Author name: Martin Chavez

พระร่วง
หนัง

รีวิวหนัง พระร่วง มหาศึกสุโขทัย บทรังสรรค์ขนบใหม่ของหนังอิงประวัติศาสตร์ไทย

       เพราะว่าเดี๋ยวนี้นาน ๆ ทีในวงการหนังไทยจะได้เห็นผลงานที่สร้างอิง ประวัติศาสตร์ หนังพีเรียด ย้อนยุคเกี่ยวกับการเมืองการปกครองออกมาสักเรื่อง ต้องใช้เวลาอยู่หลายปีดีดัก เนื่องจากเป็นคอนเทนท์ที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างโดยเฉพาะ ทำการบ้านในค้นคว้าให้หนักแน่น และกลวิธีที่ต้องใส่ใจไม่น้อยเพื่อผลงานที่ดี โชคดีที่ในศักราชนี้ได้มีโอกาสได้ดู พระร่วง มหาศึกสุโขทัย ที่นับว่าเป็นการกลับมาปลุกไฟหนังประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้งศรีสัชนาลัย สุโขทัย ที่เคยรุ่งเรืองกลับต้องสั่นคลอนเมื่อ พ่อขุนศรีนาวนำถุม สิ้นลงทิ้งไว้เพียงสองพี่น้องผู้ต่างอุดมการณ์ในการปกครองอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมิอาจรู้ว่าใครจะขึ้นครองบัลลังก์สืบต่อไป ระหว่าง พรญาผาเมือง ผู้เป็นดั่งนักรบ ยึดมั่นในอำนาจ มีความเด็ดขาดในการปกครอง และ ขุนบางกลางหาว ผู้รักความสงบ เชื่อมั่นในพลังของการปกครองแบบสันติวิธี เมื่ออุดมการณ์ที่แตกต่างได้ปลุกไฟแห่งความแตกแยกของสองพี่น้อง แต่ก็ถูกแทรกแซงด้วย ขอมสบาดโขลญลำพง ที่ฉวยโอกาสจากความแตกแยกนี้ สั่นคลอนการปกครองแผ่นดิน        แต่ก่อนอื่นใดเลย คงจะต้องเรียนแจ้งให้ทราบอย่างตรงไปตรงมาไว้ตอนนี้เป็นลำดับต้น ๆ ก็คือหากว่าคุณคาดหวังที่จะได้เสพย์หนังอิงประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยการเชือดเฉือนชิงชัยในบัลลังก์และการรบการสงคราม เราคิดว่า พระร่วง มหาศึกสุโขทัย เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ตรงนั้นได้สักเท่าไหร่ เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาในหนังเรื่องนี้อาจจะไปในทิศทางงานศิลป์ที่ผสมผสานความวิจิตรบรรจงและศาสตร์การแสดงในลักษณะละครเวทีโรงใหญ่เสียมากกว่าเพราะนี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ ชาติชาติ เกษนัส ที่เพิ่งจะได้เสียงชื่นชมไปจากหนังเรื่องก่อน อย่าง แมนสรวง ไปหมาด ๆ ซึ่งเขาก็ยังรับหน้าร่วมเขียนบทหนังและร่วมอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ ที่มาจากแพสชั่นในความหลงใหลเรื่องราวทางประวัติศาสตร์โดยแท้ ๆ […]

