รีวิวเกม Mass Effect Legendary Edition คืนชีพมหากาพย์ไซไฟ RPG ระดับตำนาน

      Mass Effect ชื่อซีรี่ส์นี้อาจจะฟังดูไม่ขลังเท่าไหร่สำหรับเกมเมอร์รุ่นใหม่ในยุคนี้ แต่สำหรับคอเกมรุ่นเก๋าทั้งหลาย นี่คือหนึ่งในไตรภาคเกมสวมบทบาทที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ที่สำคัญกว่าคือมันยังเป็นมหากาพย์ไซไฟอวกาศที่มีเรื่องราวสนุกน่าติดตามที่สุด สนุกจนถึงขั้นนำไปเทียบชั้นกับภาพยนตร์หรือซีรีส์อวกาศดี ๆ เรื่องหนึ่งได้เลยทีเดียว น่าเสียดายที่กาลเวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปีแล้วหลังจากยุครุ่งโรจน์ของ Mass Effect และเราอาจจะไม่ได้สัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว… แต่เดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ทาง EA และทีมพัฒนา Bioware ก็ดันตัดสินใจนำเกม Mass Effect ภาค 1 2 และ 3 มาปัดฝุ่นพร้อมกับขัดสีฉวีวรรณใหม่ซะงั้น ชุบตัวเสร็จแล้วก็มัดแพ็กปล่อยขายใหม่ในนามว่า “Legendary Edition” กันแบบสด ๆ ร้อน ๆ เปิดโอกาสให้เกมเมอร์ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าได้สัมผัสถึงยุคทองของเกมแอ็กชัน RPG แบบเล่นคนเดียวของแท้และดั้งเดิม ว่าแต่เสน่ห์ของ Mass Effect จะยังคงขลังเหมือนเดิมในวงการเกมปี 2021 

       ไหมนะขัดเกลาไตรภาคอวกาศ เวอร์ชัน ตำนาน จนเงาวับก่อนอื่นเรามาว่ากันถึงจุดที่โดดเด่นที่สุดของเกม Mass Effect Legendary Edition กันก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันคือเรื่องของคุณภาพงานภาพและงานเสียงที่ดีขึ้นกว่าเกมเวอร์ชันต้นตำรับอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเกม Mass Effect ภาค 1 และภาค 2 ที่ได้รับการขัดเกลาจนน่าดูชมไม่ต่างจากเกมอื่น ๆ ในยุคปัจจุบัน ด้วยงานภาพเท็กซ์เจอร์ที่ละเอียดระดับ 4K พร้อมกับเฟรมเรตที่ลื่นหัวแตกจนสามารถพุ่งไปแตะ 120 fps ในเครื่อง PC และคอนโซลเน็กซ์เจนได้สบาย ส่วนคุณภาพเสียงก็ได้รับการขัดเกลาใหม่จนเสียงเอฟเฟกต์ปืนฟังดูหนักแน่นทรงพลังแทบทุกกระบอก เสียงพูดของตัวละครในบทสนทนาส่วนใหญ่ก็ชัดเจนขึ้นจนไม่ต้องเงี่ยหูใกล้ลำโพงอีกต่อไป และเสียงดนตรีประกอบเกมแบบเพลงเทคโนผสมออเคสตร้าก็ฟังระรื่นหูมาก ที่สำคัญเกมยังโหลดเร็วกว่าเดิมมากราวกับเพิ่งเอาเครื่องยนต์ความเร็วแสงมาติดตั้ง กะพริบตาไม่กี่ทีก็พร้อมให้ลุยจักรวาลกันต่อแล้ว บางคนอาจจะสงสัยว่าแค่การปรับโฉมภาพเสียงอะไรเทือกนี้มันส่งผลกับความสนุกเกมด้วยเหรอ? ก็ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่าภาพคม ๆ เสียงดี ๆ และเฟรมเรตเกมลื่น ๆ ช่วยให้เกมสนุกกว่าเดิมได้อีกเยอะเลยนะครับ ฟันธง

         อีกเรื่องหนึ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากใน Mass Effect Legendary Edition ก็คือการที่ระบบเกมเพลย์ของภาคหนึ่งได้รับการพัฒนาแบบยกเครื่อง โดยทีมพัฒนา Bioware เขาปรับ UI ของเกมภาคแรกให้ดูใกล้เคียงกับภาค 2 และภาค 3 มากขึ้น ทำให้คุณสามารถดูพลังชีวิตและเรียกใช้ท่าพิเศษจากเหล่าเพื่อนในทีมได้ง่ายขึ้น ทั้งยังปรับระบบการอัปเลเวลให้ผู้เล่นเลือกแบบ Legendary Mode ได้ ช่วยให้คุณสามารถไต่เลเวลจนเต็มแม็กซ์ได้ในการเล่นรอบเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเล่น New Game Plus อีกที และที่สำคัญคือเกมยังปรับ AI ของทั้งฝั่งศัตรูและเพื่อนร่วมทีมให้สู้อย่างฉลาดมากขึ้น ช่วยให้ฉากแอ็คชันในเกมภาคหนึ่งสนุกขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของรถหุ้มเกราะ 6 ล้อนามว่า Mako ก็ได้รับการจูนให้ขับขี่ได้คล่องตัวขึ้นบ้าง ขับไหลไปไหลมาน้อยลงหน่อย แต่จะให้บอกว่ามันขับสนุกจนเหมือนเล่นเกมรถแข่งเลยก็คงไม่ใช่ เอาเป็นว่าแค่ขับแล้วรู้สึกปวดหัวน้อยลงเท่านั้นแหละนอกจาก Mass Effect ภาคหนึ่ง Legendary Edition ยังได้ปรับปรุงองค์ประกอบปลีกย่อยของเกมทั้ง 3 ภาคอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อช่วยให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นที่ลื่นไหลขึ้น 

Scroll to Top