💥 รีวิวหนัง Play Dirty หักหลังต้องหักเหลี่ยม 💥 เล่ห์เหลี่ยมปล้นฉบับรวมดารา…ที่บันเทิงเกรดละคร (ตกยุคไปหน่อย)สวัสดีครับ! ถ้าคุณกำลังมองหาหนังแอ็คชั่น/ปล้น ที่รวมดาราแม่เหล็กไว้แน่นๆ มีบทพูดคมๆ มีหักเหลี่ยมเฉือนคมกันแบบคนไม่ดีเจอคนไม่ดียิ่งกว่าล่ะก็… “Play Dirty หักหลังต้องหักเหลี่ยม” ที่สตรีมมิ่งทาง Prime Video เรื่องนี้ก็น่าจะอยู่ในเรดาร์ของคุณแน่นอน เพราะนี่คือผลงานของ เชน แบล็ก (Shane Black) ผู้กำกับ/มือเขียนบทระดับตำนานเจ้าของลายเซ็นหนังคู่หูสุดแสบ อย่าง Kiss Kiss Bang Bang และ The Nice Guys ที่กลับมาพร้อมพล็อตการปล้นสุดซับซ้อน
📝 พล็อตเรื่อง: ปาร์กเกอร์ นักปล้นสมองเพชร
หนังเรื่องนี้สร้างมาจากนิยายชุด “ปาร์กเกอร์” ของ ริชาร์ด สตาร์ก (Richard Stark) ซึ่งถูกดัดแปลงมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว คราวนี้ได้ มาร์ก วาห์ลเบิร์ก มารับบทเป็น “ปาร์กเกอร์” จอมโจรสุดโหดที่ถูกหักหลังหลังจากการปล้นครั้งใหญ่ แน่นอนว่าคนอย่างปาร์กเกอร์ยอมไม่ได้ เขาจึงต้องตามล่าเอาเงินคืน พร้อมๆ กับจัดฉากหักหลังคนที่หักหลังเขาให้สาสม โดยมีเดิมพันเป็นเงินมหาศาล และชีวิตของทั้งมาเฟียตัวเป้งจากนิวยอร์ก ยันเผด็จการจากอเมริกาใต้!
พล็อตฟังดูคลาสสิกของหนังปล้น/หักหลังใช่ไหมครับ? ใช่เลย… แต่มันพยายามจะซับซ้อนขึ้นไปอีกด้วยการเพิ่มตัวละครเข้ามาเยอะมาก ชนิดที่ว่าดูไปต้องพยายามจำว่าใครอยู่ข้างไหน แล้วใครจะแทงข้างหลังใครเป็นคนต่อไป!
✨ สิ่งที่หนัง “มีของ” แต่ใช้ได้ไม่สุด
- ลายเซ็นของ เชน แบล็ก: บทพูดคมกริบแต่ “เยอะ” ไปหน่อย
สิ่งที่แฟนๆ เชน แบล็ก รักคือบทพูดที่เต็มไปด้วยมุกตลกจิกกัดที่มาอย่างรวดเร็ว (Wisecracks) และการเล่าเรื่องในช่วงคริสต์มาส แต่ใน Play Dirty ครั้งนี้ บทพูดของเขาถูก “ยัด” เข้ามาเยอะเกินไป จนบางครั้งมันกลายเป็นความจ้อที่ไม่จำเป็น ทำให้หนังรู้สึกยืดเยื้อ และดูพยายามตลกจนเกินงาม แทนที่จะไหลลื่นเหมือนผลงานชิ้นเอกก่อนหน้า
- นักแสดงสมทบที่โคตรเด่น
แม้ว่า มาร์ก วาห์ลเบิร์ก จะมาในบทบาทที่นิ่งและจริงจัง แต่ที่ขโมยซีนไปหมดคือเพื่อนร่วมแก๊งค์และศัตรูคนอื่นๆ โดยเฉพาะ ลาคีธ สแตนฟิลด์ ในบท “โกรฟิลด์” ที่เป็นคู่หูสุดแสบ และ โรซ่า ซาลาซาร์ ที่มีเคมีเข้ากันกับมาร์กอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขานี่แหละคือ “เครื่องมือ” ที่ทำให้หนังยังพอมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้บ้าง