สโนว์ไวท์
หนัง

รีวิวหนัง Snow White สโนว์ไวท์ หยิบลงมาจากหึ้ง 

      เติมชีวิตชีวาให้ความคลาสสิกระดับขั้นพื้นฐานเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์หนังไลฟ์แอคชันของวอลต์ ดิสนีย์ ที่กลายเป็นที่จับตามองสุด ๆ นับตั้งแต่ประกาศสร้าง เปิดตัวนักแสดง ไปจนถึงประเด็นดรามาต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นร่ายล้อมระหว่างการรังสรรค์หนังเรื่องนี้ กลายออกมาเป็นฉบับคนแสดงของการ์ตูนเทพนิยายคลาสสิกเบอร์แรกของค่าย Snow White สโนว์ไวท์ ได้ถูกเนรมิตให้มีเนื้อหนังมังสา มีชีวิตชีวาโลดแล่นบนจอใหญ่ได้อย่างตระการตาในที่สุดเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะรู้จักเนื้อหาของเรื่องนี้กันดี เพราะนี่คือการดัดแปลงมาจากแอนิเมชั่นในปี 1937 ของดิสนีย์ อย่าง สโนวไวท์และคนแคระทั้งเจ็ด’ เรื่องราวที่เปี่ยมล้นไปด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศ เมื่อ สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงผู้เลอโฉมจิตใจงดงามได้ร่วมมือกับเหล่าคนแคระทั้ง 7 เพื่อทำการต่อกรและต่อต้านราชินีผู้ชั่วร้าย และยังเป็นแม่เลี้ยงที่ใจอำมหิตของเธอ เพื่อปลดแอดอาณาจักรให้กลับมาเรืองรองอีกคราในฉบับนี้ได้ผู้กำกับมือฉมัง (ที่เกือบตกขอบไปแล้ว) อย่าง มาร์ค เว็บบ์ จาก 500 Days of Summer มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง ที่นับว่าเขาก็ต้องทำการปัดฝุ่นจัดทรงตัวเองให้กับมาลุยงานหนังระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มใหญ่ยักษ์อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปจากงานสร้างหนังใหญ่ ๆ แบบนี้ไปร่วมทศวรรษนับตั้งแต่แฟรนไชส์ไอ้แมงมุมฉบับอะเมซิงเรื่องดัง        แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มาร์ค เว็บบ์ สามารถวาดลวดลายและเติมชีวิตให้กับเทพนิยายเรื่องนี้ออกมาได้เจิดจรัสจัดจ้านในระดับที่น่าพอใจด้วยดี สามารถชุบชีวิตและต่อเติมจินตนาการจากการ์ตูนที่ค่อนข้างเชยไปแล้ว ซึ่งมีอายุเกือบจะครบร้อยปีเรื่องนี้ออกมาได้เพลิดเพลินใจได้ตรงตามโจทย์ จากบทหนังของ “เอริน

เกม
เกมส์

รีวิว Sword of Convallaria เกมแนว Tactical RPG

    Sword of Convallaria เป็นหนึ่งในเกมที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟน ๆ ของเกม RPG แนววางแผน หรือแฟน FF Tactic. ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม รูปแบบการเล่นที่ต้องใช้กลยุทธ์ และกราฟิกที่สวยงาม เกมนี้จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัว บทความนี้จะพาคุณไปพบกับประวัติของเกม รีวิว สรุปเนื้อเรื่อง วิธีเล่นเบื้องต้น และเหตุผลว่าทำไมเกมนี้ถึงเป็นเกมที่คุณควรเล่น ประวัติของเกม Sword of Convallaria      เกมนี้ถูกพัฒนาโดย XD Entertainment Pte Ltd, X.D. Network Inc. และเปิดตัวเมื่อ ปี 2024 เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเนื่องจากระบบการเล่นที่ลึกซึ้งและเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม เกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเกม RPG แนววางแผนแบบคลาสสิก และนำประสบการณ์ใหม่ ๆ มาให้ทั้งผู้เล่นที่มีประสบการณ์และผู้เล่นใหม่ ผู้พัฒนาได้อัปเดตเกมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ ทำให้ผู้เล่นยังคงติดตามและเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกม สรุปเนื้อเรื่อง ในโลกที่ถูกสงครามยึดครองจะพาคุณเข้าสู่การเดินทางของกลุ่มฮีโร่ที่ต้องเผชิญกับการเมืองของโลกที่ใกล้ล่มสลาย คุณจะได้สวมบทบาทเป็นนักรบผู้มีฝีมือที่ต้องรวมกลุ่มต่าง ๆ เพื่อปกป้องบ้านเกิดจากหายนะที่กำลังจะมาถึง ระหว่างทางคุณจะได้พบกับตัวละครหลากหลายที่มีเรื่องราวและแรงจูงใจของตนเอง เพิ่มความลึกซึ้งให้กับเนื้อเรื่อง

หนัง

รีวิวหนัง แก๊งหิมะเดือด Frozen Hot Boys แบบว่าโฟร์คิงส์ฉบับสดใส..หัวใจร้อน ๆ คูล ๆ

