ซีรี่ส์

ซีรี่ส์

ซีรี่ส์

Mercy for None คืนล้างแค้นแห่งกรุงโซล

ซีรีส์แนวนัวร์แอ็กชัน-ล้างแค้นอย่าง Mercy for None ที่ออกฉายบน Netflix เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2025 รวม 7 ตอน ควบคุมโดยผู้กำกับ ชเวซองอึน จากบทเขียนโดย ยูกีซอง บนพื้นฐานของเว็บตูนชื่อ Plaza Wars (หรือ Mercy for None) ของโอเซฮยองและคิมคยอนแท เรื่องราวเริ่มต้นกับตัวเอก นัมกีจุน (รับบทโดย โซจีซอบ) อดีตผู้บังคับใช้ในองค์กรใต้ดินระดับสูงของกรุงโซล หลังจากเป็นส่วนสำคัญในสงครามแก๊ง เขาตัดสินใจถอนตัวจากวงการ ด้วยการตัดเอ็นร้อยหวายของตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่า “จะไม่กลับมาอีก” และใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบในการจัดส่งเครื่องดื่มให้ธุรกิจในย่านบงซาน อย่างไรก็ตาม ชะตาไม่อาจพักลงได้ เมื่อ นัมกีซอก (รับบทโดย อีจุนฮยอก) น้องชายของเขาที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารลำดับสองของกลุ่มจูอุน ถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ กีจุนจึงตัดสินใจกลับเข้าสู่โลกอาชญากรรมอีกครั้ง เพื่อค้นหาความจริงและ “ล้างแค้นแบบไม่มีเมตตา” นอกจากเส้นเรื่องหลักของการตามล่าหาคำตอบ นักแสดงและตัวละครอีกหลายคนล้วนมีบทบาทสำคัญ ประกอบด้วย หัวหน้าแก๊งจูอุน ลีจูอุน (ฮอจุนโฮ), หัวหน้าแก๊งบงซาน กูบงซัน (อันกิลคัง), […]

รีวิวซีรีส์ Wednesday ซีซั่น 2 พาร์ท 1
ซีรี่ส์

รีวิวซีรีส์ Wednesday ซีซั่น 2 พาร์ท 1

ซีรีส์เรื่องนี้พาเราดำดิ่งสู่ชีวิตของ เวนส์เดย์ แอดดัมส์ ที่ต้องเผชิญหน้ากับชื่อเสียงหลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรก ฟังดูน่ารำคาญสำหรับเธอ แต่เรื่องราวกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เราเคยสงสัยไหมว่า ถ้าชื่อเสียงกลายเป็นภาระ เราจะรับมือยังไง? Wednesday ซีซั่น 2 พาร์ท 1 จะพาเราไปสำรวจคำถามนี้ผ่านมุมมองของตัวละครที่ทั้งแข็งกร้าวและเปราะบางในเวลาเดียวกัน Wednesday ซีซั่น 2 พาร์ท 1 เล่าเรื่องของ เวนส์เดย์ ที่กลับมาที่โรงเรียนเนเวอร์มอร์พร้อมน้องชายที่ไร้ประโยชน์อย่างพัคสลีย์ (Isaac Ordonez) แต่เธอไม่ได้มาแบบธรรมดา เพราะตอนนี้เธอกลายเป็นคนดังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรก เธอเกลียดเรื่องนี้มาก โรงเรียนที่เต็มไปด้วยพวกนอกคอกไม่ควรมีเรื่องบูชาฮีโร่ แต่เวนส์เดย์กลับถูกรายล้อมด้วยแฟนคลับที่คอยหัวเราะคิกคักตั้งแต่วินาทีแรก สิ่งที่ทำให้เรื่องราวน่าสนใจคือการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน ผู้อำนวยการคนใหม่อย่างแบร์รี ดอร์ท (Steve Buscemi) เป็นพวกหัวโบราณที่ดูเหมือนจะไม่น่าเชื่อถือ ภายในตอนเดียว เขาเริ่มวางแผนชั่วร้าย ดึงมอร์ติเชีย แอดดัมส์ (Catherine Zeta-Jones) มาจัดงานกาล่าหาเงิน และแต่งตั้งบิอันก้า บาร์เคลย์ (Joy Sunday) เป็นตัวแทนนักเรียนผ่านการขู่เข็ญ มันยังไม่ชัดเจนว่าเขาชั่วร้ายแค่ไหน เพราะนี่เป็นแค่ครึ่งซีซั่น แต่ไม่มีใครใจดีจริงๆ เวนส์เดย์มีสตอล์กเกอร์ มีฆาตกรใหม่ที่ควบคุมนกกาให้จิกตาเหยื่อ และแม้ว่าไทเลอร์ (Hunter

