ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร

Tales From Earthsea ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร

🐉 รีวิว: Tales From Earthsea ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร – นี่คือความงดงามที่คนรัก Ghibli ไม่ควรพลาด!สวัสดีเพื่อนๆ! วันนี้ขอมาป้ายยาหนังเรื่องนึงที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตา หรืออาจจะยังไม่ได้เปิดใจดู นั่นก็คือ “Tales From Earthsea” หรือ “ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร” หนังอนิเมะจากสตูดิโอ Ghibli ที่กำกับโดยคุณ Goro Miyazaki (โกโร่ มิยาซากิ) ลูกชายสุดที่รักของปรมาจารย์ Hayao Miyazaki นั่นเองค่ะ!บอกตรงๆ ว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่มีกระแสค่อนข้างหลากหลายมากตอนที่เข้าฉายใหม่ๆ บางคนก็รัก บางคนก็รู้สึกว่ามัน “ไม่เหมือน Ghibli” ในแบบที่คุ้นเคย แต่สำหรับฉันนะ… มันคือความงดงามที่ซ่อนอยู่ และมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าค้นหามากๆ เลยล่ะ!

 

🌍 โลกของ Earthsea: สวยงาม ลึกลับ และกำลังจะพังทลาย

ถ้าใครเคยอ่านวรรณกรรมต้นฉบับของ Ursula K. Le Guin มาก่อนจะรู้ว่าโลกของ Earthsea มันยิ่งใหญ่และเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ขนาดไหน หนังเรื่องนี้พาเราดำดิ่งสู่โลกที่เต็มไปด้วยเกาะแก่ง พ่อมดแม่มด และ… มังกร!

สิ่งที่น่าขนลุกตั้งแต่ต้นเรื่องคือการที่เราเห็นความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น: มังกรสองตัวที่ควรจะอยู่แต่ในโลกของพวกมัน จู่ๆ ก็มาต่อสู้กันเหนือท้องฟ้าของมนุษย์… และนั่นเป็นสัญญาณว่า “ความสมดุล” ของโลกกำลังจะถูกทำลาย!

เรื่องราวโฟกัสไปที่ เจ้าชายอาร์เรน (Arren) หนุ่มน้อยผู้มีอดีตที่มืดมิดและเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายในจิตใจ จนเขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด… และหลบหนีออกมาจากการเป็นเจ้าชาย! การเดินทางของเขาเริ่มขึ้นเมื่อได้พบกับ พ่อมดเกด (Ged) หรือที่รู้จักกันในนาม “เหยี่ยว” (Sparrowhawk) พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดใน Earthsea

ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร

เคมีระหว่าง อาร์เรน กับ เกด: มิตรภาพที่เยียวยา

การเดินทางของคู่นี้มันชวนให้เราคิดถึงการเป็นคนหนุ่มสาวที่กำลังหลงทาง แล้วได้พบกับผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะนำทางแต่ไม่ชี้นำ เคมีระหว่างอาร์เรนกับเกดมันคือความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ เกดพยายามจะสอนให้อาร์เรนเห็น “คุณค่า” ของการมีชีวิตอยู่ และการยอมรับ “ความตาย” ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องวิ่งหนี

ระหว่างทาง พวกเขาได้แวะพักที่บ้านของ เทนาร์ (Tenar) หญิงสาวแกร่งที่เคยมีอดีตเกี่ยวข้องกับเกด และได้พบกับ เทรู (Therru) เด็กสาวผู้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและมีกำแพงในใจที่หนาเตอะ

ฉากที่บ้านของเทนาร์เป็นช่วงที่ฉันชอบมากที่สุดเลยค่ะ! มันคือความสงบก่อนพายุจะเข้า เราได้เห็นชีวิตที่เรียบง่าย การทำไร่ไถนา การอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ… ซึ่งมันตัดกับความวุ่นวายภายนอกโลกที่กำลังถูกรุกรานโดย อาจารย์คุโมะ (Cob) จอมเวทย์ชั่วร้ายที่ต้องการ “ความเป็นอมตะ” และพยายามจะเปิดประตูระหว่างโลกคนเป็นกับโลกคนตาย!