      ได้เวลามาดับร้อนและพักใจไปกับหนังไทยบรรยากาศหนาว ๆ เย็น ๆ กลางความอบอ้าวของฤดูร้อนแบบนี้ใน แก๊งหิมะเดือด Frozen Hot Boys ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายการแต่งแต้มแรงบันดาลใจและโอกาสแห่งความฝันของทุกคน ท่ามกลางความดุเดือดเผ็ดร้อนแบบหนังโฟร์คิงส์ฉบับคุกเยาวชน ผนวกเข้ากับความยะเยือกในเทศกาลปั้นหิมะยิ่งใหญ่ระดับโลก ที่นำมาผูกเข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อเรื่องราวของ ครูชมพู ครูสาวประจำศูนย์ฝึกเยาวชนบ้านเบญจธรรม มีความหวังที่อยากกลับไปเจอหน้าพ่ออีกครั้ง ที่ได้ย้ายไปอยู่เมืองซัปโปโร เธอจึงพยายามโน้มน้าวเหล่าวัยรุ่นนอกคอกในศูนย์ฯ เพื่อให้เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะที่ญี่ปุ่น ด้วยบททดสอบที่แข็งยิ่งกว่าหิน ยากยิ่งกว่าข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในหมู่วัยรุ่นวัยค้นหาตัวตนที่เฝ้ารอให้ใครสักคนได้มองเห็นคุณค่าที่แอบซ่อนอยู่ในตัวพวกเขาหนังเรื่องนี้เป็นผลงานหนังใหญ่ของผู้กำกับหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง “ธนกฤต กิตติอภิธาน” ที่สั่งสมประสบการณ์ทำหนังสั้นมาหลายปี ที่ได้ “เป้-นฤบดี เวชกรรม” จาก Low Season สุขสันต์วันโสด มารับหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ชั้นดีในการไกด์งานกำกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ เป็นการผสมผสานอรรถรสที่ปนเปนระหว่างประเด็นดรามาและความขบขันแบบไทย ๆ ได้อย่างลงตัว กับจังหวะคารมที่มีกลิ่นอายความเป็นหนังญี่ปุ่นเบา ๆ กับแกลมได้อย่างเอร็ดอร่อย       ถึงแม้ว่า แก๊งหิมะเดือด จะเป็นหนังที่มีลักษณะแบบทีเล่นทีจริงไปสักหน่อย แต่ต้องยอมรับว่าในสูตรสำเร็จของบทหนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างมีสตอรี่ที่เข้มแข็งและหนักแน่นดีกว่าหนังไทยหลาย ๆ เรื่องในยุคนี้ด้วยซ้ำ ด้วยความที่หนังมีประเด็นที่ชัดเจนและไม่ได้ซับซ้อนอะไร และยังได้จังหวะการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างสนุกและชวนติดตาม ประเด็นหลักก็ขันแข็งดี ประเด็นรองที่เสริมเข้ามาก็ยังพอถูไถไปได้เคยได้ยินผู้สร้างหนังเรื่องนี้บอกถึงไอเดียคอนเซ็ปต์หนังเรื่องนี้ว่า แค่ฉุกคิดขึ้นคำถามขึ้นมาในใจว่า ทำไมคนไทยถึงไปชนะการแข่งขันแกะสลักหิมะอยู่เรื่อย ๆ

เกมส์

รีวิวเกม Grand Theft Auto V

Story       GTA V ดำเนินเรื่องบนผืนแผ่นดิน San Andreas อีกครั้ง โดยใช้การบอกเล่าเรื่องราวผ่านสายตาของ 3 ตัวละครหลัก คือ ไมเคิล มหาโจรมือเก๋าวัย 45 ปี ผู้เกษียณตัวเองออกจากวงการมาใช้ชีวิตธรรมดา  เทรเว่อร์ เพื่อนสนิท จิตวิปลาส ของ ไมเคิล ที่เคยร่วมมือกันปล้นฆ่ามายาวนาน ตามด้วย แฟรงค์ลิน ไอ้หนุ่มผิวสี นักขับประจำโชว์รูมรถ ผู้พยายามจะทิ้งชีวิตแก๊งค์อันธพาล และหันมาสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นหลักเป็นแหล่ง  ชะตาฟ้าลิขิต แห่ง San Andreas ได้นำให้พวกเขามาพบกัน แม้จะชอบหน้ากันหรือไม่ พวกเขาก็ต้องร่วมมือกัน เพื่อเอาตัวรอด ในโลกของอาชญากรรม และการฉ้อโกง ตามสไตล์ ของ Grand Theft Auto       ผมอยากจะเล่ารายละเอียดมากกว่านี้ แต่ผมก็ไม่อยากจะทำการสปอยล์ใดๆ ทั้งสิ้น กับผู้ที่กำลังรอเล่นเวอร์ชั่น PC อยู่ ( ผมเองก็เช่นกัน เพราะผมมั่นใจว่า เวอร์ชั่น PC ที่กำลังจะตามออกมา