ซีรี่ส์

รีวิวซีรีส์จีน Enslaved by Love ทาสรักฝ่าบาท

     Enslaved by Love ทาสรักฝ่าบาท เป็นซีรีส์จีนแนวย้อนยุค-โรแมนติกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงที่ผ่านมา ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าติดตามและองค์ประกอบต่างๆ ที่ลงตัว ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถตรึงใจผู้ชมได้ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบ พล็อตเรื่องที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยอารมณ์       ซีรีส์เล่าเรื่องราวของ หลินหว่านเอ๋อร์ รับบทโดย หลี่ฉุน หญิงสาวที่ต้องกลายเป็นนางกำนัลในวังหลวง และได้พบกับ ฉู่เจิ้น รับบทโดย หวังต้าลู่ องค์ชายผู้เย่อหยิ่งและเย็นชาในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความใกล้ชิดและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ทั้งสองคนเริ่มเปิดใจให้กัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยอุปสรรค, การเมืองในวัง, และความเข้าใจผิดที่ทำให้ความรักของทั้งสองต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าสิ่งที่ทำให้พล็อตเรื่องนี้น่าสนใจคือการสร้างตัวละครที่มีมิติ หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ใช่แค่นางเอกที่อ่อนแอ แต่เป็นหญิงสาวที่ฉลาดและมีความสามารถ ขณะที่ฉู่เจิ้นก็ไม่ได้เป็นเพียงองค์ชายที่เย็นชา แต่เขามีปมในใจและต้องแบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงและเอาใจช่วยตัวละครทั้งสองได้ การแสดงที่เข้าถึงบทบาท       นักแสดงหลักทั้ง หลี่ฉุน และ หวังต้าลู่ ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม เคมีของทั้งสองคนเข้ากันได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ซับซ้อน เช่น ความรักที่ต้องเก็บซ่อน, ความเจ็บปวดจากความเข้าใจผิด, และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนที่รัก ทั้งสองคนแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ นักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เรื่องราวในวังหลวงดูสมจริงและมีสีสันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่เป็นศัตรู, เพื่อนสนิท, หรือผู้ที่คอยช่วยเหลือ ทำให้เรื่องราวมีความลึกและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง งานสร้างที่ประณีตและสวยงาม       อีกหนึ่งจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คืองานสร้างที่ทุ่มทุนสร้างอย่างเต็มที่

