Author name: gamemanga user4

รีวิว ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ 25 เจ้าสาวฮาโลวีน
การ์ตูน

รีวิว ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ 25 เจ้าสาวฮาโลวีน

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เจ้าสาวฮาโลวีน เป็น การ์ตูนแอนิเมชัน เรื่องราวของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ กลับมาอีกครั้ง ในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลฮาโลวีนกลางย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว เมื่อโคนันและเพื่อนๆ ได้รับเชิญไปงานแต่งงานของ “มิวาโกะ ซาโต้” แต่กลับเกิดเหตุคนร้ายกลุ่มหนึ่ง บุกเข้ามาในงาน ทำให้ “วาตารุ ทาคางิ” พยายามปกป้องเจ้าสาวของเขาจนได้รับบาดเจ็บ โคนันสืบพบว่าเหตุการณ์ทุกอย่างกลับถูกเชื่อมโยงเข้ากับมือวางระเบิดที่หลบหนีออกจากเรือนจำพอดี เขาจึงต้องทำหน้าที่นักสืบเพื่อไขปริศนาในครั้งนี้ให้ได้ เดอะมูฟวี่ ภาคนี้ทำหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติทั้งในด้านการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลกระชับฉับไวมาก ช่วงแรกที่ตัดสลับกับดนตรีงานแต่งงานที่บิ๊วอารมณ์ แอบทำจังหวะเสียเพราะรวบไปเนี่ยแหละ มันทำให้แอบรู้สึกว่าหนังรีบเฉลยปมไวไปนิด หลังจากนั้นหนังก็ประเคนคดีเข้าหาใส่โคนัน แต่ก็ไม่วายจะมอบพื้นที่ให้กับโฟกัสหลักของภาคอย่างทาคางิกับซาโต้ที่มีปมสำคัญที่แอบรู้สึกว่ามันเบาไปหน่อยกับคนดูทั่วไปที่ไม่เคยดูซีรีส์มาก่อน แถมเดิมพันก็ไม่ได้สูงพอกับการเป็นเมนหลักของเรื่องด้วย แต่เรื่องความสำคัญคือหวานจนน่าอิจฉาเลยล่ะ เช่นเดียวกับกลุ่มของตำรวจที่บทบาทสำคัญเฉลี่ยตามความเหมาะสม ตัวละครรับเชิญของภาคก็มีความสำคัญแตกต่าง แต่ก็อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในขณะที่ตัวฟุรุยะไม่ได้เป็นบทเด่นหลักหรือขโมยซีนทั้งเรื่องอย่างที่คิด เขามีหน้าที่เชื่อมเรื่องความสัมพันธ์ของสี่พยัคฆ์นักเรียนตำรวจเสียมากกว่า ซึ่งช่วงนั้นมันเจ๋งประหนึ่งดูหนังแอ็คชั่นชั้นดีเลยด้วย จนยิ่งน่าสลดหดหู่กับชะตากรรมของสหายที่ล่วงลับไปของเขา ในขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นความร่วมมือของเขากับโคนันตลอดทั้งเรื่อง เมื่อเทียบกับภาค 22 ประหนึ่งหนังมิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ลเลย พาร์ทของคดี ไม่ได้ซับซ้อน แต่ค่อนข้างจะมีชั้นเชิงน่าติดตามชวนลุ้นขึ้นมากว่าภาคที่แล้วโข แม้จะเดาคนร้ายได้ง่าย แต่ก็ไม่สามารถหามูลเหตุจูงใจที่สมเหตุสมผลได้จนโคนันต้องมาเฉลย และไม่ต้องคิดว่าภาพรวมคดีมันจะเข้าใจยากเหมือนภาคที่แล้ว คราวนี้มันย่อยง่ายกว่า และพาร์ทแอ็คชั่นก็ไม่ได้ใส่มาแบบพร่ำเพรื่อ แต่ใส่มาเพื่อเล่าเรื่องและโชว์ความสามารถของโคนันแบบไม่เฝือมากนัก เมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ เพราะรอบนี้หนังให้ความสำคัญกับ “ความร่วมมือ” […]