หนัง

รีวิวหนัง หลวงพี่แจ๊สโคตรซิ่ง ฮาตามสูตรสำเร็จที่คาดเดาได้ การซิ่งครั้งนี้จึงไม่สุดทาง

       ออกจากทางธรรมเข้าสู่ทางโลก และโบกสะบัดความสนุกเฮฮาแบบป่วนเมืองในภาพยนตร์ หลวงพี่แจ๊สโคตรซิ่ง ซึ่งในภาคนี้ พี่แจ๊ส นักแสดงหลักยังนั่งเก้าอี้ผู้กำกับร่วมกับพี่พชร์ อานนท์ อีกด้วย ทำให้มุมมองความสนุกตามสไตล์ของพี่พชร์กับพี่แจ๊สถูกผสมผสานความสนุกประกอบเป็นรูปร่างแบบไม่กระจัดกระจายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก พร้อมเส้นเรื่องหลักที่ชวนติดตามปมปัญหาและการคลี่คลายเรื่องราวเริ่มต้นเมื่อหลวงพี่แจ๊สต้องลาสิกขาเนื่องจากดันขับมอเตอร์ไซค์ตามจับโจรขโมยพระในวัด เหตุการณ์นี้ผลักดันให้เขาต้องเผชิญโลกฆราวาสอันโหดร้าย ทั้งผู้คนและการดิ้นรนทำมาหากิน ซึ่งปมนี้ถือเป็นแกนหลักที่ร้อยเรียงเรื่องราวชีวิตหลังสึกได้อย่างน่าสนใจ การเข้ามาของตัวละครสำราญและคุณแม่ก็ช่วยเสริมมิติเบื้องหลังให้เนื้อหามีอะไรให้ติดตามมากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเสียดายคือจังหวะการเล่าเรื่องที่ยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร การสลับฉากที่ดูขัด ๆ และฉากเสริมบางฉากที่ดูเหมือนจะถูกใส่เข้ามาเพื่อยืดเวลาโดยไม่ได้มีส่วนสำคัญกับเนื้อหาหลักมากนัก อาจทำให้ความสนุกต่อเนื่องลดลงไปบ้าง นอกจากนี้ การคลายปมปัญหาและบทสรุปของตัวละครก็ยังดูรีบรวบรัด ไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร ยังคงวนเวียนอยู่กับสูตรสำเร็จเดิม ๆ ที่ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่หรือเซอร์ไพรส์คนดูมากนัก       ถึงกระนั้น ในแง่ของความบันเทิง หลวงพี่แจ๊สโคตรซิ่ง ก็ยังพอสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่ามุกตลกหลาย ๆ ฉากอาจจะไม่สดใหม่นัก แต่ด้วยการถ่ายทอดของนักแสดงและจังหวะการนำเสนอก็ถือว่าทำได้ลงตัวในระดับหนึ่ง แม้ช่วงที่ปล่อยมุกฮาอาจจะไม่ถี่มากนักแต่ก็มีแทรกเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งนอกจากความฮาแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือภาพยนตร์ยังคงสอดแทรกข้อคิดดี ๆ ทั้งในทางธรรมและทางโลก เปรียบเสมือนแก่นของเรื่องที่ต้องการสื่อสารให้ผู้ชมได้ฉุกคิดและนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตสิ่งที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษคือ พลังทางการแสดง ของ แจ๊ส ชวนชื่น ที่แบกรับภาพยนตร์ไว้เกือบทั้งเรื่อง แม้บทสนทนาบางครั้งอาจจะไม่คมคายเท่าที่ควร แต่ด้วยองค์ประกอบทางการแสดง เสื้อผ้า หน้าผม และความทุ่มเทในการแสดง ก็สามารถสร้างสีสันและความฮาให้กับตัวละครได้อย่างโดดเด่น อีกหนึ่งนักแสดงที่ขโมยซีนได้ไม่น้อยคือ “ป้ารัตนา”

