หนัง

หนัง

หนัง

รีวิวหนัง Deep Cover ภารกิจด้นสด ปลดล็อกสกิลรั่ว ดำดิ่งชวนขำกับสายตำรวจการละคร

รีวิวหนัง Deep Cover ภารกิจด้นสด ปลดล็อกสกิลรั่ว ดำดิ่งชวนขำกับสายตำรวจการละคร    นับว่านานทีปีหนจะได้เสพย์สุขไปคอนเทนท์หนังสัญชาติอังกฤษแท้ ๆ ที่พกพาลีลาการเสียดสีและเหน็มแนมสังคมออกมาสักเรื่อง และล่าสุดก็เป็นคิวของ Deep Cover ภารกิจด้นสด ปลดล็อกสกิลรั่ว ที่นับว่าเป็นหนังออริจินัลบริติชที่มาด้วยท่วงท่าไปเรื่อยของลีลาการแสดง ที่ทำให้คนดูได้สัมผัสเห็นความไปเรื่อย ๆ ของพวกเขาที่ก้าวเข้าไปสู่วังวนแห่งโลกอาชญากร ซ้ำยังมาพร้อมกับทัพนักแสดงลีลาตัวท็อปเรื่องราวของคนหนุ่มสาวที่รู้สึกว่ายังไม่เคยสัมผัสอะไรที่เรียกว่าความสำเร็จเลยสักครั้งในชีวิต แคท เป็นเทรนเนอร์สอนการแสดงตลกด้นสดที่ยังไม่เคยมีมาสเตอร์พีชของตัวเอง มาร์ลอน หนุ่มที่พกพรสวรรค์ทางการแสดงแต่กลับไร้โอกาสให้เฉิดฉาย และ ฮิว พนักงานออฟฟิศที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าสังคม พวกเขาได้กลายมาเป็นนักแสดงด้นสดที่มาเป็นสายให้กับตำรวจแบบข้าง ๆ คู ๆ และได้นำสกิลการแสดงเข้าไปตบตาพวกแก๊งอาชญากรใต้ดินในกรุงลอนดอน ชนิดที่ไม่ต่างกับเข้าไปกระตุกหนวดเสือ”ทอม คิงสลีย์” หวนกลับมาสร้างหนังในรอบเกือบสิบปี หลังจากที่หันไปเอาดีในงานกำกับซีรีส์ดังอยู่หลายเรื่อง ที่มาพร้อมกับดรีมทีมมือเขียนบทระดับเทพ ที่นำโดย “คอลิน เทรวอร์โรว์” (ผู้กำกับ หนังชุด Jurassic World) ที่ต้องบอกเลยว่า Deep Cover เรื่องนี้ไปได้แหล่มแจ่มแมวเพราะบทหนังเป็นหลักเป็นอันโดยแท้ แม้ว่าจะเป็นหนังตลกสไตล์บริติชที่มักจะเต็มไปด้วยมุกขบขำที่ลุ่มลึกไปสักหน่อย แต่บอกเลยว่าลีลาเรื่องนี้เนี๊ยบแบบจัดจ้านไม่เบา          พล็อตเรื่องอาจจะไม่ได้สดใหม่เท่าไหร่ ร้อยเรียงมาแบบง่าย ๆ กับประเด็นของคนขี้แพ้ที่กำลังจนตรอกที่จับพลัดจับผลูมารับงานเป็นสายสืบ ออกมาเป็นหนังที่มีลักษะเหมือนบัดดี้คู่หูสืบสวนสอบสวนแบบชวนงงงวย แต่ยังสอดแทรกมาด้วยมุกตลกแบบชาวอังกฤษ ที่อาจจะไม่ได้โจ่งแจ้ง […]