ซีรี่ส์

Perfect Mismatch รักต่างขั้ว หัวใจตรงกัน

ซีรีส์จีนแนวโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง Perfect Mismatch ที่บอกเล่าเรื่องราวของชายหญิงสองคนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเข้ากันเลย แต่กลับต้องกลายมาใช้ชีวิตร่วมกันภายใต้สถานการณ์สุดพิเศษ นำแสดงโดยนักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว สร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชมได้อย่างลงตัว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เซิ่งอวี่ นักธุรกิจหนุ่มสุดเนี้ยบ เจ้าระเบียบ และจริงจังกับทุกอย่างในชีวิต ต้องพบกับ ซูเสี่ยวหนาน หญิงสาวผู้รักอิสระ ใช้ชีวิตแบบไม่ยึดติด และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ด้วยความเข้าใจผิดและเหตุบังเอิญหลายอย่าง ทำให้ทั้งสองต้องตกกระไดพลอยโจนมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในฐานะคู่รักปลอมๆ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวและงานของแต่ละฝ่ายให้ผ่านพ้นไปได้ แม้จะมีความต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่เมื่อต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน ความใกล้ชิดก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มีต่อกัน จากความรำคาญกลายเป็นห่วงใย จากความไม่เข้าใจก็เริ่มกลายเป็นการเรียนรู้และยอมรับในข้อดีข้อเสียของกันและกัน ขณะเดียวกัน ทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และศัตรูทางธุรกิจ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ปลอมๆ นี้เริ่มสั่นคลอนแต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเรื่องราวความรักที่ไม่มีใครคาดคิดเริ่มพัฒนาขึ้นจริงๆ ทั้งเซิ่งอวี่และซูเสี่ยวหนานต่างก็ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นแท้จริงคืออะไร และความรักที่เริ่มต้นจากการ “ไม่เข้ากันเลย” จะสามารถกลายเป็น “รักแท้” ที่ลงตัวได้หรือไม่ Perfect Mismatch คือซีรีส์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความอบอุ่น และบทเรียนเรื่องการปรับตัว การยอมรับความแตกต่าง และการค้นพบความรักในรูปแบบที่ไม่คาดฝัน เหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่อง Perfect Mismatch เคมีนักแสดงนำเข้ากันเกินต้าน แม้ตัวละครหลักอย่าง “เซิ่งอวี่” และ “ซูเสี่ยวหนาน”

ซีรี่ส์

รีวิวซีรีส์ The Queen’s Gambit เกมกระดานแห่งชีวิต

เกมกระดานแห่งชีวิต The Queen’s Gambit คือมินิซีรีส์จาก Netflix ที่โดดเด่นทั้งในด้านการเล่าเรื่อง ภาพ และการแสดง โดยเฉพาะบทบาทของนางเอก “เบธ ฮาร์มอน” (Beth Harmon) รับบทโดย Anya Taylor-Joy ที่เปล่งประกายจนหลายคนจดจำเธอในบทนี้ได้ทันที เรื่องราวถ่ายทอดชีวิตของหญิงสาวกำพร้าที่เติบโตมากับปัญหาชีวิต ความเจ็บปวด และการพึ่งพายาเสพติด แต่กลับค้นพบพรสวรรค์อันน่าทึ่งในเกมหมากรุก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่โลกแห่งการแข่งขันที่ทั้งโดดเดี่ยวและเข้มข้นอย่างถึงที่สุด เรื่องราวเริ่มต้นในช่วงปี 1950s เมื่อ เบธ ฮาร์มอน สูญเสียแม่จากอุบัติเหตุรถยนต์ เธอถูกส่งไปยังบ้านเด็กกำพร้า และที่นั่นเอง เธอได้พบกับภารโรงชราผู้หนึ่งที่สอนเธอเล่นหมากรุก ซึ่งไม่นานนักเธอก็แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์และความเข้าใจในเกมระดับอัจฉริยะ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เธอกลับหลงใหลในเกมหมากรุกและเริ่มเส้นทางการเป็นนักแข่งที่โด่งดังระดับโลก หนึ่งในจุดแข็งของซีรีส์นี้คือการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครอย่างลึกซึ้ง เราได้เห็นพัฒนาการของเบธจากเด็กสาวขี้อาย เต็มไปด้วยความกลัว กลายเป็นหญิงสาวที่กล้าแกร่ง ฉลาดเฉียบคม และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ถึงแม้เธอจะต้องต่อสู้กับการเสพติดยาและแอลกอฮอล์ ความเหงา และความโดดเดี่ยวจากการอยู่ในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ แต่เธอก็ไม่หยุดเดินหน้าต่อไป องค์ประกอบภาพและงานศิลป์ในซีรีส์ก็ถือว่ายอดเยี่ยม การใช้โทนสี เสื้อผ้า และฉากต่างๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคไปในสมัยนั้นจริงๆ ขณะเดียวกัน การถ่ายทำฉากการเล่นหมากรุกก็ทำได้ชวนลุ้น ชวนตื่นเต้น แม้คนดูจะไม่เข้าใจกติกาเกมนี้ก็ตาม สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้พิเศษไม่ใช่แค่เรื่องของหมากรุก