เกมส์

รีวิวเกม Dead by Daylight Mobile หนีฆาตกรโหดบนมือถือ

    เปิดให้เล่นเกม Dead by Daylight บนมือถือแล้วทั้งระบบ IOS หรือ Android สำหรับเกม Dead by Daylight เป็นเกมเอาชีวิตรอดจากฆาตกรสุดโหดที่โครตสนุก มันส์ และยังสามารถเล่นกับเพื่อนได้อีกด้วยในตัวเกมจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่ายให้เราเลือกเล่นคือ ฝ่ายผู้รอดชีวิตจะมี 4 คนที่จะต้องหาทางรอดออกไปให้ได้เพื่อชนะโดยจะมีฝ่ายฆาตกรเป็นผู้ล่าพวกผู้รอดชีวิตไม่ให้หนีไปได้ฆาตกรก็จะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งวิธีการเล่น มีดังนี้ 1.ฝ่ายผู้รอดชีวิต จะมีทั้งหมด 4 คน จะต้องช่วยกันซ่อมเครื่องปั่นไฟโดยส่วนใหญ่แล้วมีด้วยกัน 5 จุดในแผนที่ เมื่อผู้เล่นสามารถซ่อมเครื่องปั่นไฟครบแล้วถึงจะมองเห็นประตูทางออก      -ทางฝั่งผู้รอดชีวิต จะมีตัวละครให้เราเลือกเล่น ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีสกิลแตกต่างกันออกไป เป็นเทคนิคในการหนีฆาตกร  -ระหว่างซ่อมเครื่องปั่นไฟจะมีเอฟเฟคให้เรากดให้ทัน หากเรากดพลาดจะทำให้ฆาตกรรู้ตำแหน่งของเรา หากมีผู้รอดชีวิตคนอื่นช่วยกันซ่อมจะทำให้ระยะเวลาในการซ่อมไวขึ้น  -ถูกฆาตกรโจมตีครั้งแรกนั้นระหว่างหนีจะมีรอยเลือดของเราตามทาง ฆาตกรสามารถตามเราจากรอยเลือดนั้นได้ หากถูกตีครั้งที่สองจะทำให้เราล้มและถูกจับ      -หากถูกจับแขวนไว้บนเสา เพื่อนสามารถช่วยเราได้ก่อนที่หลอดเลือดเราจะหมดลง     -หากถูกไล่ล่า ผู้เล่นสามารถใช้สิ่งกีดขวางให้เป็นประโยชน์จะทำให้เราหนีฆาตกรได้ง่ายขึ้น  2.ฝ่ายฆาตกร มีแค่คนเดียวเท่านั้นจะต้องไล่ตีและจับผู้รอดชีวิตมาแขวนไว้บนเสา โดยทางฝั่งฆาตกรจะวิ่งไวกว่าผู้รอดชีวิต แต่การข้ามสิ่งกีดขวางนั้นต้องใช้เวลามากกว่าผู้รอดชีวิต    -ทางฝั่งฆาตกร จะมีตัวละครให้เราเลือกเล่น แต่ละตัวจะมีความสามรถหรือสกิลที่แตกต่างกัน เป็นเทคนิคในการไล่ล่า 2.ฝ่ายฆาตกร

