เป็นเกมมือถือแนว RPG ที่ผสมผสานกลยุทธ์และระบบการ์ดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ตัวเกมโดดเด่นด้วยภาพกราฟิกแนวอนิเมะสไตล์ญี่ปุ่น และระบบการเล่นที่หลากหลาย ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปรีวิวเจาะลึกเกี่ยวกับโหมดการเล่นต่างๆ ภายในเกม Detariki Z ที่เป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นติดหนึบและกลับมาเล่นซ้ำทุกวัน
โหมดเนื้อเรื่อง (Story Mode)
โหมดเนื้อเรื่องถือเป็นโหมดหลักที่ผู้เล่นต้องผ่านเพื่อปลดล็อคคอนเทนต์ต่างๆ ภายในเกม เรื่องราวจะเล่าถึงสงครามระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจากต่างมิติ โดยผู้เล่นจะรับบทเป็นผู้บัญชาการที่คอยควบคุมเหล่าตัวละครสาวสวยที่เรียกว่า “Detariki” ออกปฏิบัติภารกิจในแต่ละด่าน ระบบการเล่นในโหมดนี้เป็นแบบ Turn-based Strategy ที่ให้ผู้เล่นเลือกจัดทีมและวางแผนการใช้สกิลอย่างเหมาะสม ภาพคัตซีนและบทสนทนาในแต่ละตอนยังเพิ่มความลึกให้กับตัวละครและเนื้อเรื่อง ทำให้ผู้เล่นอินไปกับเกมมากขึ้น
อารีน่า (PvP Arena)
สำหรับสายชอบการแข่งขัน โหมดอารีน่าคือพื้นที่ให้ผู้เล่นนำทีมของตัวเองไปดวลกับทีมของผู้เล่นคนอื่นใน รูปแบบ PvP แบบเรียลไทม์หรือแบบออฟไลน์ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ผู้เล่นต้องจัดทีมให้สมดุล ทั้งตัวแทงค์ ตัวซัพพอร์ต และตัวทำดาเมจ เพื่อรับมือกับคู่ต่อสู้ที่หลากหลาย โหมดนี้จะมีการจัดอันดับประจำสัปดาห์ พร้อมแจกของรางวัล เช่น เพชร ไอเทมพิเศษ หรือชิ้นส่วนตัวละครหายาก นอกจากนี้ ยังมีระบบรีเพลย์ให้ชมการต่อสู้ย้อนหลัง เพื่อวิเคราะห์จุดอ่อนของทีมตัวเองและวางแผนปรับปรุงในรอบต่อไป
โหมดบอสเรด (Boss Raid)
เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบความท้าทายแบบทีมเวิร์ค ผู้เล่นจะต้องรวมพลังกับเพื่อนในกิลด์ หรือจับคู่กับผู้เล่นออนไลน์คนอื่น เพื่อจัดทีมเข้าต่อสู้กับบอสขนาดใหญ่ที่มีเลือดจำนวนมาก การเลือกตัวละครที่เหมาะสมกับแต่ละบอสถือเป็นหัวใจสำคัญของโหมดนี้ เพราะบอสแต่ละตัวจะมีสกิลและรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกัน เช่น บอสบางตัวเน้นโจมตีเป็นวงกว้าง บางตัวเน้นดีบัฟหรือควบคุมทีมผู้เล่น หลังจบการต่อสู้ ระบบจะแจกของรางวัลตามระดับความเสียหายที่ผู้เล่นทำได้ รวมถึงโอกาสได้รับของหายากอีกด้วย
โหมดกิจกรรมพิเศษ (Event Mode)
จะมีอีเวนต์สลับสับเปลี่ยนมาตลอดทั้งเดือน เช่น อีเวนต์สะสมแต้มแลกของ อีเวนต์สุ่มตัวละครพิเศษ หรือภารกิจเวลาจำกัดที่ให้ของรางวัลแบบจัดเต็ม โหมดนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการของหายาก หรือตัวละครลิมิเต็ดในช่วงเวลาจำกัด นอกจากนี้ยังมีด่านพิเศษที่เพิ่มระดับความท้าทายมากกว่าปกติ เพื่อดึงดูดให้ผู้เล่นกลับมาเล่นทุกวัน
โหมดสำรวจ (Exploration Mode)
อีกหนึ่งโหมดเสริมที่น่าสนใจคือโหมดสำรวจ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นส่งตัวละครออกไปเก็บทรัพยากรโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเล่นเอง ผู้เล่นสามารถตั้งทีม เลือกภารกิจ และปล่อยให้ตัวละครเดินทางไปทำเควสตามเวลาจริง ระยะเวลาสำรวจมีตั้งแต่ไม่กี่นาทีจนถึงหลายชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ไม่สามารถเล่นเกมได้ตลอดเวลาแต่ยังอยากสะสมทรัพยากร