หนัง

รีวิวหนังเรื่อง The Invisible Man ระทึกขวัญลึกลับที่เล่นกับจิตใจ

เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ-จิตวิทยา The Invisible Man ที่กำกับโดย Leigh Whannell และได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายคลาสสิกของ H.G. Wells แต่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้ร่วมสมัยมากขึ้น โดยเน้นไปที่ประเด็นความรุนแรงในครอบครัว การล่วงละเมิดทางจิตใจ และการเอาตัวรอดของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อได้อย่างชาญฉลาด ตัวหนังมีทั้งบรรยากาศอึดอัด ลุ้นระทึก และตั้งคำถามกับความจริงที่คนอื่นมองไม่เห็น เรื่องราวเริ่มต้นจาก เซซิเลีย หญิงสาวที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้านของ เอเดรียน แฟนหนุ่มมหาเศรษฐีนักวิทยาศาสตร์ผู้มีพฤติกรรมควบคุมเธออย่างรุนแรง หลังจากหลบหนีออกมาได้ไม่นาน เซซิเลียก็ได้รับข่าวว่าเอเดรียนได้ฆ่าตัวตายและทิ้งมรดกไว้ให้เธอจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ประหลาดเริ่มเกิดขึ้นรอบตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นเสียงแปลก ๆ ข้าวของเคลื่อนที่เอง หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เธอดูเหมือนคนเสียสติ เซซิเลียเริ่มเชื่อว่าเอเดรียนยังมีชีวิตอยู่ และเขากลายเป็น “มนุษย์ล่องหน” ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการสะกดรอยและทำลายชีวิตเธอโดยที่ไม่มีใครเชื่อ สิ่งที่น่าสนใจคือ หนังไม่ได้นำเสนอเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ผสมผสานเทคโนโลยีและจิตวิทยาเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน Elisabeth Moss รับบทเซซิเลียได้อย่างยอดเยี่ยม ถ่ายทอดความหวาดระแวง เจ็บปวด และความกล้าหาญออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ เธอคือหัวใจของหนังอย่างแท้จริง เพราะหนังแทบทั้งเรื่องจะโฟกัสไปที่มุมมองของตัวเธอเพียงคนเดียว ทำให้ผู้ชมต้องเอาใจช่วยและสงสัยไปพร้อมกันว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในหนังเรื่องนี้คือการใช้ “พื้นที่ว่าง” และ “ความเงียบ” อย่างมีประสิทธิภาพ กล้องมักจะจับภาพในมุมกว้างที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอยู่ แต่กลับทำให้คนดูรู้สึกเหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ในเงามืด

รีวิว ภาพยนต์ Exhuma (ขุดมันขึ้นมาจากหลุม)
Uncategorized, หนัง

รีวิว ภาพยนต์ Exhuma (ขุดมันขึ้นมาจากหลุม)

