การ์ตูน

That Christmas 2024
Uncategorized, การ์ตูน

รีวิว การ์ตูน แอนิเมชั่น That Christmas 2024

สำหรับการ รีวิวการ์ตูนแอนิเมชั่น เรื่อง That Christmas เป็นแอนิเมชั่นอบอุ่นหัวใจที่สร้างจากหนังสือของ Richard Curtis เล่าเรื่องราวที่เกี่ยวพันกันของครอบครัวและมิตรภาพในเมืองริมทะเลเล็กๆ แห่งหนึ่งของอังกฤษที่ชื่อว่า Wellington-on-Sea โดยมีพายุหิมะครั้งใหญ่ในช่วงคริสต์มาสอีฟเป็นฉากหลังเรื่องราวหลักๆ จะเน้นไปที่กลุ่มตัวละครเด็ก 3 กลุ่ม และเรื่องราวของพวกเขาก็ถูกเล่าสลับไปมาโดยมีซานตาคลอส มาเป็นผู้บรรยายเป็นครั้งคราวเรื่องของแดนนี่ แดนนี่เป็นเด็กใหม่ในเมืองที่กำลังเผชิญหน้ากับความเศร้าและความเหงาจากการที่พ่อแม่แยกทางกัน พ่อของเขาไม่สามารถกลับบ้านมาฉลองคริสต์มาสได้เนื่องจากพายุหิมะ และแม่ของเขาก็ต้องไปทำงานพยาบาล แดนนี่รู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำให้แซม เด็กหญิงที่เขาแอบชอบสังเกตเห็นเขาได้ นอกจากนี้เขายังต้องใช้เวลาช่วงคริสต์มาสกับคุณครูที่เข้มงวดอย่างคุณนายแทรปเปอร์ ที่ตอนแรกดูน่ากลัว แต่ภายหลังเผยให้เห็นถึงความเมตตาและอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ เรื่องของ ฝาแฝดแซมและชาร์ลี สองพี่น้องฝาแฝดที่มีนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แซมเป็นเด็กที่วิตกกังวลและระมัดระวังไปหมดทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องโลกร้อนไปจนถึงเรื่องไก่งวง และกลัวว่าน้องสาวฝาแฝดของเธออย่างชาร์ลีจะไม่ได้รับของขวัญจากซานต้า เพราะชาร์ลีเป็นเด็กซนและชอบก่อเรื่อง แซมมักจะบ่นน้องสาวของเธอ แต่พวกเขาก็รักกันมาก ชาร์ลีเองก็กังวลว่าพฤติกรรมของเธอจะส่งผลต่อคริสต์มาสของแซมมากกว่าของตัวเอง ในที่สุดแซมก็เริ่มเข้าใจว่าการกระทำของชาร์ลีไม่ได้เกิดจากความอยากปั่นป่วน แต่เป็นเพราะความรักที่มีต่อเธอ และแซมก็ได้เรียนรู้ที่จะยืนหยัดเพื่อพี่สาวของเธอเมื่อพ่อแม่ไม่เข้าใจเรื่องของเบอร์นาเด็ตต์ และกลุ่มเด็กๆ ที่ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เบอร์นาเด็ตต์เป็นวัยรุ่นหัวรั้นที่อยากจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปในช่วงคริสต์มาส เธอถูกทิ้งไว้กับน้องสาวคนเล็กอย่างอีวี่ (Evie) และเพื่อนๆ เด็กคนอื่นๆ ในโรงนาใกล้บ้านในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เพราะพ่อแม่ของพวกเขาออกไปร่วมงานแต่งงานนอกเมือง แต่แล้วพายุหิมะก็ทำให้พ่อแม่ของพวกเขาติดอยู่ข้างนอก รถตู้ของพวกเขาพลิกคว่ำบนน้ำแข็งแตก ทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับบ้านได้ทันที เด็กๆ จึงต้องจัดการคริสต์มาสของตัวเอง เบอร์นาเด็ตต์พยายามสร้างคริสต์มาสที่น่าจดจำให้เด็กๆ แม้จะไม่มีพ่อแม่คอยดูแล แต่สถานการณ์ก็พลิกผันเมื่ออีวี่หายตัวไปในช่วงท้ายของคืน […]

