เสียงที่ใครได้ยินก็คงหวนนึกถึงช่วงเวลาในอดีตอันหอมหวานที่เราได้สนุกสนานกับเกม ๆ นี้ทว่าล่าสุดในวันที่ 29 มีนาคม 2024 ได้มีประกาศออกมาว่าทาง Pangya จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวรในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2024 หลังจากที่เปิดให้บริการมากว่า 19 ปี ซึ่งน่าจะทำให้ผู้เล่นและผู้เคยเล่นมากมายใจหายกับการบอกลาครั้งนี้และในวันนี้ เนื่องในโอกาสที่เรากำลังจะบอกลาเกมในตำนานอย่าง PangYa เราจะขอย้อนรอยถึงความหลังถึงที่มาาที่ไปของเกมในตำนาน เกมขวัญใจชาว Gen Y เกมที่เป็นหมุดหมายสำคัญของอดีตอันสนุกสนาน ที่เราได้ตีกอล์ฟพร้อมีเสียง ปังย่า ดังขึ้นตามมา กว่าจะเป็น ปังย่าย้อนกลับไปเมื่อยุคต้นปี 2000 หลาย ๆ คนคงรู้สึกคุ้นชินกับเกมออนไลน์ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์มาจากแดนเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็น Ragnarok Online, Cabal Online, Ran Online, TalesRunner และอื่น ๆ อีกมากมาย จัดได้ว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของเกมสัญชาติเกาหลีเลยทีเดียว
เกมออนไลน์นามว่า เกมปังย่า ก็เช่นกัน โดยตัวเกมได้ถูกพัฒนาโดยบริษัท NtreevSoft และ NCsoft มีแรงบันดาลใจในการสร้าง มาจากเกมกอล์ฟ 3 จังหวะชื่อ Minna No Golf (1997) จาก เครื่อง Playstation 1 และเกม Nintendo Golf (1984) กับ Mario Golf (1999) จากค่าย Nintendo และทั้งหมดนี้ก็ได้รวมกันจนเกิดมาเป็น เกมกอล์ฟแนว Fantasy – MMO ที่เรารู้จักกันในนาม Pangya นั่นเองPangya ได้เปิดบริการครั้งแรกในปี 2004 ที่ประเทศเกาหลี ก่อนจะมาเปิดที่ประเทศไทยในปี 2005 ซึ่งถูกนำเข้ามาโดยบริษัท Ini3 Digital และได้ถูกเปิดยาวนานมาจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 19 ปีแล้ว
เสน่ห์หลัก ๆ ของ เกมตีกอล์ฟ ที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนหลงใหลใน PangYa ก็คงหนีไม่พ้นการรวมเอาเกมกีฬากอล์ฟไปผนวกเข้ากับความเป็นเเฟนตาซี จนทำให้ใครหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เล่นกอล์ฟจริง ๆ ในชีวิตสามารถสนุกไปกับเกมได้ ตัวเกมสามารถดึงความเป็นกอล์ฟเข้ามาไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการวัดลม, การตี Par 3 , Par 5 การมีคะแนนอย่าง Bogey, Birdie, Eagle การที่ผู้เล่นนอกจากจะเเข่งกับคนอื่นแล้วยังต้องแข่งกับตัวเองและรู้จักควบคุมอารมณ์พยายามทำให้คะแนนเราดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ ตา และอื่นๆ ที่มีความกับกอล์ฟจริง ๆ เป็นอย่างมากด้วยเหตุนี้จึงไม่เพียงทำให้กอล์ฟเข้าถึงง่ายสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นหรือเล่นไม่เป็น แต่ยังทำให้คนที่ชอบกอล์ฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ สามารถสนุกกับเกมได้เช่นกัน และเสน่ห์ในข้อนี้ส่งผลให้ใครหลาย ๆ คนให้ความสนใจ PangYa เป็นอย่างมากนั่นเอง
ชื่อเสียงของเกมในยุคนั้นส่งผลให้เกิดสิ่งที่ทำให้ผู้ปกครองหลาย ๆ คนต้องประหลาดใจ เนื่องจากหลังจากได้ลองเล่นเกมดูแล้ว ลูก ๆ ที่เป็นเด็ก Gen Y หลายคนก็ดูกอล์ฟเป็นเสียอย่างงั้น ทั้ง ๆ ที่กีฬากอล์ฟไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้นในประเทศไทย เป็นกีฬาที่คนส่วนน้อยนั้นจะเล่น แต่ลูกพวกเขานั้นกลับดูกอล์ฟเป็นและสามารถคุยกับ คุณพ่อหรือแม่ที่ ชื่นชอบในกีฬากอล์ฟได้แถมยังส่งผลให้เด็ก ๆ หลายคนหันมาเล่นกีฬากอล์ฟกันอีกด้วย