สำหรับภาพรวมและแก่นของเรื่อง “Avatar: Fire and Ash” คือภาคที่สามในมหากาพย์ชุด Avatar โดย เจมส์ คาเมรอน ที่จะพาผู้ชมไปสำรวจโลก แพนดอรา ในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แก่นสำคัญของภาคนี้คือการสำรวจ ความซับซ้อนทางศีลธรรม โดยจะแสดงให้เห็นว่า “ความดี” และ “ความเลว” ไม่ได้มีขอบเขตที่ชัดเจนแค่ระหว่างมนุษย์กับนาวีอีกต่อไป แต่ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นภายในเผ่าพันธุ์นาวีเอง ชื่อเรื่อง “Fire and Ash” (อัคนีและธุลีดิน) สื่อถึง Fire (อัคนี) หมายถึง ความโกรธแค้น ความรุนแรง และการทำลายล้าง Ash (ธุลีดิน) หมายถึง ผลลัพธ์ที่ตามมา ได้แก่ ความเศร้าโศก การสูญเสีย และความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
การเผชิญหน้ากับความสูญเสียและกลุ่มนาวีเผ่าใหม่
เนื้อเรื่องจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน อวตาร อัคนีและธุลีดิน ไม่นานโดยมุ่งเน้นที่ผลกระทบจากการ สูญเสียเนเทยาม บุตรชายคนโตของ เจค ซัลลี่ และ เนย์ทิรี่ ครอบครัวซัลลี่และชนเผ่าเมทคายีน่า ยังคงต้องต่อสู้กับความรู้สึกเศร้าโศกและความบาดหมางในครอบครัว โดยเฉพาะ โล’อัค ที่รู้สึกผิดกับการจากไปของพี่ชายจุดเปลี่ยนสำคัญคือการเปิดตัวของ “กลุ่มเถ้าถ่าน” หรือ เผ่านาวีไฟ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์นาวีที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ภูเขาไฟและถิ่นทุรกันดารที่แห้งแล้งบนแพนดอรา พวกเขาถูกนำโดยผู้นำหญิงชื่อ วารัง กลุ่มเถ้าถ่านและวิกฤตศรัทธา กลุ่มเถ้าถ่าน ถูกนำเสนอในฐานะ ศัตรู กลุ่มใหม่ของเจคและชาวนาวีเผ่าอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างจากนาวีเผ่าอื่นที่ศรัทธาใน เอวา อย่างสุดหัวใจ คาเมรอนเปิดเผยว่ากลุ่มนี้จะแสดงให้เห็น ด้านมืดของชาวนาวี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อนที่มาของความโกรธแค้น: มีการบอกใบ้ว่า กลุ่มเถ้าถ่านได้ผ่านความยากลำบากอย่างแสนสาหัส โดยเฉพาะเรื่องภูเขาไฟระเบิด และพวกเขาได้อธิษฐานต่อเทพธิดา เอวา แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทำให้พวกเขามี วิกฤตศรัทธา และมีความโกรธแค้นต่อเอวาและนาวีเผ่าอื่นที่เชื่อในเอวาอย่างไม่มีเงื่อนไข ผู้นำอย่างวารังเต็มไปด้วยความแค้นและจะทำทุกอย่างเพื่อเผ่าของตน แม้แต่สิ่งที่ถูกมองว่าเป็นความชั่วร้ายพันธมิตรที่ไม่คาดคิด ความขัดแย้งจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อ พันเอกไมล์ส ควอริตช์ ในร่าง ได้กลับมาอีกครั้ง และมีการเปิดเผยว่า วารังและกลุ่มเถ้าถ่านได้สร้างพันธมิตรกับมนุษย์ RDA เพื่อต่อสู้กับเจค ซัลลี่และนาวีเผ่าอื่น ๆ
กลุ่มเถ้าถ่าน The Ash People และวิกฤตศรัทธา
การขยายขอบเขตความขัดแย้งและพัฒนาการของตัวละคร โล’อัคในบทบาทผู้บรรยาย โล’อัคจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บรรยายหลักของเรื่องแทนเจค ซัลลี่ เพื่อให้ผู้ชมได้รับฟังเรื่องราวผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่และผู้ที่ยังคงต่อสู้กับความเจ็บปวดพลังของ คิรี่ บุตรสาวบุญธรรมของเจค ที่เกิดจากอวตารของ Dr. Grace Augustine จะแสดงพลังพิเศษที่เชื่อมโยงกับเอวาออกมามากขึ้น ซึ่งพลังนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการต่อสู้เพื่อปกป้องแพนดอราการกลับมาของตัวละครสำคัญ เพยากาน วาฬ ที่เป็นเพื่อนกับโล’อัคจะกลับมามีบทบาทสำคัญภัยคุกคามจากมนุษย์ที่เพิ่มขึ้น มนุษย์ RDA ยังคงเดินหน้าโครงการยึดครองแพนดอราและพยายามปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมบนดาวให้เหมาะกับมนุษย์ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ภัยคุกคามร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองหัวข้อหลักทางอารมณ์และศีลธรรมเจมส์ คาเมรอน ระบุว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปยังสถานที่ที่ “มืดมิด” และจะเจาะลึกถึง ผลกระทบทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง ต่อตัวละครหลักความเกลียดชังและการให้อภัย เจค ซัลลี่และเนย์ทิรี่ต้องเผชิญหน้ากับความโกรธแค้นและความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ต่อมนุษย์ แต่ยังรวมถึงนาวีเผ่าอื่น ๆ ด้วย เจคอาจจะต้องพยายามหาวิธีที่จะไม่ปล่อยให้ความเกลียดชังนี้ทำลายครอบครัวของเขาการสำรวจความดี/ความเลว ภาคนี้จะทำลายภาพจำที่ว่านาวีดี มนุษย์ร้าย โดยการนำเสนอ นาวีที่เป็นปฏิปักษ์ อย่างกลุ่มเถ้าถ่าน และอาจจะแสดงให้เห็น มนุษย์ที่มีด้านดี เพื่อสร้างความคลุมเครือทางศีลธรรมให้มากขึ้น
บทสรุป
ในการ รีวิวหนัง เรื่อง “Avatar: Fire and Ash” จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามสามฝ่ายบนแพนดอรา ครอบครัวซัลลี่/ชาวนาวีน้ำ ปะทะกับ มนุษย์ RDA ซึ่งได้จับมือกับ กลุ่มเถ้าถ่าน/นาวีไฟ ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและวิกฤตศรัทธาต่อเอวา เรื่องราวจะมุ่งเน้นไปที่ความเศร้าโศกจากการสูญเสียเนเทยาม และการก้าวขึ้นเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่ในครอบครัวซัลลี่ ท่ามกลางการขยายตัวของสงครามครั้งใหญ่ที่สุดบนแพนดอรา
รับชมตัวอย่าง: Avatar: Fire and Ash อวตาร อัคนีและธุลีดิน
หนังแนะนำ: About Time ย้อนเวลาให้เธอ ปิ๊ง รัก