ลูคาส์ (Luca)
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Luca

ลูคาส์ (Luca) ภาพยนตร์แอนิเมชันจากพิกซาร์และดิสนีย์ ถ่ายทอดเรื่องราวของมิตรภาพ การค้นพบตัวเอง และการก้าวข้ามความแตกต่างได้อย่างอบอุ่นและเปี่ยมเสน่ห์ ชวนให้หวนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งความไร้เดียงสาในวัยเด็ก ภาพยนตร์เรื่องนี้พาเราดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันงดงาม ที่ซึ่ง ลูกา สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแสนขี้อายและอยากรู้อยากเห็น ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่เคร่งครัดในกฎเกณฑ์ เรื่องราวพลิกผันเมื่อลูกาได้พบกับ อัลแบร์โต เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ผู้รักอิสระและเปี่ยมไปด้วยความฝันที่จะได้สัมผัสโลกเบื้องบน ทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ลูกาเปรียบเสมือนเด็กหนุ่มผู้เก็บตัวอยู่ในกรอบ ในขณะที่อัลแบร์โตคือตัวแทนของความกล้าหาญและความเปิดกว้าง การพบกันครั้งนี้จุดประกายการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น เมื่อทั้งสองตัดสินใจขึ้นสู่โลกมนุษย์ โดยมีข้อแม้สำคัญคือเมื่อตัวแห้ง ร่างกายของพวกเขาจะกลายเป็นมนุษย์ และจะกลับคืนสู่ร่างสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลเมื่อสัมผัสกับน้ำ การเดินทางมายังเมืองปอร์โตรอส เมืองชายทะเลสุดคึกคัก นำพาพวกเขาสู่ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เต็มไปด้วยความแปลกตาและความท้าทาย ทั้งคู่ต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงจากชาวเมืองที่หวาดกลัวสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล การใช้ชีวิตบนบกทำให้พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งการปั่นจักรยาน การกินเจลาโต และการได้พบกับ จูเลีย เด็กสาวชาวมนุษย์ผู้แข็งแกร่งและมีชีวิตชีวา ผู้กลายเป็นอีกหนึ่งเพื่อนร่วมผจญภัยคนสำคัญของพวกเขา มิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งสามเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความเข้าใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคและพิสูจน์ให้เห็นว่าความแตกต่างไม่ใช่กำแพง แต่เป็นสิ่งที่เติมเต็มและสร้างสีสันให้กับชีวิต ลูคาส์ โดดเด่นด้วยภาพแอนิเมชันที่สวยงาม มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยรายละเอียด โดยเฉพาะการสร้างสรรค์โลกใต้ทะเลและเมืองปอร์โตรอสที่ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล สีสันสดใสของภาพยนตร์ช่วยเสริมให้เรื่องราวดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เพลงประกอบภาพยนตร์ยังไพเราะและเข้ากับบรรยากาศได้อย่างลงตัว ช่วยขับเน้นอารมณ์ของเรื่องราวให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แก่นเรื่องของลูคาส์ที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับความแตกต่างและการก้าวข้ามความกลัวที่จะเป็นตัวเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งสารอันทรงพลังว่า การเปิดใจเรียนรู้และทำความเข้าใจผู้อื่น รวมถึงการกล้าที่จะแตกต่างจากผู้อื่น จะนำมาซึ่งประสบการณ์อันมีค่าและมิตรภาพที่ยั่งยืน ลูคาส์ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์สำหรับเด็กเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพยนตร์ที่ผู้ใหญ่ก็สามารถรับชมและได้รับข้อคิดดี ๆ กลับไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตามหาความฝัน การกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone หรือการให้คุณค่ากับมิตรภาพที่แท้จริง