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Encanto (เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์)
Uncategorized

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Encanto (เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์)

Encanto นำเสนอเรื่องราวของตระกูล “มาดรีกัล” ตระกูลที่อยู่ได้เพราะปาฏิหาริย์ในอดีต ที่ทำให้มีบ้านเวทมนต์ และคนในครอบครัวก็จะได้รับพรเมื่อถึงวัยอันสมควร ซึ่งพรนั้นก็จะเป็นพลังพิเศษที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ซึ่งครอบครัวนี้ก็จะใช้พลังเหล่านี้เพื่อดูแล และช่วยเหลือคนในเมืองที่ชื่อว่า “Encanto” Encanto เป็นแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ Disney บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัว Madrigal ที่ทุกคนได้รับพรจากเทียนวิเศษตั้งแต่รุ่นยายอพยพลี้ภัยมาโคลัมเบีย เช่น บ้างก็มีพลังในการฮีล บ้างก็มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง บ้างก็เนรมิตดอกไม้ได้ บ้างก็คุยกับสิงสาราสัตว์ได้ ฯลฯ แม้กระทั่งตัวบ้าน ก็มีความพิเศษ อย่างที่บอกไปว่า คนของบ้านนี้จะได้รับพรเมื่อถึงวัย แต่กระนั้นก็ดันมีหนึ่งคนที่ไม่ได้พรได้แก่ “มีราเบล” ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้เธอนั้น “โคตรจะเฟล” และเหมือนมันเป็นปมด้อยของเธอ เพราะตัวเธอนั้นอยากที่จะมีพลัง และช่วยเหลือคนในเมือง และครอบครัวของเธอมากๆ แต่สุดท้ายเธอโดนกีดกัน เพราะการที่เธอไม่มีเวทมนต์เหมือนใครเขา ทำให้เธอเป็นเหมือนภาระ แต่แล้ววันหนึ่ง เธอพบว่า เวทมนต์ กำลังจะหายไป ซึ่งก็เธอก็ได้บอกคนในบ้าน แต่ไม่มีใครเชื่อเธอ กระนั้นก็ดี มีราเบล ก็ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะปกป้องครอบครัวของเธอ แม้การกระทำนั้นมันจะนำหายนะมาให้ครอบครัวอันเป็นที่รักของเธอแบบไม่รู้ตัว Encanto จึงถือเป็น “แฟรี่เทล” ที่ปราศจากเจ้าหญิง เจ้าชาย และตัวร้าย แต่เต็มเปี่ยมด้วยเวทมนตร์วิเศษ ความรักแสนพิเศษของ

แนะนำ การ์ตูนแอนิเมชัน Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า
การ์ตูน

แนะนำ การ์ตูนแอนิเมชัน Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า

Turning Red อีกหนึ่งแอนิเมชัน พร้อมมาระเบิดความสดใส จากดิสนีย์และพิกซาร์ สตูดิโอ ที่หยิบเสน่ห์ของความเป็นคนเอเชียเข้ามาดำเนินเรื่องอีกครั้ง โดยมี “โดมี ฉี (Domee Shi)” นักสร้างแอนิเมชันชาวแคนาเชื้อสายจีน ผู้คว้ารางวัลออสการ์จากการ์ตูนสั้น “Bao” มารับหน้าที่กำกับเป็นครั้งแรก ว่าด้วยเรื่องราวของ เมยหลิน ลี (Meilin Lee) หรือ เหม่ยลี่ เด็กหญิงผู้เติบโตท่ามกลางครอบครัวเอเชียในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งทางร่างกายและจิตใจในช่วงวัย 13 ปี ใครหลาย ๆ คนน่าจะจำได้ว่า ในวันนั้น เราต่างก็กำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของตัวเอง เหม่ยลี่เองก็เช่นกัน แต่ทว่าสำหรับเหมยลี่แล้ว เชื้อสายตระกูลของเธอนั้น ต้องคำสาปประหลาดมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อใดที่ลูกสาวรู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวายใจขึ้นมา เธอจะกลายร่างเป็นแพนด้าแดงยักษ์ ยิ่งทำให้การก้าวข้ามช่างวัยไปสู่วัยรุ่นเต็มตัวของเหมยลี่นั้นสับสนยิ่งขึ้น หนังพาให้เราคอยเอาใจช่วยกับการเติบโตของเหมยลี่ พร้อม ๆ กับกลุ่มเพื่อนสาวตลอดทั้งเรื่อง ท่ามกลางบรรยากาศชีวิตวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียม (2000s) ผ่านแก็ดเจ็ตสุดฮิตในยุคนั้น ยิ่งทำให้หนังมีอรรถรสที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ทามาก็อตจิ, มือถือแบบปุ่มกด, กล้องถ่ายวิดีโอ รวมไปถึงเพลงประกอบหนังในสไตล์เพลงป็อปยุคบอยแบนด์จาก 5

