ไม่ได้เป็นเพียงแฟรนไชส์เกม แต่เป็นตำนานที่หลายคนผูกพัน และหลังจากโลดแล่นในโลก Open-World ขนาดยักษ์มาหลายภาค Assassin’s Creed Mirage คือการกลับมาที่หลายคนรอคอย มันไม่ใช่แค่ภาคใหม่ แต่คือการประกาศอย่างชัดเจนว่าซีรีส์นี้พร้อมจะหวนคืนสู่รากเหง้าแห่งการลอบสังหาร, การปีนป่ายอันพลิ้วไหว, และเรื่องราวที่น่าติดตาม ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้สวมเสื้อคลุมฮู้ดของมือสังหารอีกครั้ง
📜 ข้อมูลเบื้องต้น: สู่จุดกำเนิดแห่งมือสังหาร
| ข้อมูล | รายละเอียด |
| ผู้พัฒนา/สตูดิโอ | Ubisoft Bordeaux |
| แนวเกม | แอ็กชัน-ผจญภัย (เน้นลอบเร้น) |
| แพลตฟอร์ม | PC, PS5, PS4, Xbox Series X |
| วันวางจำหน่าย | ตุลาคม 2023 |
🕌 สรุปเนื้อเรื่องย่อ (แบบไม่สปอยล์)
เรื่องราวใน Mirage จะพาเราย้อนเวลากลับไปยังแบกแดดอันรุ่งโรจน์ในศตวรรษที่ 9 และมุ่งเน้นไปที่ชีวิตของ บาสซิม อิบน์ อิสฮัก (Basim Ibn Ishaq) ตัวละครที่แฟน ๆ น่าจะคุ้นเคยจากภาค Valhalla ในช่วงแรก บาสซิมเป็นเพียงหัวขโมยข้างถนนผู้มีอดีตที่ซับซ้อนและภาพนิมิตอันน่าสับสน จนกระทั่งเขาได้พบกับกลุ่มมือสังหาร (Hidden Ones) และถูกชักนำเข้าสู่ Brotherhood
เกมนี้จะเล่าถึง การเดินทางของบาสซิม จากโจรหนุ่มสู่การเป็นมือสังหารที่ผ่านการฝึกฝน และค้นพบความหมายที่แท้จริงของ “พันธมิตร” และ “คำสาบาน” ที่เขาต้องแบกรับ เรื่องราวจะพาเราไปสำรวจนครแบกแดดที่เต็มไปด้วยปริศนา, การต่อสู้ทางความคิดระหว่างกลุ่มอำนาจต่างๆ, และการค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้เงาของเมือง
จุดเด่นที่ทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตาม: คือการที่เนื้อเรื่องถูกกระชับและมุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลักอย่างบาสซิม ทำให้เราได้เห็นการเติบโต, ความขัดแย้งภายใน, และการตัดสินใจที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นมือสังหารในแบบที่เราเห็นในภาคอื่น ๆ มันคือเรื่องราวแห่งการ “เป็นไป” (Becoming) ที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์

✨ จุดเด่นที่ต้องยกนิ้วให้: หวนคืนสู่รากเหง้า
Mirage ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นจดหมายรักถึงแฟน ๆ ยุคแรกอย่าง AC1 และ AC2 ด้วยการเน้นฟีเจอร์คลาสสิกที่แฟน ๆ คิดถึง:
- ลอบเร้นคือหัวใจ (Stealth is King)
เกมนี้กลับมาให้ความสำคัญกับการลอบเร้นอย่างจริงจัง ระบบการต่อสู้ถูกปรับให้มีความท้าทายมากขึ้น การต่อสู้ระยะประชิดแบบเปิดเผยไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดอีกต่อไป คุณต้องใช้สิ่งแวดล้อม, พุ่มไม้, ฝูงชน และการปีนป่ายเพื่อหลบเลี่ยงหรือเข้าถึงเป้าหมายอย่างเงียบเชียบ
- Parkour ที่ไหลลื่นและน่าประทับใจ
การปีนป่าย (Parkour) กลับมามีความสำคัญและลื่นไหลอย่างมาก การเคลื่อนที่บนหลังคาในนครแบกแดดเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสวยงาม ทำให้รู้สึกถึงความคล่องแคล่วของมือสังหารอย่างแท้จริง
- โครงสร้างภารกิจแบบ “มือสังหารการละคร” (Theatrical Assassinations)
ภารกิจสังหารหลักจะกลับไปใช้โครงสร้างแบบ “Black Box” เหมือนในภาค Unity หรือ Syndicate คือการที่คุณต้องสืบหาข้อมูล, ค้นพบทางเข้า-ทางออกที่หลากหลาย, และสร้างสถานการณ์ลอบสังหารที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของคุณ นี่คือจุดที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นมือสังหารที่วางแผนอย่างแยบยล

✅ ข้อดีเพิ่มเติม: เล็กแต่เจ๋ง
- เน้นเนื้อหา (Focus on Narrative): เกมมีขนาดไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนสามภาคก่อนหน้า (Origins, Odyssey, Valhalla) ทำให้เนื้อเรื่องกระชับและไม่ยืดเยื้อจนเกินไป คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวที่เข้มข้นได้โดยไม่ต้องใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมง
- นครแบกแดดที่สวยงามและมีชีวิตชีวา: ทีมพัฒนาได้จำลองนครแบกแดดในยุคทองได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งตลาดที่คึกคัก, สถาปัตยกรรมที่งดงาม, และพื้นที่เมืองที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ Parkour โดยเฉพาะ
- ระบบ Tools ที่น่าสนใจ: อุปกรณ์ของมือสังหาร เช่น มีดขว้าง, ระเบิดควัน, และกับดัก ได้รับการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพและมีความสำคัญในการลอบเร้นมากขึ้น
📝 สรุป: คุ้มค่าแก่การสวมเสื้อคลุม
คือการตัดสินใจที่ถูกต้องของ Ubisoft ในการนำซีรีส์กลับสู่จุดแข็งเดิม มันไม่ใช่เกม RPG ขนาดยักษ์ แต่เป็นเกมแอ็กชัน-ผจญภัยที่เน้นย้ำถึงแก่นแท้ของมือสังหาร: ความเงียบ, ความว่องไว, และการลอบเร้น
หากคุณคือแฟน Assassin’s Creed ยุคแรกที่คิดถึงกลิ่นอายของการเป็นมือสังหารที่แท้จริง ต้องการเรื่องราวที่เข้มข้นและเน้นตัวละคร หรืออยากลองสัมผัสเกมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและระบบเกมสมัยใหม่ Mirage คือภาคที่คุณไม่ควรพลาด!