The Summer Hikaru Died (หน้าร้อนที่ฮิคารุจากไป)
การ์ตูน

The Summer Hikaru Died (หน้าร้อนที่ฮิคารุจากไป)

เป็น อนิเมะ ที่ผสมผสานความสยองขวัญและ BL ได้อย่างลงตัว ผ่านเรื่องราวความสูญเสียและความรัก การแสดงเสียงของ ชิอากิ โคบายาชิ และ ชูอิจิโระ อูเมดะ ทำให้ตัวละครโยชิกิและฮิคารุมีชีวิตและบีบหัวใจ ภาพเคลื่อนไหวจาก Cygames Pictures ถ่ายทอดความรู้สึกของมังงะต้นฉบับได้อย่างงดงาม เรื่องนี้ชวนให้คิดถึงความโศกเศร้าและความเห็นแก่ตัวในความรักที่เราทุกคนเคยสัมผัส เคยไหม? ความรู้สึกที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งเปลี่ยนไป ราวกับเขาไม่ใช่คนที่เราเคยรู้จัก แต่เรายังยึดติดกับความทรงจำเก่าๆ เพราะกลัวการสูญเสีย The Summer Hikaru Died  อนิเมะที่เพิ่งฉายในปี 2025 บน Netflix นำพาเราดำดิ่งสู่ความรู้สึกแบบนั้น ผ่านเรื่องราวของ โยชิกิ และ ฮิคารุ สองเพื่อนรักในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อ “บางสิ่ง” เข้ามาแทนที่ตัวตนของฮิคารุ อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้แค่เล่าเรื่องสยองขวัญหรือความรักแบบ BL แต่เป็นการสำรวจความโศกเศร้าที่ลึกซึ้ง เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียคนที่รักที่สุด มันเหมือนเพื่อนที่มานั่งเล่าความรู้สึกข้างในให้เราฟัง พร้อมชวนให้เราร้องไห้ไปด้วยกัน ถ้าคุณพร้อมสัมผัสเรื่องราวที่จะทำให้หัวใจสั่นไหว มาดูกันว่า หน้าร้อนที่ฮิคารุจากไป ตอนแรกทำอะไรกับใจเราได้บ้าง เรื่องราวของ The Summer Hikaru Died

การ์ตูน

Isle of Dogs เกาะสุนัขผู้กล้า

การ์ตูนที่เกี่ยวกับโลกในอนาคตที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดวิกฤติหมาเป็นโรคระบาดรุนแรงรัฐบาลจึงตัดสินใจเนรเทศสุนัขทั้งหมดออกจากเมืองโตเกียวอย่าง  Isle of Dogs โดยส่งพวกมันไปยังเกาะขยะกลางทะเลที่ห่างไกลซึ่งเรียกว่า เกาะสุนัข ที่นั่นคือที่ซึ่งสุนัขทุกสายพันธุ์ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและโดดเดี่ยว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แอตาริ โคบายาชิ เด็กชายวัย 12 ปี ผู้เป็นเด็กกำพร้าจากครอบครัวผู้มีอิทธิพลในเมืองโตเกียว ต้องการตามหา สปอต สุนัขคู่ใจที่ถูกเนรเทศไปกับสุนัขตัวอื่นๆ บนเกาะขยะนี้ ด้วยความรักและความผูกพันที่ลึกซึ้ง แอตาริเดินทางไปยังเกาะสุนัขเพียงลำพัง พร้อมด้วยเป้าหมายชัดเจนว่าจะพาเจ้าสปอตกลับบ้านให้ได้ บนเกาะขยะนั้น แอตาริได้พบกับกลุ่มสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ ที่แต่ละตัวต่างมีบุคลิกและความสามารถเฉพาะตัว เช่น “ชัตเทอร์ส” สุนัขตาบอดที่มีจมูกไว, “บอส” ผู้นำกลุ่มสุนัขผู้เข้มแข็ง, “ซิพ” สุนัขสายลับ และ “เดรดโบลท์” สุนัขป่าที่มีความโกรธแค้นต่อมนุษย์ กลุ่มสุนัขเหล่านี้ช่วยแอตาริในภารกิจตามหาสปอตและเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการเนรเทศสุนัข เรื่องราวเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ความรัก ความซื่อสัตย์ และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในโลกที่เต็มไปด้วยการทุจริตและอำนาจ การผจญภัยของแอตาริและกลุ่มสุนัขบนเกาะขยะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทั้งการหลบหนีจากเจ้าหน้าที่และอุปสรรคจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ในที่สุด แอตาริและสุนัขทั้งหลายได้ร่วมมือกันเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของรัฐบาลที่พยายามปกปิดความจริงเกี่ยวกับโรคระบาด และสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สุนัขได้กลับมาอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสงบสุข Isle of Dogs เป็นเรื่องราวที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ความหวัง และการต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ที่ถูกทอดทิ้ง สะท้อนความสำคัญของมิตรภาพ ความกล้าหาญ และความรักที่ไม่มีเงื่อนไขระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนแท้ในชีวิตของกันและกัน คติสอนใจในเรื่อง Isle