The Apothecary Diaries สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง ซีซั่น 2
การ์ตูน

The Apothecary Diaries สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง ซีซั่น 2

The Apothecary Diaries สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง ซีซั่น 2 กลับมาอีกครั้งในปี 2025 พร้อมกับความคาดหวังจากแฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของ “เมาเมา” (Maomao) และ “จินซิ” (Jinshi) หลังจากซีซั่นแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ซีรีส์นี้ยังคงถ่ายทอดเรื่องราวในวังหลวงที่เต็มไปด้วยปริศนา การเมือง และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน โดยตอนแรกของซีซั่นใหม่นี้ได้พาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของจักรวรรดิที่มีทั้งอารมณ์ขันและความลึกซึ้ง ในตอนแรก เราได้เห็นเมาเมาที่กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้ชิมพิษให้กับสนม Gyokuyou และการปรากฏตัวของตัวละครใหม่ รวมถึงแมวตัวหนึ่งที่กลายมาเป็นจุดเด่นของเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเมาเมาและจินซิยังคงเป็นหัวใจสำคัญของซีรีส์ โดยมีการพัฒนาที่น่าสนใจและเพิ่มความลึกซึ้งให้กับตัวละครทั้งสอง เรื่องย่อ The Apothecary Diaries ซีซั่น 2 The Apothecary Diaries ยังคงเอกลักษณ์ของการเล่าเรื่องที่ผสมผสานระหว่างปริศนา การแพทย์ และการเมืองในวังหลวง เมาเมายังคงใช้ความรู้ด้านสมุนไพรและพิษเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ในวัง ซึ่งในซีซั่นนี้ การเรียนรู้และการพัฒนาตัวละครยังคงเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะการช่วยให้หญิงสาวในวังเรียนรู้การอ่านเขียนผ่านหนังสือที่ดึงดูดความสนใจ ตอนแรกของซีซั่นนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในวัง เช่น การอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในวัง ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำตัวละครใหม่อย่าง Shisui ที่ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่องต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่างเมาเมาและจินซิยังคงเป็นจุดเด่นของซีรีส์ โดยในตอนแรกนี้

รีวิว My Happy Marriage อนิเมะโรแมนติก ห้ามพลาด
การ์ตูน

รีวิว My Happy Marriage อนิเมะโรแมนติก ห้ามพลาด

My Happy Marriage อนิเมะฤดูร้อนปี 2023 นําเสนอซีรีส์โรแมนติก ตลก และแอ็คชั่นมากมายให้ผู้ชมได้รับชม ตั้งแต่ Jujutsu Kaisen ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงไปจนถึง Zom 100: Bucket List of the Dead หลายคนตั้งคําถามว่าจะมีซีรีส์นอกสเปกตรัมแอ็คชั่นที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ชมหรือไม่ เข้าสู่ My Happy Marriage ของ Netflix ซีรีส์โรแมนติกเหนือธรรมชาติ 12 ตอนที่ทําให้แฟนอนิเมะหลายคนตกตะลึงทุกสัปดาห์ แม้ว่าจะไม่ใช่ซีรีส์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีส่วนผสมที่เหมาะสมที่จะประกาศว่าเป็นอัญมณีที่ยอดเยี่ยม My Happy Marriage สร้างจากไลท์โนเวลของญี่ปุ่นที่เขียนโดย Akumi Agitogi และวาดภาพประกอบโดย Tsukiho Tsukioka เรื่องราวติดตาม Miyo Saimori เด็กผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ชีวิตที่ดีที่สุดและถูกบังคับให้เชื่อฟังทุกคําสั่งของครอบครัว ครอบครัวของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับ Kiyoka Kudo บุคคลที่มีข่าวลือว่าเข้มงวดและโหดร้าย หลังจากเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา มิโยะก็ได้เรียนรู้ว่าเธอกําลังจะแต่งงานนิรันดร์ที่มีความสุขมากกว่าเจ็บปวด ความรักที่ผสมหลากหลายแนว My Happy Marriage เป็นอนิเมะแนวโรแมนติกอย่างไม่ต้องสงสัย

