ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของผู้กำกับชื่อดัง คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ยังคงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แนวไซไฟระทึกขวัญที่ถูกพูดถึงมากที่สุดจนถึงปัจจุบัน ด้วยเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน ท้าทายความคิด และเต็มไปด้วยชั้นเชิงทางจิตวิทยา Inception ไม่ได้เป็นแค่หนังแอ็กชันธรรมดา แต่มันคือการเดินทางเข้าสู่ความลึกของจิตใจมนุษย์ ผ่านฝันซ้อนฝันที่ยากจะแยกแยะว่าอะไรคือความจริง และอะไรคือจินตนาการ
ดอม ค็อบบ์ (Dom Cobb) รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ คือผู้เชี่ยวชาญด้าน “การล้วงฝัน” หรือ Extractor ซึ่งมีหน้าที่เจาะเข้าสู่จิตใต้สำนึกของเป้าหมายขณะกำลังฝัน เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ ค็อบบ์มีความสามารถเหนือมนุษย์ในการสร้างและควบคุมโลกแห่งความฝัน แต่เขาต้องแลกมาด้วยการถูกตามล่าจากหลายฝ่าย และไม่สามารถกลับบ้านไปหาลูกๆได้ วันหนึ่งเขาได้รับภารกิจจาก ไซโตะ (Saito) นักธุรกิจญี่ปุ่นผู้มีอิทธิพล ให้ทำสิ่งที่ตรงข้ามกับการขโมยข้อมูล นั่นคือ “การฝังไอเดีย” หรือที่เรียกว่า Inception ให้กับเป้าหมาย คือ โรเบิร์ต ฟิสเชอร์ (Robert Fischer) ทายาทของมหาเศรษฐี เพื่อทำให้เขาแบ่งแยกบริษัทตามเจตนารมณ์ของพ่อ
การจะทำ Inception ให้สำเร็จต้องใช้ทีมที่ชำนาญเฉพาะทาง ตั้งแต่ อาเธอร์ (ผู้วางแผน), อาเรียดเน่ (ผู้ออกแบบโลกฝัน), อีมส์ (นักปลอมแปลงบุคลิก) ไปจนถึง ยูซุฟ (นักเคมีผู้ผลิตสารกระตุ้นฝัน) แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดกลับไม่ใช่เป้าหมายหรือตัวภารกิจ หากแต่เป็น “มัล” (Mal) ภรรยาผู้ล่วงลับของค็อบบ์ ที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาในความฝัน และกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในภารกิจครั้งนี้ มีจุดเด่นในหลายด้าน ตั้งแต่ บทภาพยนตร์ที่ลุ่มลึก ซึ่งพูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก ความจริงที่สัมผัสไม่ได้ และพลังของไอเดียที่ฝังแน่นในจิตใจ การเล่าเรื่องที่ซ้อนซับหลายชั้นของความฝันซึ่งเวลาไหลต่างกันในแต่ละระดับ เพิ่มแรงกดดันและความตึงเครียดให้ผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้านงานภาพและเทคนิคพิเศษ ถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่น ด้วยฉากการต่อสู้ในห้องที่ไร้แรงโน้มถ่วง อาคารเมืองที่บิดเบี้ยวพับตัว หรือฉากล่มสลายของโลกความฝัน ต่างถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน และเต็มไปด้วยสัญลักษณ์เชิงจิตวิทยา ดนตรีประกอบโดย Hans Zimmer ก็มีบทบาทอย่างมากในการสร้างบรรยากาศ ด้วยท่วงทำนองที่ทรงพลัง ลึกลับ และเร้าอารมณ์ โดยเฉพาะเสียงเบสหนักๆ ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ติดหูของหนังเรื่องนี้
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ถ่ายทอดบทของค็อบบ์ได้อย่างลึกซึ้งและน่าเชื่อถือ ทั้งในฐานะนักจารกรรมในโลกฝันและในฐานะชายที่ถูกความรู้สึกผิดกัดกินจากอดีต การแสดงของเขาผสมผสานทั้งความเฉียบแหลม ความอ่อนแอ และความทรงจำที่บีบคั้นใจได้อย่างลงตัว นักแสดงสมทบอย่าง โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์, เอลเลน เพจ, ทอม ฮาร์ดี้ และ คิลเลียน เมอร์ฟี่ ต่างก็เติมเต็มบทบาทของตนได้อย่างมีมิติและน่าจดจำ โดยเฉพาะฉากการทำงานร่วมกันเป็นทีมในโลกฝันที่ท้าทาย
เป็นมากกว่าภาพยนตร์บันเทิง เพราะมันสะท้อนถึงคำถามที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิต ความเป็นจริง และจิตใต้สำนึกว่าเราแน่ใจได้อย่างไรว่าโลกที่เราอยู่คือของจริงและไอเดียเพียงหนึ่งเดียว สามารถเปลี่ยนอนาคตของคนๆ หนึ่งได้มากเพียงใด คือผลงานที่ผสมผสานศิลปะ ภาพยนตร์ และวิทยาศาสตร์ทางจิตวิทยาได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งฉลาดในการเล่าเรื่อง ลุ่มลึกในประเด็น และสร้างสรรค์ในด้านภาพและเสียง นี่คือภาพยนตร์ที่ผู้ชมสามารถกลับไปดูซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังคงค้นพบแง่มุมใหม่ๆ ทุกครั้งที่ได้สัมผัส เพราะในโลกของฝัน ไม่มีสิ่งใดแน่นอน