บาร์บี้กับเทรีซ่า: สูตรสำหรับมิตรภาพ 2025
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูน บาร์บี้กับเทรีซ่า สูตรสำหรับมิตรภาพ 2025

สำหรับการ รีวิวการ์ตูนแอนิเมชั่น เรื่อง บาร์บี้กับเทรีซ่า สูตรสำหรับมิตรภาพ  เป็นการผจญภัยที่อบอุ่นหัวใจและเต็มไปด้วยสีสัน เน้นเรื่องราวของมิตรภาพ การทำอาหาร และการค้นพบรากเหง้าของครอบครัวเรื่องราวจะเน้นไปที่ เทเรซ่า เพื่อนสนิทของบาร์บี้ ซึ่งเป็นตัวละครเชื้อสายฮิสแปนิก (ละตินอเมริกา) ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักในจักรวาลบาร์บี้ เทเรซ่ากำลังเผชิญกับภารกิจสำคัญ นั่นคือการ สร้างสรรค์สูตรทามาเล่ (Tamale) ของครอบครัวขึ้นมาใหม่ สำหรับการเปิดตัวร้านอาหารเม็กซิกันแห่งใหม่ของญาติเธอที่นครนิวยอร์ก ซึ่งทามาเล่สูตรนี้เป็นสูตรที่มาจากคุณย่า (Abuela) ของเธอ และเป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของครอบครัวบาร์บี้ ทั้ง บาร์บี้ จากมาลิบูและบาร์บี้จากบรูคลิน และนิกกี้ เพื่อนรักของเทเรซ่า ได้เดินทางไปยัง “บิ๊กแอปเปิ้ล” (นครนิวยอร์ก) ในช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ เพื่อช่วยเทเรซ่าในภารกิจนี้ พวกเขาต้องช่วยกันคิดค้นและทดลองสูตรทามาเล่ในตำนานให้สำเร็จ เพื่อให้ร้านอาหารของญาติเทเรซ่าเปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบอุปสรรคและบทเรียนในขณะที่เทเรซ่าพยายามรื้อฟื้นสูตรทามาเล่ดั้งเดิม บาร์บี้จากบรูคลินก็ตกลงไปช่วย เอ็มมี่ เพื่อนสนิทของเธอ ในการคิดค้นเพลงฮิตสำหรับงานเปิดร้านอาหารในไทม์สแควร์ การแบ่งเวลาและการทำภารกิจที่ซ้อนทับกันนี้ทำให้บาร์บี้จากมาลิบูเริ่มกังวลว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนทุกคนได้ตามที่ตั้งใจไว้ ตลอดการเดินทางและภารกิจนี้ เพื่อนๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ มรดกทางวัฒนธรรมเม็กซิกัน ของเทเรซ่าผ่าน การทำอาหาร และได้ค้นพบคุณค่าที่แท้จริงของ มิตรภาพ การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการ ทำตามความฝัน นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังสื่อถึงแนวคิดที่ว่า