ซีรีส์วายไทย ชาย (Shine) 2025
ซีรี่ส์

ซีรีส์วายไทย ชาย (Shine) 2025

Shine (2025) นำเสนอซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องรักหวานแหวว แต่เป็นการผสมผสาน การเมืองไทยยุค 60s กับความสัมพันธ์ที่ท้าทายบรรทัดฐานสังคม ผลงานจาก Be On Cloud ได้รับเลือกให้ฉายบน WeTV และ Channel 7HD และกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่สร้างกระแสได้อย่างเงียบๆ แต่ทรงพลัง Shine เล่าเรื่องเริ่มต้นด้วยปาร์ตี้หรูหราใน Grand Paradiso เพื่อฉลองการเหยียบดวงจันทร์ในเดือนกรกฎาคม 1969 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด แต่กลุ่มนักศึกษากำลังเตรียมประท้วง ภายในงาน ธันวาและวง Moonshine กำลังแสดง แต่เขาไม่ใช่ลูกคนรวยทั่วไป เพราะเป็นลูกชายที่ห่างเหินจากนักธุรกิจใหญ่ พะโดม ชาตบดี ระหว่างการแสดง ธันวาสบตากับ ตริน นักเศรษฐศาสตร์หล่อที่เพิ่งกลับจากปารีสหลังจาก 9 ปี สิ่งที่ทำให้เรื่องราวน่าสนใจคือการถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครที่สมจริง ตรินเป็นคนหลักการแน่น แต่เขาก็มีข้อบกพร่อง เขาได้รับข้อเสนอตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารชาติ แต่ปฏิเสธเพื่อเข้าร่วมสภาวัฒนธรรมเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การประท้วงเริ่มต้นเมื่อวิคเตอร์ พนักงานเสิร์ฟ part-time ส่งสัญญาณ นักศึกษาคัดค้านการใช้เงินฟุ่มเฟือยและโครงการทุนนิยมอย่างโรงไฟฟ้าและเขื่อนบนที่ดินทหารห้วยคำแสง ซีรีส์เรื่องนี้ถามคำถามหนักหน่วง: ถ้าเราเลือกได้ เราจะเปลี่ยนแปลงสังคมหรือยอมตามกระแส นารัน นักข่าวแฝงตัวเข้างานและถ่ายรูปพันเอกไกรเลิศและพลเอกประชา

ซีรี่ส์

Go Go Squid เกมหัวใจในสนามอีสปอร์ต

ซีรีส์จีนแนวโรแมนติกคอมเมดี้ผสมดราม่าอย่าง Go Go Squid ที่ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อดังของ Mo Bao Fei Bao เล่าเรื่องราวของ ถงเหนียน (แสดงโดย หยางจื่อ) นักศึกษาสาวสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะและยังเป็นนักร้องคัฟเวอร์ในโลกออนไลน์ เธอเป็นคนสดใส มีเสน่ห์และมีแฟนคลับจำนวนมาก วันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบกับ หานซางเหียน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Gun (แสดงโดย หลี่เซียน) อดีตนักแข่งอีสปอร์ตชื่อดังและหัวหน้าทีม K&K ซึ่งเป็นทีมแข่งขันเกมไซเบอร์ที่กำลังไล่ตามความฝันระดับโลกถงเหนียนตกหลุมรักหานซางเหียนตั้งแต่แรกพบ แม้ว่าเขาจะเป็นคนเงียบขรึม ดูเย็นชา และให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อมทีมมากกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ด้วยความพยายามและความจริงใจของถงเหนียน เธอค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในโลกของเขา ทั้งสองเริ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผ่านทั้งความเข้าใจผิด อุปสรรคจากการแข่งขัน และอดีตที่ยังตามหลอกหลอนหานซางเหียน นอกจากความรักที่ค่อย ๆ เติบโต เรื่องยังถ่ายทอดมิตรภาพในทีม ความมุ่งมั่นในการทำตามเป้าหมาย และการเติบโตของตัวละครทั้งสอง การเล่าเรื่องผสมผสานความน่ารักสดใสของถงเหนียนเข้ากับความจริงจังและมุ่งมั่นของหานซางเหียน จนทำให้ผู้ชมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาจากคนแปลกหน้าสู่คู่รักที่พร้อมสนับสนุนกันและกัน ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่กำลังตามหาความฝันและคนที่เข้าใจหัวใจของเราอย่างแท้จริง จุดเด่นของเรื่อง Go Go Squid เคมีระหว่างนักแสดงนำลงตัวมาก คู่พระนางอย่าง หยางจื่อ และ หลี่เซียน