รีวิวภาพยนต์เรื่อง Exhuma หรือ ขุดมันขึ้นมาจากหลุม ภาพยนตร์แนวสยองขวัญจากประเทศเกาหลีใต้ ครอบครัวเศรษฐีในลอสแองเจลิส ถูกผีดักจู่โจมทารกแรกเกิด จึงว่าจ้างหมอผี ฮวาริม และบงกิล ที่เชื่อมโยงกับซินแสฮวงจุ้ย และสัปเหร่อ (ยูแฮจิน) ไปทำพิธีย้ายศพบรรพบุรุษที่สุสานเกาหลีแต่สิ่งที่ปลุดออกมาจากหลุมคือ ปีศาจร้ายโบราณสุดสะพรึง สำหรับวันนี้เราจะมา รีวิวภาพยนต์ ที่เป็นการเล่าเรื่องราวทั้งหมดของ Exhuma เริ่มต้นมาจาก ผีบรรพบุรุษ ที่โกรธเคืองลูกหลานของตัวเองจนคนในตระกูลเกิดอาการป่วยแปลก ๆ ซึ่งหนทางแก้ไขก็คือการขุดสุสานและย้ายหลุมศพไปยังสถานที่ที่ดีกว่านี้ แต่ในระหว่างทางที่ย้ายก็เกิดอุปสรรคจนวิญญาณของบรรพบุรุษหลุดออกมาได้และตามไล่ฆ่าเฉพาะลูกหลานทุกคน ทว่าก่อนที่เรื่องราวจะเลวร้ายไปมากกว่านั้น พวกเขาก็ตัดสินใจเผากระดูกบรรพบุรุษคนนั้นในวันฝนตก ซึ่งมีความเชื่อว่าหากเผาศพในวันแบบนี้จะไม่มีทางไปสู่สุคติแน่นอน และนี่คือพล็อตเรื่องครึ่งแรกของภาพยนตร์เรื่องขุดมันขึ้นมาจาก ที่ค่อย ๆ ปูพื้นฐานให้เราเข้าใจหลักการไสยศาสตร์ ฮวงจุ้ย และความเชื่อมากมายผ่านการปราบผีบรรพบุรุษตัวแรก ที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังไม่เข้าใจนักว่าเพราะอะไรแกถึงโกรธแค้นลูกหลานของตัวเองจนอยากฆ่าให้ตายทั้งโคตรขนาดนั้นจากเนื้อเรื่องเราจะพบว่า ผีบรรพบุรุษ คนนี้คือนายพลใหญ่สมัยที่เกาหลีอยู่ใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น ซึ่งลูกหลานของเขาก็ร่ำรวยจนสามารถย้ายไปอยู่ต่างประเทศได้ แต่ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหนหลุมฝังศพของนายพลคนนี้กลับซอมซ่อและอยู่ในทำเลที่แย่มากจนน่าตกใจ ไม่เพียงเท่านั้นฝั่งลูกหลานที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่มีใครอยากจะพูดถึง ไม่อยากแม้แต่จะเปิดโลงให้คนมาอาบน้ำศพก่อนย้ายไปฝังที่ใหม่กิซึเนะ คือฉายาของพระญี่ปุ่นที่ทำหน้าที่หาฮวงจุ้ยหลุมศพให้กับเหล่านายพลใหญ่ของเกาหลีที่ยอมสวามิภักดิ์เข้ากับฝั่งญี่ปุ่น หากใครคุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นก็น่าจะรู้สึกได้ว่าชื่อนี้พ้องกับคำว่า คิตสึเนะ ซึ่งเป็นชื่อเรียกของ ปีศาจจิ้งจอก ในตำนานของญี่ปุ่น ที่ทั้งเจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ เมื่อประกอบเข้ากับพื้นที่ของสุสานที่มีจิ้งจอกปรากฏตัวออกมาบอกใบ้อยู่เนือง ๆ ก็เชื่อได้ว่าพระกิซึเนะคนนี้จะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับปีศาจจิ้งจอก แต่เป็นที่แน่นอน ผลลัพธ์ทั้งหมดนี้เราก็สามารถเห็นได้ชัด

