กลับมาสานต่อลมหายใจให้กับแฟรนไชส์หนังไล่ฆ่าสับ ๆ ที่เคยสาแก่ใจคอหนังสุดโหด กลับมาในปีนี้กับ Fear Street Prom Queen ถนนอาถรรพ์ ราชินีงานพรอม ที่จะพาผู้ชมย้อนกลับไปดื่มด่ำกลิ่นคาวเลือดชวนสยองในยุค 80s ที่หนังชุดนี้ยังเว้นช่วงเอาไว้ให้ปูความสยองสานต่อ กับท่วงท่าความสยดสยองที่อาจจะไม่ได้สดใหม่อะไรยินดีต้อนรับกลับสู่ เชดี้ไซด์ ในปี 1988 ที่โรงเรียนมัธยมประจำเมืองมาถึงฤดูกาลจัดเทศกาลงานพรอม ในช่วงเวลาที่นักเรียนหนุ่มสาวกำลังมุ่งมั่นอยู่กับช่วงชิงตำแหน่งและมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีช่วงชีวิตวัยเรียน ความโหดเหี้ยมก็กำลังรอพวกเขาอยู่ เมื่อเด็กสาวธรรมดา ๆ ได้หลุดเข้าโผเป็นหนึ่งในผู้ชิงตำแหน่งด้วย โดยที่สาวฮอตตัวเต็งก็เริ่มหายตัวไปอย่างลึกลับทีละคน ดูเหมือนว่างานพรอมปีนี้จะต้องเผชิญหน้ากับความสยองสุดเหวี่ยงเป็นแน่แท้สำหรับในหนังภาคนี้ได้ผู้กำกับที่ยังไม่ค่อยมีชื่อ แมตต์ พาลเมอร์ ที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนังโรคจิต Calibre ของเน็ตฟลิกซ์ เมื่อหลายปีก่อน โดยเขายังรับหน้าที่เขียนบทหนัง ที่ยังได้แรงบันดาลใจมาจากตัวพ่อนิยายเลือดสาด โรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ สไตน์ อีกเช่นเคย โดยหนังยังมาพร้อมกับสูตรสำเร็จคุ้นเคยของสไตล์หนัง Slasher ที่มีแต่ไล่ ๆ สับ ๆ เป็นเกมแมวไล่จับหนูแบบสำเร็จรูปไปหมด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ มีหนังแนวนี้ผลิตออกมาค่อนข้างต่อเนื่อง ทั้งเป็นการปัดฝุ่นหยิบเอาของเก่ามาสร้างใหม่ หรือเป็นการปรุงแต่งสตอรี่ใหม่ ๆ บนพื้นฐานความคลาสสิกของหนังแนวนี้ นั่นจึงทำให้คอนเทนท์แนวนี้ค่อนข้างเป็นความบันเทิงแบบเจ็บแปล่บที่ธรรมดาไปเสียแล้ว หากไม่ได้มีกิมมิกอะไรที่โดดเด่น ก็ยากที่จะโดดเด้งออกมาให้ชวนประทับใจFear Street Prom Queen อาจจะเทียบกับหนังไตรภาคในปี 2021 ที่ผ่านมาไม่ได้ แต่หนังก็ยังคงรักษาอรรถรสและประสบการณ์ความเสียวสยองอย่างที่ควรจะเป็นตามแบบฉบับได้อย่างคงเส้นคงวา โชคดีที่ตัวหนังไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนมากนัก อีกทั้งยังค่อนข้างมีความกระชับดีในส่วนของการเล่าเรื่องด้วย แม้ว่าโครงสร้างจะไม่มีอะไรที่ใหม่เลยก็ตาม แต่แฟน ๆ หนังชุดนี้ก็น่าจะพึงพอใจ แม้ว่าห้วงอารมณ์ของหนังจะยังรังสรรค์ออกมาได้ยังไม่สุดก็ตามองค์ประกอบงานสร้างก็ยังถือว่ารักษามาตรฐานเอาไว้ดี กับงานออกแบบโปรดักชันและองค์ประกอบงานศิลป์ต่าง ๆ ที่ยังใช้ความมืดมาเป็นลูกเล่นในการสร้างสถานการณ์ความกลัว ผนวกเข้ากับการใช้แสงสีของไฟและเฉดเงาต่าง ๆ เข้ามาเพิ่มอรรถรสได้เป็นมาตรฐานที่ควรจะเป็นไป ถึงงานในส่วนเก็บรายละเอียดแห่งยุคจะยังไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่ มีหลายส่วนที่ดูไม่ค่อยเป็นยุค 80s ตอนปลายเท่าไหร่
ขณะที่ฝั่งทีมนักแสดงก็เลือกใช้ดาราหน้าใหม่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ฟาวเลอร์, ซูแซนนา ซอน และ ฟีนา สตาร์ซซา การแสดงของพวกเธอก็คล้าย ๆ กับรูปแบบหนังไล่ฆ่าทั่วไป ที่มักจะเชิญชวนคนสวยมาเป็นเหยื่อถูกไล่ฆ่าตามสูตร แต่พวกเขาเธอค่อนข้างช่วยประคับประคองตัวหนังเอาไว้ได้อย่างน่าดูชมไม่น้อยซ้ำยังได้ดาราเจ้าบทบาท อย่าง แคทเธอรีน วอเตอร์สตัน, ลิลลี เทย์เลอร์ หรือ คริส ไคลน์ มาร่วมเสริมทัพทีมนักแสดงได้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าในพาร์ทการแสดงจะยังไม่อาจจะช่วยประคองตัวหนังทั้งเรื่องเอาไว้ ได้ก็น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ที่ยกระดับความสยองให้กับหนังออกมาได้ชวนติดตามในระดับหนึ่งโดยภาพรวมแล้ว Fear Street: Prom Queen อาจจะไม่ได้เป็นการกลับมาที่หวือหวาประทับใจเท่ากับหนังไตรภาคที่เคยทำเอาไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่ก็ถือว่าหนังยังรักษามาตรฐานที่น่าพอใจเอาไว้ให้กับแฟรนไชส์นี้ แม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าจดจำได้สักเท่าไหร่ แต่หนังก็ยังหอบความบันเทิงในคาบความสยดสยองมาเซิร์ฟให้กับแฟน ๆ ได้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