รีวิว ซีรีส์ที่สาววายห้ามพลาด – ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด
ซีรี่ส์

รีวิว ซีรีส์ที่สาววายห้ามพลาด – ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด

ซีรีส์เรื่องนี้พาเราไปดำดิ่งสู่ชีวิตของ พริ๊นซ์ ที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันซับซ้อนของวรเดช ผ่านการผจญภัยในราชสำนักธนบุรี ฟังดูดราม่า แต่เรื่องราวกลับเต็มเปี่ยมด้วยมุกตลกและโมเมนต์น่ารักที่ทำให้เรายิ้มไม่หุบ เราอาจเคยสงสัยไหมว่า ถ้าต้องย้อนเวลาไปแก้ไขอดีต เราจะเลือกทางไหน? ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด จะพาเราไปสำรวจคำถามนี้ผ่านมุมมองของตัวละครที่ทั้งเปราะบางและกล้าหาญในคราวเดียวกัน ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด ใช้สไตล์ที่ผสมผสานความสมจริงของยุคธนบุรีกับความสดใสแบบสมัยใหม่ ไม่ได้เน้นความอลังการ แต่เลือกใช้สีสันอ่อนโยนและฉากที่ละเอียดอ่อนเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ตัวละคร การออกแบบเครื่องแต่งกายและฉากหลังสะท้อนถึงชีวิตในยุคเก่าได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะฉากในราชสำนักที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดแต่แฝงมุกตลก ผู้กำกับ โอ๋ กฤษฎา เตชะนิโลบล นำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองที่ใกล้ชิด เน้นช่วงเวลาเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความหมาย ฉากที่พริ๊นซ์เต้นรำแบบสมัยใหม่ในราชสำนักกลายเป็นโมเมนต์ที่ทั้งฮาและสะเทือนใจ มันเหมือนกับการได้เห็นภาพวาดชีวิตที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง การกำกับทำให้ทุกฉากรู้สึกเป็นส่วนตัวราวกับเรากำลังดูเรื่องราวของเพื่อนสนิท นอกจากนี้ การแสดงของนักแสดงนำอย่าง นัท ศุภณัฐ ในบทพริ๊นซ์/วรเดช สุดยอดมาก เขาถ่ายทอดความฮาและความมั่นใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เราหัวเราะไม่หยุดตั้งแต่ตอนแรก การจูบกับตัวละครอื่นๆ ในตอนเดบิวต์ยิ่งเพิ่มความสนุกแบบ reverse harem ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างจาก BL ไทยเรื่องอื่นๆ   อีกหนึ่งในประเด็นหลักของ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด คือแนวคิดเรื่อง การต่อสู้เพื่อสิทธิ LGBTQ+ และการควบคุมชะตาชีวิตตัวเอง พริ๊นซ์ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างโกศลกับพระเจ้าชัยเชษฐ์ ซึ่งโกศลวางแผนโค่นบัลลังก์แต่ไม่ต้องการฆ่าน้องชาย ซีรีส์ค่อยๆ เผยความลับว่าวรเดชอาจถูกหักหลังจากคนใกล้ตัว คำถามที่ว่า “ยังมีโอกาสเริ่มใหม่ไหม?”

