รีวิวหนัง A Normal Woman ผู้หญิงธรรมดา ยกระดับความงามมีคลาสของหนังอินโดฯ

 กลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและตลาดหนังที่กำลังปลุกปั้นขึ้นมาได้อย่างงดงามขึ้นทุก ๆ วัน ตีตื้นขึ้นมาเป็นคอนเทนท์หนังที่โดดเด่นระดับอาเซียนเทียบชั่นวงการหนังไทยอย่างจดจ่อแล้ว สำหรับวงการหนังอินโดนีเซีย ที่ทำการผลิตออกมาได้ดีทั้งหนังผีและหนังแอคชัน และล่าสุดกับคอนเทนท์ออริจินัลที่ส่งออกไปทั่วโลก อย่าง A Normal Woman ผู้หญิงธรรมดา ก็นับว่าเป็นอีกสเต็ปที่สำคัญของหนังอินโดฯ ที่ขยับการสร้างบรรทัดฐานของตัวเองออกไปให้ไกลกว่าอีกครั้งมิลลา หญิงสาวที่เหมือนเป็นซินเดอเรลลา หลังพบรักและแต่งงานอยู่กินกับ โจนาธาน นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเพรียบพร้อม แต่ว่าเธอเผชิญหน้ากับปัญหาความบกพร่องทางร่างกายอย่างหาเหตุผลไม่ได้ เริ่มจากการมีบาดแผลบริเวณส้นเท้าและใบหน้า ความเจ็บปวดเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางชีวิตประจำวันของเธอที่เต็มไปด้วยเรื่องรบกวนจิตใจ โดยเฉพาะแรงกดดันจากแม่สามีจอมเผด็จการ ก่อนที่เธอจะเริ่มตกอยู่ในภวังค์ความสับสนมากยิ่งขึ้น เมื่อแวดล้อมต่าง ๆ ชวนให้เธอตั้งคำถามว่าตัวเองเป็นใคร และอดีตที่ดำหม่นของเธอก็ค่อย ๆ เผยออกมานี่คือผลงานล่าสุดของนักสร้างหนังฝีมือจากอินโด ลัคกี กุสวันดี ที่เคยแจ้งเกิดจาก In the Absence of the Sun และเพิ่งมีหนังกับเน็ตฟลิกซ์ไปเมื่อไม่นานใน Dear David ที่ครั้งนี้เขายังรับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังเอง โดยที่ยังคงสอดแทรกประเด็นความสวยความงามและบิวดี้สแตนดาร์ดเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ภายใต้การยกระดับเนื้อหาที่เต็มไปด้วยมิติแห่งความซับซ้อนภายใต้จิตใจมนุษย์ เป็นโทนหนังที่ไม่ค่อนได้เห็นหนังฝั่งอินโดสะท้อนอะไรแบบนี้ออกมาในระดับสากลสักเท่าไหร่

       ถึงแม้ว่าในส่วนของบทหนัง A Normal Woman เรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่อะไรเท่าไหร่ แต่ลูกเล่นที่ใช้เป็นวิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็ชวนให้ติดตามอยู่ไม่น้อย ค่อย ๆ สร้างสถานการณ์และบีบคั่นภาวะอารมณ์ผ่านตัวละครหลักได้อย่างมีนัยยะที่สำคัญ ในฐานะคนดูก็น่าจะนึกเอาไว้อยู่แล้วว่า ในท้ายที่สุดจะต้องมีการคลี่คลายปมอะไรหลาย ๆ อย่างออกมาอย่างแน่นอน แต่ว่าท่วงท่ายั้งเชิงเหล่านี้เป็นความท้าทายในการสมดุลของหนังหนึ่งในสิ่งที่ชวนกระตุ้นความสนใจได้ดีมาก ๆ ก็คือมาตรฐานงานสร้างในหนัง A Normal Woman เรื่องนี้ เรียกได้ว่าสเกลของหนังอินโดเรื่องนี้ขยับขึ้นมาเทียบเคียงวงการชั้นแนวหน้าของเอเชียได้สบาย ๆ เพราะเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นสากล โดยเฉพาะการดีไซน์ออกแบบโปรดักชันและมุมกล้องกับการถ่ายภาพในหนังเรื่องนี้ ที่เป็นการยกระดับหนังอินโดได้อย่างน่าประทับใจA Normal Woman มีกลิ่นอายงานโปรดักชันที่อบอวลแบบซีรีส์ไทย ๆ อย่าง สืบสันดาน แต่ก็มีจังหวะและลีลาที่ชวนให้นึกถึงหนังเกาหลีระดับรางวัลออสการ์ แบบ Parasite หรือหนังฝีมือของผู้กำกับ พัคชานอุค อะไรทำนองนั้น ถึงเนื้อหายังคงค่อนข้างผสมผสานความเชื่อท้องถิ่นเข้ากับความหลากหลายในสากล แต่ก็ออกมาเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัวดี อาจจะล้น ๆ ขาด ๆ ไปอยู่บ้างในบางจุด แต่ก็นับว่าภายในระยะเกือบ 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างรับมือได้อย่างจัดจ้านดี

การเลือกเพลงประกอบและเพลงบรรเลงมาใช้ในหนังเรื่องนี้ อาจจะดูไม่มีอะไร แต่เสียงเพลงที่คลอตามไปด้วยแต่ละซีน ล้วนแต่แฝงไปด้วยรสนิยมและความหมายที่เต็มเปี่ยม หนังเปิดตัวเพลงปลอบประโลมชื่อดัง อย่าง Que Será, Será พร้อมกับคีย์สไตล์ละครเกาหลีและหนังญี่ปุ่น เป็นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แฝงกิมมิกเบา ๆ เอาไว้ได้ดี ขณะที่ลีลาจังหวะการตัดต่อของหนังจะไม่ได้เฉียบคมอะไร แต่ก็นับว่ายังตรงตามมาตรฐานที่ใช้ได้

 

Scroll to Top