แนะนำ การ์ตูนอนิเมชั่น แฟนตาซี My Neighbor Totoro (1988)
การ์ตูน

แนะนำ การ์ตูนอนิเมชั่น แฟนตาซี My Neighbor Totoro (1988)

My Neighbor Totoro (1988) เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นแฟนตาซีจากประเทศญี่ปุ่น ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Hayao Miyazaki สร้างโดย Studio Ghibli เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวลำดับที่สองของสตูดิโอ โทโทโร่เพื่อนรัก อาจมองได้คือแฟนตาซีที่เกิดขึ้นในจินตนาการของเด็กหญิงสาว ไม่สิเป็นกึ่งอัตชีวประวัติของผู้กำกับ Hayao Miyazaki ถ่ายทอดความคิดเพ้อฝัน อารมณ์ความรู้สึก และความทรงจำวัยเด็กของตนเอง แปรสภาพความทุกข์โศกเศร้า กลายเป็นภาพแห่งรอยยิ้มโลกสวย แม้ชีวิตจริงจะไม่ค่อยสวยงามดั่งความฝัน แต่เราสามารถเลือกมองโลกแต่มุมดีๆ คิดในแง่บวก ก็อาจพบเจอความสุขสงบสันติขึ้นในจิตใจ My Neighbor Totoro คือผลงานชิ้นเอกของปรมาจารย์ผู้กำกับ Hayao Miyazaki แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทันทีตอนออกฉายในญี่ปุ่น เพราะเข้าโรงควบกับ Grave of the Fireflies (1988) ที่มีเรื่องราวตรงข้ามสุดขั้ว ผู้ชมเลยเบือนหน้าหนี แต่ด้วยคำวิจารณ์เสียงตอบรับดีล้นหลาม และยอดขายตุ๊กตา Totoro กับ Nekobasu (Catbus) ผลิตกันแทบไม่ทันจนได้ทุนคืน เด็กๆต่างคลั่งไคล้หลงใหล กลายเป็นกระแส Cult ตามมา ในบรรดาผลงานของ Miyazaki จะบอกว่า

รีวิว การ์ตูน Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูน Snow White and the Seven Dwarfs (1937)