ซีรี่ส์

รีวิวซีรีส์ Alice in Borderland อลิซในแดนมรณะ

สำหรับเรื่อง Alice in Borderland เป็นซีรีส์สัญชาติญี่ปุ่นที่สร้างจากมังงะชื่อเดียวกันของ ฮารุ อะโสะ โดยถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงครั้งแรกในปี 2020 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนมีซีซั่น 2 ตามมาในปี 2022 โดยซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นการผสมผสานระหว่างแนวไซไฟ ระทึกขวัญ และจิตวิทยาได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งฉากแอ็กชันที่ดุเดือดและเกมเอาชีวิตรอดที่ไม่เหมือนใคร เรื่องราวเริ่มต้นจาก อาริสึ รโยเฮ (รับบทโดย เคนโตะ ยามาซากิ) ชายหนุ่มว่างงานที่ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย วันหนึ่งเขากับเพื่อนสองคนกลับพบว่าทั้งโตเกียวหายไป ผู้คนรอบข้างหายตัวหมด และเมืองทั้งเมืองกลายเป็นเวทีเกมแห่งความตายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เกมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องท้าทายทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังจู่โจมจิตใจผู้เล่นอย่างรุนแรง แถมทุกเกมมีอัตราเดิมพันเป็นชีวิตจริงๆ สิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้น่าจับตามอง คือรูปแบบเกมที่หลากหลายและไม่สามารถคาดเดาได้ เช่น เกมไพ่โพแดงที่ต้องใช้อารมณ์ เกมโพดำที่ใช้พละกำลัง หรือเกมโพแดงที่เต็มไปด้วยการหักหลัง นอกจากนั้น ตัวละครแต่ละคนต่างก็มีภูมิหลังและแรงจูงใจที่ลึกซึ้ง ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะผูกพันและรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ในโลกที่ไร้ความเมตตา นอกจากอาริสึ ยังมีตัวละครหลักอีกคนอย่าง อุซางิ ยุอิ (รับบทโดย ทาโอะ ซึจิยะ) นักปีนเขาสาวที่เข้มแข็งและมีอดีตเจ็บปวดเช่นกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ พัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติท่ามกลางความตายรอบตัว ถือเป็นแกนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มอารมณ์ในเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพและฉากในซีรีส์ถูกถ่ายทำอย่างพิถีพิถัน โตเกียวที่ไร้ผู้คนเต็มไปด้วยความหลอนและน่าสงสัย เอฟเฟกต์และฉากแอ็กชันถูกสร้างออกมาได้สมจริงมาก บวกกับดนตรีประกอบที่ช่วยเสริมความระทึกใจ

ซีรี่ส์

รีวิว Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว ซีรีส์จีนแนวโรแมนติกดราม่า วัยทำงาน ถานซงอวิ้น -หลินเกิงซิน

  หนีห่าววันนี้มีซีรีส์จีนมาฝากอีกแล้วค่ะ เรื่อง Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว ผลงานของ ถานซงอวิ้น นางเอกจากร้อยรักปักดวงใจ ประกบคู่กับ หลินเกิงซิน แนวดราม่า โรแมนติก วัยทำงาน ที่ก่อนออกอากาศมียอดผู้สนใจรับชมทะลุ 150 ล้านวิวแหนะ ว่าแต่ดูแล้วสนุกแค่ไหน ไปติดตามกับรีวิวซีรีส์นี้กันค่ะMaster of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว (2022) สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน ของนักเขียน Hong Jiu บอกเล่าเรื่องราวของ หนิงเหมิง (ถานซงอวิ้น) บัณฑิตสาวสาขาการเงินที่โชคชะตาจับพลัดจับผลูให้เธอมาเป็นเลขาของ ลู่จี้หมิง (หลินเกิงซิน) ประธานบริษัทการลงทุนจี้เหมิง ที่มีนิสัยจู้จี้ เจ้าระเบียบ ที่เปลี่ยนเลขาบ่อยมาก จนได้มาเจอกับหนิงเหมิง สาวเก่ง ช่างสังเกต ซึ่งเธอเป็นเลขาเขามานานถึงสามปี แต่เป้าหมายของหนิงเหมิงคือการทำงานเป็นนักลงทุนในแผนกโครงการ เธอจึงขอลาออกจากการเป็นเลขา แต่จี้หมิงไม่เห็นด้วย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร และหนิงเหมิงจะได้เป็นนักลงทุนหรือไม่ ถานซงอวิ้น รับบทเป็น หนิงเหมิง สาวเก่ง

Scroll to Top