ซีรีส์เกาหลีแนว สืบสวนผสมคอเมดี้ อย่าง Brain Works ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2023 ทางช่อง KBS2 มีทั้งหมด 16 ตอน เนื้อเรื่องเริ่มต้นเมื่อ ชินฮารู (รับบทโดย จองยงฮวา) นักประสาทวิทยาผู้มีสมองเฉียบแหลมจากตระกูลหมอถึงสามชั่วอายุคน เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง แต่ก็มีนิสัยเย่อหยิ่งและเย็นชา ถึงขั้นปลอมแปลงเอกสารวิจัยเกี่ยวกับสมองของฆาตกรต่อเนื่องจนถูกไล่ออกจากสถาบัน “เบรนฮับ” ต่อมา กึมมยองเซ (ชาแทฮยอน) จ่าสิบตำรวจหนุ่มขี้อาย มีนิสัยจริงใจ จิตใจดี และทำงานในหน่วย CSI ทางประสาทวิทยา (Neuroscientific Investigations Team) ของกรมตำรวจเกาหลี วันหนึ่งเขาหลุดปากพูดถึงเรื่องปลอมแปลงเอกสารของชินฮารูให้กับนักข่าว จึงทำให้ความลับเปิดเผยจนเกิดความขัดแย้ง ส่งผลให้ชินฮารูต้องมาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทีมนี้ในฐานะที่ปรึกษาการร่วมมือที่ไม่ราบรื่น ระหว่างนักวิทยาศาสตร์หัวรั้นกับสายสืบเจ้าระเบียบกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตลกและความอัจฉริยะ ทั้งคู่ต้องช่วยกันคลี่คลายคดีที่เกี่ยวกับความผิดปกติของสมอง ทั้งโรคแปลกประหลาด พฤติกรรมแปลกที่ทำให้เกิดอาชญากรรม
บางคดียังเชื่อมโยงกับปมในวัยเด็กหรืออดีตอันเจ็บปวด ซึ่งเกมทางสมองคือกุญแจสำคัญในการไขคดีเหล่านั้นความพิเศษของ Brain Works คือการหยิบหลักวิทยาศาสตร์ทางสมองมาอธิบายเหตุจิตวิทยาของตัวร้ายหรือเหยื่อในแต่ละคดี โดยใช้กราฟิก CG ช่วยให้ข้อมูลเข้าใจง่าย สนุก ตรงกับคอนเซปต์ “สืบสมองเจาะคดี” ที่ไม่ใช่แค่ไขปริศนา แต่ยังเข้าใจกลไกการคิดของมนุษย์ ผ่านเหตุการณ์น่าตื่นเต้นและสนุกสนานเรื่องราวดำเนินด้วยเคมีของตัวละครนำ: ชินฮารูและกึมมยองเซ ที่แม้จะเริ่มต้นด้วยความเกลียด แต่ในที่สุดก็เรียนรู้ที่จะเชื่อใจ ทำงานร่วม และเติบโตร่วมกัน พร้อมกับความเข้มข้นของคดีทางสมอง ที่หลากหลายและชวนติดตาม ซีรีส์จึงกลายเป็นหนึ่งในผลงานสืบสวนที่ผสมความรู้ วิทยาศาสตร์ และมุมน่ารักให้ผู้ชมได้เพลินใจ แม้จะมีโทนคอเมดี้ แต่ก็แฝงประเด็นจิตวิทยาและความเป็นมนุษย์ไว้อย่างแนบเนียน
ซีรีส์แฝงข้อคิด และประโยชน์หลายด้าน
- ความเข้าใจในมนุษย์และสมองมากขึ้น
เรื่องนี้นำเสนอความรู้เกี่ยวกับ พฤติกรรมของสมอง และโรคทางระบบประสาท เช่น พฤติกรรมต่อต้านสังคม (Anti-social), สมองผิดปกติส่งผลต่อการตัดสินใจ, ภาวะทางจิตที่ทำให้ผู้คนทำผิดกฎหมาย เป็นต้น โดยใช้กราฟิกและคำอธิบายง่าย ๆ ทำให้ผู้ชมเรียนรู้ว่า เบื้องหลังการกระทำของคนบางคน อาจมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ซ่อนอยู่ ไม่ใช่แค่การตัดสินผิดหรือถูกเพียงผิวเผิน
- การยอมรับความแตกต่าง
ตัวเอกทั้งสองมีนิสัยต่างกันสุดขั้ว — คนหนึ่งเย็นชา ฉลาด ขาดความเข้าใจเรื่องอารมณ์ ส่วนอีกคนอ่อนโยน ซื่อสัตย์ และคิดถึงจิตใจผู้อื่นเสมอ การทำงานร่วมกันของทั้งคู่สอนให้เห็นว่า
“แม้จะต่างกันแค่ไหน ถ้าเปิดใจและเชื่อใจกัน ก็สามารถร่วมมือและเติบโตไปด้วยกันได้”
- การมีเป้าหมายและไม่ทิ้งความถูกต้อง
แม้จะเจออุปสรรค ทั้งแรงกดดัน ความขัดแย้ง หรืออดีตที่เจ็บปวด ตัวละครยังคงยึดมั่นในการหาความจริง และทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ สิ่งนี้ปลุกเตือนให้คนดูรู้ว่า
“ความพยายาม ความยุติธรรม และการไม่ยอมแพ้ต่อความผิด คือสิ่งที่ควรยึดถือ”