Madagascar
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Madagascar

การ์ตูนเรื่อง “Madagascar” เป็นผลงาน แอนิเมชัน จาก DreamWorks Animation ที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกแห่งการผจญภัยอันน่าขบขันของกลุ่มเพื่อนซี้จากสวนสัตว์เซ็นทรัลพาร์กในนิวยอร์ก นำทีมโดยสิงโตจอมโอ้อวด อเล็กซ์ (พากย์เสียงโดย เบน สติลเลอร์), ม้าลายขี้เล่น มาร์ตี้ (คริส ร็อก), ยีราฟขี้โรค เมลแมน (เดวิด ชวิมเมอร์) และฮิปโปสาวสุดมั่น กลอเรีย (จาดา พิงเก็ตต์ สมิธ) เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมาร์ตี้ผู้เบื่อหน่ายชีวิตในกรงและโหยหาอิสรภาพ ตัดสินใจหนีออกไปท่องโลกกว้าง ทำให้เพื่อนๆ ต้องจำใจออกตามหาและลงเอยด้วยการถูกจับส่งกลับไปยังแอฟริกา แต่โชคชะตากลับพลิกผันเมื่อกล่องบรรทุกพวกเขาร่วงหล่นลงกลางเกาะมาดากัสการ์ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ในป่าที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกับได้พบกับเหล่าลีเมอร์จอมเพี้ยน นำโดยคิงจูเลียน (ซาชา บารอน โคเฮน) ราชาลีเมอร์สุดกวนที่หลงตัวเองเสน่ห์อันโดดเด่นของ Madagascar อยู่ที่การสร้างสรรค์ตัวละครที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ แต่ละตัวมีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนและเสริมกันและกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นความกะล่อนของอเล็กซ์ ความกระตือรือร้นของมาร์ตี้ ความหวาดระแวงของเมลแมน หรือความแข็งแกร่งของกลอเรีย ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดผ่านบทสนทนาที่เฉียบคมและมุกตลกที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มเพนกวินสายลับสุดป่วน นำโดยสกิปเปอร์ (ทอม แมคกราธ) ริโก้ (จอห์น ดิแมกจิโอ) โควัลสกี (คริส มิลเลอร์) และไพรเวท (คริสโตเฟอร์ ไนต์ส) ก็เป็นอีกหนึ่งกิมมิกที่สร้างสีสันและสร้างความบันเทิงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยภารกิจลับๆ ที่มักจะแทรกเข้ามาอย่างไม่คาดฝันและแฝงไปด้วยความฮา ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่มอบความบันเทิงจาก การผจญภัยสุดหรรษา แต่ยังแฝงข้อคิดเกี่ยวกับการค้นหาตัวเอง การยอมรับความแตกต่าง และความหมายของมิตรภาพ เมื่อเหล่าตัวละครต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และเรียนรู้ที่จะพึ่งพาซึ่งกันและกัน พวกเขาได้ค้นพบว่าการใช้ชีวิตนอกกรอบที่คุ้นเคยนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่กลับเต็มไปด้วยความท้าทายที่ทำให้พวกเขาเติบโตและเข้าใจชีวิตมากขึ้น ฉากและภาพกราฟิกในเรื่องถูกออกแบบมาอย่างมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากในเกาะมาดากัสการ์ที่เต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติและสัตว์ป่าที่หลากหลาย เพลงประกอบภาพยนตร์ โดยเฉพาะเพลง “I Like to Move It” ที่กลายเป็นเพลงฮิตติดหู ก็มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานและเป็นที่จดจำของผู้ชมทั่วโลก “Madagascar” จึงเป็นการ์ตูนที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ไม่เพียงแต่จะสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่ยังมอบความประทับใจและความอบอุ่นหัวใจจากเรื่องราวของมิตรภาพและการผจญภัยที่ไม่มีวันสิ้นสุด

