สวัสดีวันจันทร์(ส) (Happy Monday(s)) พล็อตหนังสไตล์วนลูป แน่นอนว่าเรามักจะได้เห็นหนังประเภทนี้สร้างออกมาอย่างต่อเนื่องกันแทบจะทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมานี้ หนังวนลูปได้หลายเป็นพล็อตยอดนิยมที่นักสร้างมักจะหยิบจับมาปั้นเป็นเรื่อง แต่สำหรับฝั่งหนังไทยอาจจะค่อนข้างแปลกใหม่และไม่ค่อยเคยเห็นเท่าไหร่ หนังไทยพล็อตชีวิตวนลูปจึงค่อนข้างกระตุ้นความสนใจได้ไม่น้อย
เป็นภาพยนตร์ไทยแนว โรแมนติกคอมเมดี้ ที่ผสมผสานกับแนวไซไฟแบบ time loop เล่าเรื่องราวของ “เอิร์ธ” นักศึกษาหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาในวันจันทร์ที่ 1 เมษายน และพบว่าทุกอย่างรอบตัววนกลับมาเหมือนเดิมทุกวัน เขาติดอยู่ในวังวนของเวลาโดยไม่มีทางออก ในขณะที่พยายามหาทางหลุดพ้นจากลูปเวลานี้ ปั้นตัดสินใจใช้โอกาสนี้ในการเข้าใกล้ “สายไหม” หญิงสาวที่เขาแอบชอบมานาน เขาเริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจเธอมากขึ้นในแต่ละวันจันทร์ที่ผ่านไป และพยายามทำให้เธอตกหลุมรักเขาให้ได้
เรื่องย่อ สวัสดีวันจันทร์(ส)
ชีวิตสุดดี๊ด๊าของนักศึกษาปีที่ 8 สุดแสบ เอิร์ธ เทอมสุดท้ายที่จะสำเร็จการศึกษา แทนที่จะตั้งใจเรียน เขากลับทุ่มเทแรงกายแรงใจจีบสาวรุ่นน้องอย่าง สายไหม แต่ยังต้องพ่ายให้กับความฮอตดีกรีเดือนมหาลัย เต้ อิร์ธตั้งใจจะบอกรัก สายไหม ในวันจันทร์ที่ 1 เม.ย. 2567 แต่ทุกอย่างกลับผิดแผนในคืนปาร์ตี้จบการศึกษา เอิร์ธตื่นมาพบว่าตัวเองติดอยู่ในวันจันทร์ที่ 1 เมษายน อีกครั้งและอีกครั้ง เอิร์ธจึงฉวยโอกาสนี้เปย์ตัวเองให้มากที่สุด และทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจสายไหม
เป็นการเปิดโลกหนังวนลูปให้กับวงการหนังไทยที่น่าสนใจ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานักอาจจะไม่ได้น่าอภิรมย์ใจถึงที่สุดขนาดนั้น เพราะหนังยังเต็มไปด้วยส่วนที่ขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เต็มไปหมด จังหวะของหนังเหมือนจะดีแต่ก็ยังไม่สามารถพาผู้ชมกลมกล่อมไปกับอรรถรสของหนังได้ในระดับที่น่าพอใจขนาดนั้น บทหนังยังค่อนข้างอ่อนไปสักหน่อย มุกตลกก็ยังครึ่งๆ กลางๆ ที่ชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นเสียงก่นด่านกันไปมาของตัวละครเท่านั้น
แต่อย่างน้อย ๆ เราพบว่า สวัสดีวันจันทร์(ส) ยังมีมุมกับจังหวะการตัดต่อที่ใช้ได้ดีอยู่ เป็นจังหวะการตัดหนังที่ค่อนข้างไม่ได้เห็นกันบ่อยครั้งนักในหนังไทยทั่วไป แต่สรุปแล้วก็ยังไม่ใช่หนังวนลูปเรื่องโปรดและเรื่องที่ทำให้เราประทับใจได้ถึงที่สุด ห้วงอารมณ์ของหนังยังคงค่อนข้างครึ่ง ๆ กลาง ๆ ราวกับติดชะงักระหว่างความสนุกกับความซ้ำซาก โดยเฉพาะถ้าการเล่าเรื่องของหนังที่กระชับขึ้นได้ยิ่งกว่านี้สักหน่อย อาจจะกลมกล่อมได้ยิ่งขึ้นกว่านี้ แต่กระนั้นก็ชอบบทสรุปของหนังเรื่องนี้ ที่นับว่าเป็นการแลนดิ้งจบที่เกรียงไกรดีแล้ว