่นให้กับเรื่อง พร้อม ๆ กับการปลุกความผูกพันในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กับความไม่แน่นอน ความฝันที่เกือบพังทลาย และความเจ็บป่วยของลูกชายคนเล็ก

มินาริ

ใช้โทนภาพเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง การถ่ายภาพเน้นความเป็นธรรมชาติและความเงียบสงบของชนบทอเมริกา พร้อมกับดนตรีประกอบที่ละมุนละไมและไม่เร่งเร้า ผู้กำกับเลือกเล่าเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบแต่แฝงอารมณ์ไว้ในทุกฉาก ทุกบทสนทนา และทุกสายตาของตัวละคร สิ่งที่ทำให้พิเศษ คือการเล่าเรื่องจากมุมมองที่หลากหลาย ทั้งของพ่อที่พยายามสร้างอนาคต, แม่ที่คิดถึงความมั่นคง, เด็กที่พยายามเข้าใจโลกใบใหม่ และยายที่ไม่ยึดติดกับสิ่งใดแต่เปี่ยมด้วยความรัก หนังไม่ได้เสนอความสำเร็จแบบฮอลลีวูดจ๋า แต่เสนอความเป็นมนุษย์ ความล้มเหลว และการลุกขึ้นใหม่อย่างสมจริง มินาริ ที่ยายซุนจาปลูกไว้ริมลำธาร เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเรื่อง มันคือพืชที่ดูแลง่าย เติบโตได้ทุกที่ เปรียบเสมือนความหวังและความยืดหยุ่นของครอบครัวนี้ที่แม้จะเผชิญปัญหาเพียงใด ก็ยังคงมีรากที่มั่นคงและไม่ล้มลงง่ายๆ ไม่ใช่แค่หนังครอบครัว แต่คือบทกวีแห่งชีวิต ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม น้ำตา และการเยียวยาในแบบที่แสนจะเรียบง่ายแต่ทรงพลัง เป็นหนังที่ค่อย ๆ ซึมลึกเข้าไปในใจ และคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมอีกนานแสนนาน.

Scroll to Top