การ์ตูนเรื่อง Your Friendly Neighborhood Spider-Man
การ์ตูน

การ์ตูนเรื่อง Your Friendly Neighborhood Spider-Man

ถ้าพูดถึง ซูเปอร์ฮีโร่ ที่ครองใจแฟนๆ มานานกว่า 6 ทศวรรษ คงหนีไม่พ้น “สไปเดอร์แมน” หรือปีเตอร์ ปาร์คอร์ ที่สร้างโดยสแตน ลี และสตีฟ ดิตโกะ ตั้งแต่ปี 1962 จนถึงวันนี้ สไปเดอร์แมนยังคงเป็นหนึ่งในตัวละครที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวัฒนธรรมป๊อป ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบการ์ตูน ซีรีส์อนิเมชัน หรือภาพยนตร์ไลฟ์แอคชัน ล่าสุดกับซีรีส์อนิเมชัน “Your Friendly Neighborhood Spider-Man” (2025) ที่สร้างโดยเจฟ แทรมเมลล์ ซึ่งนำเสนอต้นกำเนิดของสไปเดอร์แมนในมุมมองใหม่ แต่ยังคงความคลาสสิกและความรู้สึกแบบวัยรุ่นในยุค 2020s ได้อย่างลงตัว ซีรีส์นี้เริ่มต้นที่ควีนส์ นิวยอร์ก โดยปีเตอร์ ปาร์คอร์ (รับบทโดย ฮัดสัน เทมส์) กำลังเตรียมตัวไปโรงเรียนมัธยมปลายที่ไฮสคูลชื่อดังอย่าง “มิดทาวน์ไฮสคูล” แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีสัตว์ประหลาดโจมตีนักเรียนในโรงเรียน ทำให้ปีเตอร์ถูกแมงมุมกัมมันตรังสีกัดและได้รับพลังวิเศษ หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ต้องย้ายไปเรียนที่ “เบลสไฮสคูล” เพราะมิดทาวน์ถูกทำลายในเหตุการณ์นั้น เขาต้องปรับตัวกับชีวิตใหม่ ทั้งการเป็นสไปเดอร์แมนและการจัดการความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวของปีเตอร์ ปาร์คอร์ แต่ยังขยายโลกของสไปเดอร์แมนให้กว้างขึ้น

การ์ตูน

Initial D ดริฟต์ทะลุขีดจำกัด

การ์ตูนแนวแข่งรถชื่อดังของญี่ปุ่น ผลงานของ Shuichi Shigeno อย่าง Initial D ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลาย ฟูจิวาระ ทาคุมิ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองเล็ก ๆ บนภูเขาอาคินะ จังหวัดกุนมะ เขาทำงานพิเศษช่วยพ่อส่งเต้าหู้ทุกเช้าด้วยรถเก่าคันหนึ่งคือ Toyota AE86 Sprinter Trueno หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ฮาจิโรคุ” โดยไม่รู้ตัวว่าการขับรถลงเขาทุกเช้านั้น ได้ฝึกฝนให้เขากลายเป็นนักขับรถดาวรุ่งที่มีทักษะขั้นเทพ ทาคุมิไม่เคยสนใจการแข่งขันรถซิ่งบนถนนภูเขามาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งกลุ่มนักแข่งถนน “Akina Speed Stars” พ่ายแพ้ต่อทีมแข่งจากนอกพื้นที่ “Red Suns” จากภูเขาอากางิ นำโดย ทาเคชิ นากาซาโตะ และ เรียวสุเกะ ทาคาฮาชิ พวกเขาจึงหวังให้ใครสักคนมาเอาชนะ Red Suns ให้ได้ ซึ่งทาคุมิได้มีโอกาสแสดงฝีมือโดยไม่ตั้งใจ และสามารถเอาชนะรถที่เหนือกว่าด้วยทักษะการดริฟต์สุดเฉียบจากประสบการณ์ขับลงเขาส่งเต้าหู้ จนกลายเป็นที่จับตามองในวงการแข่งรถภูเขา หลังจากนั้น ทาคุมิเริ่มเข้าสู่โลกของการแข่งขันมากขึ้น ได้พบกับทีมแข่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Myogi NightKids, Emperor หรือแม้แต่มืออาชีพจากพื้นที่อื่น เขาพัฒนาทักษะ