Snow White and the Seven Dwarfs ภาพยนตร์อนิเมชั่นสีขนาดยาวเรื่องแรกของ Walt Disney และ Hollywood ที่ใช้การวาดด้วยมือ (Cel Animated) ดัดแปลงมาจากเทพนิยายของ Brothers Grimm, ทุกความยิ่งใหญ่มีจุดเริ่มต้น แม้เรื่องราวจะเรียบง่าย เน้นความบันเทิง แต่แฝงอะไรแนวคิดบางอย่างไว้ และเทคนิค ลูกเล่น ชั้นเชิงในการนำเสนอ เป็นสิ่งควรค่าที่จะ “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย” สโนว์ไวท์เป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในแผ่นดิน ทำให้ราชินีผู้ชั่วร้ายอิจฉาและต้องการกำจัดเธอ ราชินีได้ปลอมตัวเป็นแม่มดและหลอกให้สโนว์ไวท์กินแอปเปิ้ลพิษ สโนว์ไวท์จึงหลับไปเหมือนตาย แต่แท้จริงแล้วเธอแค่หลับไหลเท่านั้น คนแคระทั้งเจ็ดที่อาศัยอยู่ในป่าได้พบกับสโนว์ไวท์และนำเธอมาดูแล พวกเขาเฝ้ารออยู่เคียงข้างสโนว์ไวท์ตลอดเวลาจนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าชายได้มาพบกับเธอและปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาด้วยจูบแห่งรักแท้ ราชินีผู้ชั่วร้ายได้พยายามขัดขวางความรักของทั้งคู่ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้และเสียชีวิตลง   สำหรับแม่เลี้ยงผู้ชั่วร้าย ผู้หลงใหลคลั่งไคล้ในความงามของตนเอง ทำให้เธอเกิดความอิจฉาริษยาต่อสโนวไวท์ที่สวยงามกว่าตนอย่างรุนแรง ถึงกับวางแผนฆ่าเธอโดยใช้วิธีการอันชั่วร้าย, ตัวละครนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นบทเรียนสอนเด็ก ต่อความน่ารังเกียจของคนที่หลงตนเอง (Narcissism) และหยิ่งในศักดิ์ศรี (Pride) ที่สุดท้ายแล้วสังคมก็ไม่ยอมรับ (เธอถูกประหารในเวอร์ชั่นของ Brothers Grimm), ในเวอร์ชั่นของ Disney เธอตกหน้าผาตาย นี่มองได้ว่าเป็นการ ‘ทำตัวเอง’ จากที่เคยอยู่จดสูงสุด

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Coco (2017)
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Coco (2017)

Coco เรียกได้ว่าเป็นแอนิเมชันดีกรีออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ที่สร้างความประทับใจให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลก เรื่องราวของ “มิเกล” เด็กชายวัย 12 ปี เกิดมาในครอบครัวที่มีกฎเหล็กห้ามสมาชิกในบ้านเป็นนักดนตรี แต่เขากลับชื่นชอบดนตรีและเสียงเพลงในหัวใจ นำไปสู่เรื่องราวการผจญภัยที่เรียกน้ำตาจากผู้ชม นอกจากนี้ Coco ยังมีเนื้อหาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทศกาลวันแห่งความตาย (Day of the Dead) ของประเทศเม็กซิโก สำหรับ Coco (2017) เป็นหนังที่เซอร์ไพร์สสำหรับเรามากจริงๆ สารภาพว่าในตอนแรกที่ได้ดูตัวอย่างหนัง แทบไม่ได้สนใจเลย เพราะเห็นสไตล์หนังคิดว่าเป็นหนังแอนิเมชันที่เน้นไปทางเด็กดูมากกว่า จนมาเห็นกระแสวิจารณ์ค่อนข้างดี เลยต้องหันกลับมาดู แล้วก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงชมกันว่าหนังดีมาก รวมทั้งยังคิดว่า Coco ถือเป็นตัวเต็งที่แข็งมากในเวทีออสการ์ สาขารางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม (คิดว่าโอกาสได้สูงมาก !) Coco แอนิเมชันจาก Pixar ภายใต้การควบคุมของ Disney หนังได้รับการกำกับโดย Lee Unkrich และ Adrian Molina โดย Lee Unkrich เคยได้รับออสการ์แอนิเมชันยอดเยี่ยมมาแล้วครั้งนึงจาก Toy Story 3

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018)
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018)