 The Divine Fury ปี 2019
หนัง

รีวิวภาพยนตร์ The Divine Fury ปี 2019

The Divine Fury เป็น ภาพยนตร์แอ็กชันแฟนตาซี สัญชาติเกาหลีใต้ที่ผสมผสานเรื่องราวการต่อสู้กับปีศาจเข้ากับประเด็นทางศาสนาได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่ก็มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ผู้ชมติดตรึงใจได้ พัคซอจุน รับบทเป็น ยงฮู นักสู้ MMA ผู้สูญเสียศรัทธาในพระเจ้าไปตั้งแต่เด็กหลังจากประสบเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต เขาเป็นตัวละครที่มีบาดแผลในใจและแบกรับความเจ็บปวดเอาไว้ ซึ่งพัคซอจุนก็แสดงบทนี้ออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความมืดมิดในจิตใจของยงฮู การเปลี่ยนแปลงของเขาจากนักสู้ที่ไม่เชื่ออะไรเลย สู่ผู้ที่ต้องต่อสู้กับพลังชั่วร้ายเพื่อปกป้องผู้อื่น ถือเป็นแกนหลักของเรื่องที่ดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและน่าติดตาม เมื่อยงฮูเริ่มมีบาดแผลประหลาดบนฝ่ามือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการถูกเลือกให้เป็นผู้ขับไล่ปีศาจ เขาได้พบกับ บาทหลวงอัน (รับบทโดย อันซองกิ) ผู้เป็นนักบวชที่อุทิศตนเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้าย บทบาทของบาทหลวงอันเป็นเหมือนแสงสว่างที่ค่อยๆ ชี้ทางให้ยงฮูค้นพบความหมายและพลังที่ซ่อนอยู่ภายใน อันซองกิถ่ายทอดบทบาทบาทหลวงผู้เปี่ยมด้วยศรัทธาและความเมตตาได้อย่างอบอุ่นและมีพลัง เคมีระหว่างพัคซอจุนและอันซองกิเป็นจุดแข็งที่สำคัญของภาพยนตร์ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์-อาจารย์คู่นี้ดูมีมิติและน่าประทับใจ ฉากแอ็กชันใน The Divine Fury ถือว่าทำได้ดี มีความดุดันและน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะฉากการต่อสู้กับปีศาจที่ทำออกมาได้น่ากลัวและสมจริง เอฟเฟกต์พิเศษที่ใช้ในการสร้างภาพปีศาจและพลังเหนือธรรมชาติก็ดูน่าเชื่อถือและไม่ขัดตา การกำกับภาพและแสงสีก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่มืดหม่นและลึกลับได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและพลังเหนือธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีข้อสังเกตบางประการ ในบางช่วงจังหวะการเล่าเรื่องอาจจะดูเนิบนาบไปบ้าง และบางทีก็รู้สึกว่ายังไปไม่สุดในประเด็นที่หยิบยกมา แต่โดยรวมแล้ว The Divine Fury ก็เป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ ด้วยการผสมผสานแอ็กชันสุดมันส์เข้ากับเรื่องราวการค้นหาศรัทธาและการไถ่บาปได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวแอ็กชันเหนือธรรมชาติที่มีกลิ่นอายของความแฟนตาซีและเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจ หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่มีทั้งความตื่นเต้น ลุ้นระทึก และยังได้เห็นการแสดงที่ทรงพลังของพัคซอจุนและอันซองกิ The Divine Fury ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