ANOHANA
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูน อนิเมะ ANOHANA

สำหรับการ รีวิวการ์ตูนอนิเมะ เรื่อง ANOHANA เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูร้อน ณ เมืองชิจิบุ จังหวัดไซตามะ โดยมีตัวละครหลักคือกลุ่มเพื่อนวัยเด็ก 6 คนที่เคยเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทกันมากสมัยประถม พวกเขามักจะใช้เวลาด้วยกันที่ ฐานทัพลับ ของพวกเขา แต่แล้วโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ เม็นมะ เด็กสาวตัวเล็กน่ารัก ร่าเริง และเป็นเหมือนศูนย์กลางของกลุ่ม ได้ประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตอย่างกะทันหันการตายของเม็นมะได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกลุ่มเพื่อน ทำให้มิตรภาพที่เคยแน่นแฟ้นต้องพังทลายลง ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตและเก็บงำความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดไว้ในใจ 10 ปีต่อมา การปรากฏตัวของเม็นมะ สิบปีผ่านไปกลุ่มเพื่อนเหล่านั้นเติบโตขึ้น แต่บาดแผลจากการสูญเสียเม็นมะยังคงอยู่ จินตะ ยาโดมิ อดีตหัวหน้ากลุ่มที่เคยร่าเริงสดใส ตอนนี้กลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่ยอมไปโรงเรียน และใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายนารุโกะ อันโจ เคยเป็นเพื่อนสนิทของ เม็นมะ ที่แอบหลงรักจินตะ ตอนนี้เธอพยายามปรับตัวเข้ากับสังคมและมีกลุ่มเพื่อนใหม่ แต่ก็ยังคงกังวลกับรูปลักษณ์และสิ่งที่คนอื่นคิดอัตสึมุ มัตสึกิ เคยแอบหลงรักเม็นมะและรู้สึกผิดกับการตายของเธอ ตอนนี้เขากลายเป็นคนเย็นชาและดูเหมือนจะทำทุกอย่างเพื่อลืมอดีต เขาเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายชั้นนำชิริ มัตสึยูกิ เพื่อนสนิทของยูคิอัตสึ เธอฉลาดและมีเหตุผล แต่ก็มีความรู้สึกซับซ้อนต่อยูคิอัตสึและเม็นมะ เธอเข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกับยูคิอัตสึเท็ตสึโด ฮิซาคาวะ ตัวใหญ่ที่สุดและเป็นคนเดียวที่ยังคงยึดติดกับฐานทัพลับ เขายังคงร่าเริงและเป็นมิตร แต่ก็มีความลับเกี่ยวกับวันที่เม็นมะตายเรื่องราวเริ่มเข้มข้นเมื่อ วิญญาณของเม็นมะ ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าจินตะเพียงคนเดียวเม็นมะในสภาพที่เป็นวิญญาณยังคงเป็นเด็กสาววัย 5-6

Back to the Outback
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Back to the Outback