รีวิวหนัง
หนัง

รีวิวหนัง The Match เดอะ แมตช์ ลํานําเซียนหมากล้อมในตำนานของเกาหลี

   หนึ่งในเกมการแข่งขันที่ดุเดือดและได้รับความนิยมไม่น้อยในเกาหลี อย่าง เกมบาดุก, เกมโกะ หรือ หมากล้อม ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้ยกระดับจากกิจกรรมอดิเรกมาเป็นการแข่งขันที่พัฒนาสร้างแชมป์และเซียนได้อย่างต่อเนื่อง และนี่ก็คือการตีแผ่ตำนานเซียนหมากล้อมที่ยิ่งใหญ่ของเกาหลีทั้งสองคน ออกมาเป็น The Match เดอะ แมตช์ ที่วาดลวดลายการกำเนิดของ 2 เซียนหมากล้อมผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนกิมจิ เรื่องราวและเส้นทางสู่การเป็นเซียนระหว่างศิษย์กับอาจารย์หมากล้อมในตำนานของเกาหลี อย่าง โชฮันฮยอน กับ อีชางโฮ พวกเขาทั้งคู่ที่ได้ชื่อว่าเป็นโปรสุดยิ่งใหญ่ที่มีการจารึกเอาไว้ในวงการหมากล้อมของโลก การผลักดันและปลุกปั้นที่นำมาสู่การเป็นคู่ต่อสู้ในเกมบนกระดานที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงไหวพริบ ที่ผนวกเข้ากับแรงกดดันมหาศาล ที่นำพาทั้งคู่ไปสู่ห้วงแห่งศักดิ์ศรีที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่เคยมีมาหมากล้อม อาจจะเป็นเกมที่บางคนมองว่าเป็นการแข่งขันที่เงียบงันและไร้เสน่ห์ เป็นแค่เพียงการชิงไหวพริบเดินเกมระหว่างแค่คนสองคน แต่จริง ๆ แล้วรายละเอียดในการเดินหมากแต่ละตัวต้องพาการคิดวิเคราะห์อย่างครอบคลุม ยิ่งมีศักดิ์ศรีความเป็นเซียนค้ำคออยู่ ยิ่งต้องแบกรับสถานการณ์กดดันอยู่หน้ากระตานตรงหน้า นั่นจึงกลายเป็นเสน่ห์อันท้าทายของเกมหมากล้อม ที่ภายนอกอาจจะดูน่าเบื่อ แต่ก็รายล้อมไปด้วยสิ่งที่น่าค้นหามากมายเช่นกัน       นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของ คิมฮยองจู นักสร้างหนังหน้าใหม่ที่อาจจะยังไม่มีชิ้นงานที่โดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ได้ก้าวขึ้นมาหยิบจับงานสร้างผลงานชิ้นใหญ่เรื่องนี้เลย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคนิคและองค์ประกอบงานสร้างใน The Match อาจจะไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่นัก หนังยังวนไปใช้สูตรความสำเร็จตามสไตล์หนังเกาหลีลักษณะนี้ที่ต้องยอมรับว่า วงการหนังเกาหลียังเก็บรายละเอียดงานสร้างได้ค่อนข้างน่าพอใจแต่ต้องยอมรับว่ามีสตอรี่และเรื่องราวที่ค่อนข้างส่งเสริมตัวหนังได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะความทรงพลังของเกมการแข่งขันระหว่างครูกับศิษย์ นับว่าเป็นการเดินหมากสร้างประเด็นในหนังให้รู้สึกหนักแน่นขึ้นได้ดีขึ้น โดยหนังยังได้ “ยุนจงบิน” มือเขียนบทจากหนัง The Spy Gone North

Grand Theft Auto V
เกมส์

รีวิวเกม Grand Theft Auto V

    GTA V ดำเนินเรื่องบนผืนแผ่นดิน San Andreas อีกครั้ง โดยใช้การบอกเล่าเรื่องราวผ่านสายตาของ 3 ตัวละครหลัก คือ ไมเคิล มหาโจรมือเก๋าวัย 45 ปี ผู้เกษียณตัวเองออกจากวงการมาใช้ชีวิตธรรมดา  เทรเว่อร์ เพื่อนสนิท จิตวิปลาส ของ ไมเคิล ที่เคยร่วมมือกันปล้นฆ่ามายาวนาน ตามด้วย แฟรงค์ลิน ไอ้หนุ่มผิวสี นักขับประจำโชว์รูมรถ ผู้พยายามจะทิ้งชีวิตแก๊งค์อันธพาล และหันมาสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นหลักเป็นแหล่ง  ชะตาฟ้าลิขิต แห่ง San Andreas ได้นำให้พวกเขามาพบกัน แม้จะชอบหน้ากันหรือไม่ พวกเขาก็ต้องร่วมมือกัน เพื่อเอาตัวรอด ในโลกของอาชญากรรม และการฉ้อโกง ตามสไตล์ ของ Grand Theft Autoผมอยากจะเล่ารายละเอียดมากกว่านี้ แต่ผมก็ไม่อยากจะทำการสปอยล์ใดๆ ทั้งสิ้น กับผู้ที่กำลังรอเล่นเวอร์ชั่น PC อยู่ ( ผมเองก็เช่นกัน เพราะผมมั่นใจว่า เวอร์ชั่น PC ที่กำลังจะตามออกมา