💔 ทำไมหลายคนถึงบอกว่า “ไม่สนุก” เท่า Ghibli เรื่องอื่น?

ถ้าคุณคาดหวังความแฟนตาซีแบบพุ่งทะลุ หรือความมหัศจรรย์แบบ Spirited Away หรือความน่ารักฟรุ้งฟริ้งแบบ My Neighbor Totoro บอกเลยว่าคุณอาจจะผิดหวังเล็กน้อยค่ะ

โทนที่ มืดมน เศร้า และจริงจัง กว่ามาก มันพูดถึงปรัชญาชีวิตและความตายอย่างตรงไปตรงมา มันไม่ได้เน้นที่แอ็กชันหวือหวา แต่มันเน้นไปที่ การสำรวจจิตใจของตัวละคร โดยเฉพาะความมืดมิดในใจของเจ้าชายอาร์เรน ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความวุ่นวายในโลกนั่นเอง

หลายคนวิจารณ์ว่าการดำเนินเรื่องค่อนข้าง เนิบช้า และบางส่วนอาจจะดู “งงๆ” ถ้าไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อน แต่ถ้าเรามองว่านี่คือการเดินทางเพื่อค้นหาและเยียวยาตัวเองของตัวละครหลัก… มันจะกลายเป็นหนังที่ “ละเมียดละไม” อย่างไม่น่าเชื่อ!

 

🎨 งานภาพและเพลงประกอบ: สวยงามตามมาตรฐาน Ghibli

แน่นอนว่างานภาพของ Ghibli ไม่เคยทำให้ผิดหวัง! ถึงแม้ลายเส้นจะไม่ได้ดูสดใสเท่าเรื่องอื่นๆ แต่ความละเอียดของฉากหลัง ท้องฟ้า ทะเล และบรรยากาศของเกาะต่างๆ มันสวยงามจนอยากจะวาร์ปเข้าไปอยู่ในนั้นเลยล่ะ!

และที่ขาดไม่ได้คือ เพลงประกอบของ Tamiya Terashima ที่ใส่มาได้ถูกที่ถูกจังหวะมากๆ เพลงหลักอย่าง “Therru’s Song” (หรือ Toki no Uta) ที่ขับร้องโดย Aoi Teshima คือที่สุดของความไพเราะ ฟังแล้วขนลุกซู่ มันคือเพลงที่เล่าถึงความหวังและพลังในการมีชีวิตอย่างแท้จริง

 

ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร

💖 สรุป: เปิดใจแล้วคุณจะเห็นความหมายที่ซ่อนอยู่

ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร ถ้าคุณกำลังมองหาอนิเมะที่ให้มากกว่าความบันเทิง แต่ให้คุณได้ “ขบคิด” เกี่ยวกับชีวิต ความสมดุลของธรรมชาติ ความดี-ความชั่ว และการยอมรับด้านมืดในจิตใจตัวเอง… ฉันขอแนะนำให้คุณเปิดใจดู Tales From Earthsea อีกครั้งค่ะ

มันอาจจะไม่ใช่ Ghibli ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในสายตาของทุกคน แต่มันคือผลงานที่เต็มไปด้วย “ความกล้าหาญ” ที่จะพูดถึงประเด็นหนักๆ และทิ้งท้ายไว้ด้วยความหวังที่อบอุ่นหัวใจมากๆ

คะแนนของฉัน: 8/10 (หักนิดหน่อยตรงที่เนื้อเรื่องบางส่วนอาจจะกระโดดไปมาบ้างสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือ)

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทาง คือการที่เราค้นพบตัวเองอีกครั้ง และหาความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความมืดมิดในใจ”

 

Scroll to Top