0531-fea-bhr-L-when1

เหยื่ออธรรม When They See Us

รีวิวหนัง When They See Us เป็นมินิซีรีส์ปี 2019 จำนวน 4 ตอน (ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที) สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ทาง netflix กำกับและเขียนบทโดยเอวา ดูเวอร์เนย์ งานชิ้นนี้ประสบความสำเร็จครอบคลุม ทั้งจำนวนผู้ชม เสียงตอบรับและคำวิจารณ์ที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก รวมถึงการได้รับเสนอชื่อเข้าชิงและคว้ารางวัลจากหลายๆ สถาบัน

When They See Us

สำหรับ When They See Us สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เป็นข่าวสะเทือนขวัญ รู้จักกันในชื่อ The Central Park Jogger case หรือ The Central Park Five case คดีดังกล่าว เกิดขึ้นในคืนวันที่ 19 เมษายน 1989 วัยรุ่นผิวดำและฮิสแปนิก (ชาวอเมริกันที่ใช้ภาษาสเปน) ประมาณ 30 คน รวมกลุ่มกันเข้าไปในสวนสาธารณะเซ็นทรัล พาร์ค ด้วยอาการคึกคะนอง แล้วเลยเถิดเป็นความวุ่นวายเหนือการควบคุม พวกเขาข่มขู่คุกคามคนที่มาขี่จักรยานออกกำลังกาย และมีจำนวนหนึ่งรุมทำร้ายร่างกายชายผิวขาว

 

เมื่อตำรวจสายตรวจได้รับแจ้ง จึงรุดมายังที่เกิดเหตุและจับกุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว (บางคนก็หลบหนีไปได้) เหตุการณ์ทั้งหมดน่าจะลงเอยในรูปการณ์ที่ว่า ตำรวจกักตัววัยรุ่นเหล่านี้ชั่วคราว ลงบันทึกประจำวัน ติดต่อผู้ปกครองมารับกลับบ้าน เพื่อรับทราบพฤติกรรมของบุตรหลาน ระมัดระวังตักเตือน ไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้อีก รวมทั้งสืบหาว่าผู้ก่อคดีทำร้ายร่างกายคือใคร แต่แล้วก็เกิดการพลิกผันขนานใหญ่ เวลาประมาณตีหนึ่ง ตำรวจได้รับแจ้งว่า พบหญิงสาวคนหนึ่งถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสปางตายในเซ็นทรัล พาร์ค

 

ลินดา แฟร์สไตน์ อัยการเมืองนิวยอร์ค ผู้ดูแลรับผิดชอบคดีอาชญากรรมความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พบเห็นสภาพสยดสยองของเหยื่อผู้ถูกกระทำอย่างโหดเหี้ยมทารุณ เธอจึงคาดคั้นกดดันตำรวจทุกวิถีทางให้สืบหาตัวคนร้าย เมื่อสันนิษฐานช่วงเวลาที่น่าจะเกิดการทำร้ายร่างกายและข่มขืน เป็นระยะใกล้เคียงกับที่บรรดาวัยรุ่นก่อความวุ่นวาย อีกทั้งสถานที่ทั้ง 2 เหตุการณ์ก็อยู่ไม่ห่างกัน

 

การสืบสวนของตำรวจ (โดยการชี้นำของอัยการ) จึงมุ่งไปในความเชื่อที่ว่า คนร้ายที่ทำการข่มขืนน่าจะอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จากการสอบปากคำเบื้องต้น (ประมาณว่าใครทำอะไรอยู่ที่ไหน? เวลาใด?) ตำรวจและอัยการได้รายชื่อผู้ต้องสงสัยจำนวน 5 คน คือ เควิน ริชาร์ดสัน, อันทรอน แม็คเครย์, ยูเซฟ ซาลาม, คอรีย์ ไวส์ และเรย์มอนด์ ซานตานา

 

ถัดจากนั้น คือการสอบปากคำอย่างหนักหน่วง ทั้งขู่เข็ญ ซ้อม โน้มน้าวเกลี้ยกล่อม โกหกว่าหากยอมรับสารภาพ หรือเปิดโปงว่าใครเป็นคนลงมือ จะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน และเป็นเพียงแค่พยาน ไม่ใช่ผู้ต้องหา พูดอีกแบบคือ เป็นการสอบปากคำ โดยตำรวจเขียนพล็อตกำหนดไว้ล่วงหน้าว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร และทำทุกวิถีทางโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ผู้ต้องหาสารภาพออกมาตามนั้น

Scroll to Top