ในใจกลางผืนดินสีแดงอันกว้างใหญ่ของออสเตรเลีย ที่ซึ่งสัตว์ป่าแปลกตาต่างดำรงชีวิตอยู่ “Back to the Outback” ภาพยนตร์แอนิเมชัน จาก Netflix นำเสนอเรื่องราวสุดน่ารักและชวนอบอุ่นหัวใจเกี่ยวกับกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์มีพิษที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่กลับมีความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่ นั่นคือการกลับสู่บ้านเกิดอันแท้จริงในป่าเอาต์แบ็ก เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในสวนสัตว์ที่กรุงซิดนีย์ โดยมี Maddie งูไทปันที่มีพิษร้ายแรงแต่กลับอ่อนโยนเป็นตัวละครหลัก เธอเบื่อหน่ายกับการที่มนุษย์มองว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาดและหวาดกลัวเธออยู่เสมอ เช่นเดียวกับเพื่อนพ้องของเธอ อย่าง Zoe แมงมุมใยกรวยจอมขี้โม้, Nigel แมงป่องขี้กังวล และ Frank ตะขาบอารมณ์ดี พวกเขาเหล่านี้ถูกจองจำในกรงที่แสดงให้เห็นถึง “สัตว์ที่น่ากลัวที่สุดในโลก” แต่สิ่งที่พวกเขาปรารถนาคืออิสรภาพและการยอมรับ แรงผลักดันหลักของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Pretty Boy โคอาล่าสุดน่ารักและขี้อวด ที่เป็นดาวเด่นของสวนสัตว์โดยไม่ตั้งใจกลับติดร่างแหไปกับการหลบหนีของพวกเขาด้วย ซึ่งเพิ่มความตลกขบขันและสถานการณ์วุ่นวายให้กับเรื่องราว การเดินทางอันยาวไกลจากสวนสัตว์ในเมืองสู่ป่าเอาต์แบ็กที่แห้งแล้งกลายเป็นบททดสอบมิตรภาพและความกล้าหาญของเหล่าสัตว์ต่างสายพันธุ์ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากมนุษย์ที่พยายามตามจับ และจากธรรมชาติอันโหดร้ายของออสเตรเลียเอง แต่ในทุกย่างก้าว พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะพึ่งพาซึ่งกันและกัน และค้นพบความหมายที่แท้จริงของคำว่าครอบครัว ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยภาพแอนิเมชันที่สวยงามและมีสีสันสดใส การออกแบบตัวละครทำได้อย่างน่ารักและมีเสน่ห์ แม้กระทั่งสัตว์ที่ดูน่ากลัวในชีวิตจริงก็ถูกทำให้ดูน่าเอ็นดูและเข้าถึงง่าย ดนตรีประกอบก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างอารมณ์และบรรยากาศของการผจญภัยได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งที่ทำให้ “Back to the Outback” แตกต่างและน่าประทับใจคือข้อคิดที่แฝงอยู่เบื้องหลังความสนุกสนาน ภาพยนตร์ท้าทายการตัดสินคนจากภายนอกและรูปลักษณ์ภายนอก โดยเน้นย้ำว่าความงดงามและคุณค่าที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่ตาเห็นเสมอไป Maddie และเพื่อน ๆ ของเธอถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ที่น่ากลัว แต่ภายในใจพวกเขากลับมีความเมตตา ความซื่อสัตย์ และความใฝ่ฝันที่ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง ซึ่งเป็นข้อความที่สำคัญและเข้ากับยุคสมัยอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังสอดแทรกอารมณ์ขันที่เข้าถึงได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ชมยิ้มและหัวเราะไปกับความป่วนของเหล่าสัตว์ รวมถึงฉากซึ้ง ๆ ที่ชวนให้หลั่งน้ำตาในบางช่วง Back to the Outback จึงไม่ใช่แค่การผจญภัยเพื่อกลับบ้าน แต่เป็นการเดินทางเพื่อค้นพบตัวเองและคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในทุกชีวิต นับเป็นการ์ตูนที่ควรค่าแก่การรับชมและเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวที่กำลังมองหาภาพยนตร์แอนิเมชันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ข้อคิดดี ๆ และความอบอุ่นหัวใจ

Scroll to Top