Fifty Shades of Grey
หนัง

รีวิวหนัง Bad Influence วัยรักอันตราย

    วังวนแสนยั่ว…ยัยลูกคุณหนูกับบอดี้การ์ดหนุ่มใจร้าวถ้าหากว่าคุณยังไม่เบื่อที่บริโภคคอนเทนท์ยั่วยวนกลิ่นอายอีโรติกติดเรทหน่อยๆ จากฝั่งยุโรปแล้วละก็ ได้เวลามาดื่มด่ำกับอีกหนึ่งรสชาติของความสัมพันธ์สุดแสนจะน้ำเน่าจากสเปนใน Bad Influence วัยรักอันตราย หนังโรแมนซ์ระทึกขวัญกับความสัมพันธ์ระหว่างต่างชนชั้นของลูกสาวมหาเศรษฐีกับบอดี้การ์ดหนุ่มใจแตก ก่อเกิดเป็นความลึกซึ้งที่ไม่อาจจะคาดคิดได้ เอรอส เด็กหนุ่มกำพร้าวัยคะนองที่ได้รับโอกาสให้ออกมาจากทัณฑสถานก่อนกำหนด เพราะได้รับการว่าจ้างจากมหาเศรษฐีให้มาช่วยปกป้องคุ้มครองลูกสาวของเขา รีซ ที่พบว่าเธอคนนั้นกำลังตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีและมักจะตกอยู่ในความเสี่ยงเสมอ ทำให้เขาต้องแทรกซึมเข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอ เพื่อเฝ้าดูเธอทุกย่างก้าว แต่ทว่าหนุ่มสาววัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านที่ใกล้ชิดกัน ได้ก่อกำเนิดเป็นความสัมพันธ์ที่ถลำลึกในแบบที่พวกเขาเองก็มิอาจจะหักห้ามใจได้       Bad Influence ก็ไม่ต่างกับพวกหนังรักอีโรติกที่มีส่วนผสมของหนังแนว ๆ มาหลายเรื่อง นำมาปรุงแต่งออกมาเป็นเรื่องใหม่ มีกลิ่นอายความลึกลับในปมต่างๆ แบบ Fifty Shades of Grey บรรยากาศรักเกินห้ามใจวัยทีนเหมือนในหนัง My Fault หรือความรักแตกต่างทางชนชั้น อย่าง Through My Window แต่ใด ๆ แล้วหนังเรื่องนี้กลับไม่สามารถจับประเด็นและสร้างสตอรี่ที่แข็งแรงได้เท่ากับหนังที่กล่าวถึงข้างต้นได้เลยสักนิด แม้ว่ากลุ่มหนังเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะเป็นหนังดีเลิศอะไรโดยหนังได้ผู้กำกับหญิง โคลอี้ วอลเลซ มารับหน้าที่สร้างและร่วมเขียนบทด้วย นั่นจึงเป็นการสะท้อนในงานสร้างที่ดีจากมุมมองนักสร้างผู้หญิง ที่แม้ว่าจะเป็นหนังรักอีโรติก แต่หนังไม่ได้ต้องการที่สื่อสารมุมมองต่าง ๆ ออกมาได้ในลักษณะอนาจารแบบถึงพริกถึงขิงอะไรทำนองนั้น ผู้กำกับคนนี้ใช้ความละเมียดละไมร้อยเรียงหนังออกมาด้วยการใช้ศิลปะเป็นแกนหลัก ที่ทำให้ภาพต่าง ๆ ออกมาเป็นหนังที่มีกลิ่นอายความโรแมนซ์ในความสัมพันธ์ที่ไม่หวือหวาเกินไป

Scroll to Top