Spider-Man: Into the Spider-Verse ภาคล่าสุดของโซนี่จะเป็นเรื่องราวของไมลส์ เด็กชายผิวสีที่ค้นพบว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในสไปเดอร์แมนอีกคน และพบว่าในจักรวาลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่เป็นสไปเดอร์แมน เขาเริ่มออกช่วยเหลือผู้คนรวมถึงคนที่เขารักนั่นคือพ่อ ซึ่งเราจะได้เห็นสไปเดอร์แมนอีกหลายคน หนึ่งในการ์ตูนแอนิเมชันที่เชิดชูความหลากหลายทางสังคม เมื่อตัวละครเอกเป็นสไปเดอร์แมนผิวสี โดยเลือกเล่าเรื่องผ่านตัวละคร “ไมลส์ โมราเลส” เด็กชายผิวสี ที่ได้รับพลังแมงมุม จนสุดท้ายได้เริ่มออกช่วยเหลือผู้คนในเมืองจากภัยร้าย การ์ตูนเรื่องนี้มอบแรงบันดาลใจให้ผู้ชม แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็เป็นสไปเดอร์แมน หรือ “ฮีโร่” ได้ นอกจากจะกวาดรายได้ทั่วโลกมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว ยังคว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม อีกทั้งทำให้เพลงประกอบภาพยนตร์อย่าง “Sunflower” ของ Post Malone โด่งดังติดชาร์ตเพลงทั่วโลก ความเปลี่ยนแปลงอีกประการคือการยกตัวเอกที่ไม่ใช่ ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ในวัยผู้ใหญ่หรือเด็กมานำ  แต่เปลี่ยนมามองผ่านสายตาของ ไมลส์ โมราเลส เด็กผิวสีที่บังเอิญได้รับพลังแมงมุมและยังหาวิธีจัดการกับพลังที่ได้รับมาอย่างยากลำบาก ซึ่งจะคล้ายกับปีเตอร์ตอนวัยรุ่นเลย สำหรับคอคอมิกส์หรือสื่ออื่นที่ไม่ใช่หนังน่าจะคุ้นเคยกับไมลส์มาพอสมควรเพราะเขาโลดแล่นในฐานะสไปเดอร์แมนแทน ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ มาได้พอสมควรแล้ว แต่สำหรับคอหนังนี่คือการตัวครั้งแรกและยังได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ของสไปเดอร์แมนที่มีมากกว่าหนึ่งคนเลยด้วย นอกจากนี้ยังมีดาราที่คาดไม่ถึงมาให้เสียงพากย์อีกทั้ง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ ที่กำลังร้อนแรงกับหนัง Bumblebee ก็มาให้เสียง เกวน สเตซี่

รีวิว ภาพยนตร์อนิเมชั่น Inside Out (2015)
การ์ตูน

รีวิว ภาพยนตร์อนิเมชั่น Inside Out (2015)

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Inside Out (2015) มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวคอมเมดี้ ผลงานการสร้างจาก พิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นลั้นลา เป็นตัวสีเหลืองอ่อน ที่ทำหน้าที่ควบคุมแผงอารมณ์เมื่อไรลีย์มีความสุข ดีใจ สนุกสนาน โดยตัวเธอจะเป็นคนร่าเริง สนุกกับทุกสิ่งที่ได้ทำ และมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ตัวละครต่อมาคือเศร้าซึม เป็นตัวสีฟ้า ที่ทำหน้าที่ควบคุมแผงอารมณ์เมื่อไรลีย์รู้สึกเศร้า เหงา เสียใจ หรือสิ้นหวัง โดยตัวเธอจะเป็นคนที่เศร้าตลอดเวลา และมองโลกในแง่ร้าย ตัวละครต่อมาคือฉุนเฉียว เป็นตัวสีแดง ทำหน้าที่ควบคุมแผงอารมณ์เมื่อไรลีย์โมโห หรือโกรธ เขาเป็นคนโกรธง่าย และฉุนเฉียว ตัวละครต่อมาคือหยะแหยง เป็นตัวสีเขียว ทำหน้าที่ควบคุมแผงอารมณ์เมื่อไรลีย์ต้องเจอกับบางสิ่งที่รู้สึกรังเกียจ หรือสะอิดสะเอียน ตัวละครต่อมาคือกลั๊วกลัว เป็นตัวสีม่วง เขาจะเป็นคนที่ตกใจง่าย ขี้กลัว และตื่นตระหนกไปก่อน และตัวละครสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือริลีย์ เป็นเด็กหญิงวัย 11 ขวบที่จำต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่มายังเมืองซาน ฟรานซิสโก และนั้นเองที่ทำให้ ริลีย์ ไม่คุ้นเคย สับสน และเป็นกังวล ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Inside Out (2015) มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเมื่อปี

Scroll to Top