- ฉากแอ็คชั่นที่ “จัดเต็ม” เกินเบอร์
ฉากแอ็คชั่นหลายฉากถูกออกแบบมาให้ดูโอเวอร์และบ้าระห่ำตามสไตล์หนังแอ็คชั่นคอมเมดี้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ “งานสร้าง” บางส่วน โดยเฉพาะฉากที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก (CGI) ซึ่งดู “ลอย” และ “ไม่เนียน” อย่างเห็นได้ชัด จนรู้สึกเหมือนดูหนังแอ็คชั่นเกรด B ยุค 90s ที่ได้งบมาทำเอฟเฟคไม่ถึง
💔 จุดที่ทำให้รู้สึกว่า “ไม่สุด”
ต้องยอมรับว่านี่คือหนังที่รวมความพยายามที่จะ “ใหญ่” เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งจำนวนตัวละคร พล็อตที่ซ้อนหลายชั้น และฉากแอ็คชั่นระดับบล็อกบัสเตอร์ แต่มันกลับไม่ลงตัว
- ความไม่ต่อเนื่องของโทน: บางช่วงจริงจังดาร์กสุดๆ บางช่วงก็ตลกจนหลุดโลก ทำให้คนดูตามอารมณ์หนังไม่ทัน และไม่รู้สึก “อิน” หรือแคร์ตัวละครอย่างที่ควรจะเป็น
- บทปาร์กเกอร์ที่ “เฉยชา”: มาร์ก วาห์ลเบิร์ก เล่นบทปาร์กเกอร์ได้ตามมาตรฐาน…แต่ก็แค่นั้น! ปาร์กเกอร์ควรเป็นจอมโจรที่มีเสน่ห์ล้นเหลือและน่ากลัวไปพร้อมกัน แต่วาห์ลเบิร์กกลับทำให้ตัวละครนี้ดู “แบน” ขาดมิติและความเจ้าเล่ห์ที่คนดูจะรู้สึกทึ่งได้
- ความซับซ้อนที่กลายเป็น “ความรก”: การหักหลังซ้ำซ้อนจนเกินความจำเป็น ทำให้พล็อตเรื่องดู “รก” และ “อ่อน” ลงไปพร้อมกัน เราไม่จำเป็นต้องเห็นการแทงข้างหลังถึง 5 ครั้งในครึ่งชั่วโมงแรกเพื่อจะเข้าใจว่าโลกนี้ไม่มีใครไว้ใจได้!
สรุป: บันเทิงเกรดละคร (ที่ยังดูได้)
“หักหลังต้องหักเหลี่ยม” ไม่ใช่หนังที่แย่ แต่มันเป็นความผิดหวังเล็กๆ สำหรับแฟนๆ ที่คาดหวังความยอดเยี่ยมระดับ The Nice Guys มันเหมือนกับหนังรวมดาราที่แต่ละคนต่างคนต่างเล่นตามบทตัวเองไปหน่อย แถมยังใส่ “สูตรสำเร็จ” ของหนังปล้น/หักหลัง/แอ็คชั่นคอมเมดี้ลงไปจนแน่นเอี๊ยด
- ถ้าคุณเป็นแฟนของ เชน แบล็ก: ดูเถอะ! เพราะคุณจะยังเห็นลายเซ็นของเขาอยู่ แต่ให้ทำใจว่ามันคือเวอร์ชั่นที่จืดจางลง
- ถ้าคุณแค่อยากดูหนังปล้นมันส์ๆ ไม่คิดมาก: ก็พอได้! คุณจะได้ดูฉากยิงกันสนั่น และมุกตลกแบบเรื่อยๆ ที่ทำให้สองชั่วโมงผ่านไปได้
สรุปสั้นๆ: มันคือหนังที่ “ดูสนุกแบบไม่คาดหวัง” ไม่ได้ “ว้าว” แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียเวลาดูจนรู้สึกแย่ เป็นความบันเทิงระดับ Prime Video Original ที่…ก็รู้กันอยู่ว่ามันประมาณไหน