รีวิวหนัง ซองแดงแต่งผี ฉบับไทยรีเมค
หนัง

รีวิวหนัง ซองแดงแต่งผี ฉบับไทยรีเมค

เป็นหนังไทยที่ถูกเฝ้าจับตามองสุด ๆ ในช่วงต้นปีนี้ สำหรับการหยิบเอาหนังไต้หวันที่ฮิตระเบิดระเบ้อทั่วเอเชียมาปัดฝุ่นรีเมคสร้างใหม่เป็นฉบับหนังไทย กลายออกมาเป็น ซองแดงแต่งผี การันตีด้วยงานสร้างจากค่ายหนังอารมณ์ดีอันดับต้น ๆ ของไทย อย่าง จีดีเอช ที่มาพร้อมกับแพ็คเกจเซอร์วิสสุดใจจึ้งของเหล่าสาววายกับการดึงคู่จิ้นคู่ในตำนานมาประกบคู่บนจอใหญ่เป็นครั้งแรก   เมื่อ เม่น โจรกระจอก ที่ผันตัวมาเป็นสายตำรวจ เผลอไปหยิบซองแดงปริศนา และพบว่ามันคือพิธีกรรมความเชื่อเก่าแก่ที่ทำให้เขาต้องแต่งงานกับศพ ไม่เช่นนั้นเขาจะซวยไปตลอดชีวิต แต่ที่ทำให้ชายแท้อย่างเม่นต้องเหวอสุดขีดก็คือ ศพที่เขาต้องแต่งด้วยดันเป็นผู้ชายด้วยกัน! และนั่นทำให้เขาได้เจอกับ ตี่ตี๋ วิญญาณเกย์หนุ่มสุดคิวท์ ที่ยังไม่ยอมไปเกิดเพราะยังมีเรื่องค้างคาใจ เม่นต้องช่วยตามสืบอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตตี่ตี๋ โดยหวังจะทำให้ตี่ตี๋ไปสู่สุคติและออกไปจากชีวิตเขาซะที ยิ่งไปกว่านั้น เบาะแสทั้งหมดที่เม่นพบกลับกลายเป็นว่านี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่มันโยงใยไปสู่แก๊งค้ายาที่เขา และ เจ๊ก๊อย ตำรวจสาวรุ่นพี่ที่เม่นแอบชอบกำลังตามสืบอยู่ด้วย งานนี้ เม่นจึงหวังจะปิดคดีเพื่อที่เขาจะได้ทั้งหน้าที่การงาน ความรัก และช่วยให้ตี่ตี๋ไปเกิดเสียที “หมู-ชยนพ บุญประกอบ” ผู้กำกับหนังคู่บุญของจีดีเอช (จาก Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน) มานั่งเก้าอี้รับหน้าที่ดูแลงานสร้าง พร้อมกับร่วมเป็นหนึ่งในทีมดัดแปลงเขียนบทหนังที่เอาต้นฉบับหนังไต้หวัน Marry My Dead Body มาละเลงใหม่ กลายเป็นหนังไทยที่เต็มไปด้วยอรรถรสหรรษาที่เข้ามือกับรสชาติทางวัฒนธรรมและความหลากหลายทางเพศที่เป็นจุดเด่นของเมืองไทยเป็นอย่างดี เอาจริง ๆ บทหนังต้นฉบับก็ค่อนข้างเหมาะเจาะและเข้าทางกับการนำมาสร้างเป็นหนังไทยได้สบาย ๆ

A Christmas Prince
หนัง

รีวิว A Christmas Prince เทพนิยายคริสต์มาสสุดโรแมนติก

A Christmas Prince คือภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้จาก Netflix ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่เรื่องราวสุดแฟนตาซีในบรรยากาศคริสต์มาสอันแสนอบอุ่นหัวใจ หนังเรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นด้วยเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนหรือหักมุม แต่กลับมอบความรู้สึกสบายใจและเพลิดเพลินไปกับเทพนิยายเจ้าหญิงเจ้าชายในยุคสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แอมเบอร์ มัวร์ นักข่าวสาวจากนิวยอร์กที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน ได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวเกี่ยวกับ เจ้าชายริชาร์ด รัชทายาทผู้โด่งดังแห่งอาณาจักรอัลโดเวีย ที่กำลังจะขึ้นครองราชย์หลังจากที่พ่อของพระองค์สิ้นพระชนม์ ด้วยความฉาวโฉ่และพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจของเจ้าชาย ทำให้แอมเบอร์ต้องแฝงตัวเข้าไปในพระราชวังในฐานะครูสอนพิเศษของเจ้าหญิงเอมิลี่ น้องสาวของเจ้าชายริชาร์ด ในขณะที่แอมเบอร์พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อเขียนข่าวเปิดโปงความจริง เธอกลับได้เห็นมุมที่แตกต่างของเจ้าชายริชาร์ด จากที่เคยคิดว่าพระองค์เป็นเพียงเจ้าชายเพลย์บอยที่ไม่เอาไหน แอมเบอร์กลับพบว่าเจ้าชายริชาร์ดเป็นคนที่มีน้ำใจ จริงใจ และมีความรับผิดชอบต่ออาณาจักรอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ความใกล้ชิดและการได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดความรู้สึกพิเศษขึ้นระหว่างทั้งสอง นำไปสู่ความรักที่เบ่งบานท่ามกลางบรรยากาศคริสต์มาสอันแสนโรแมนติก A Christmas Prince นำเสนอภาพของ คริสต์มาสที่แสนวิเศษ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งฉากหิมะขาวโพลน การตกแต่งปราสาทที่งดงาม เพลงประกอบที่ไพเราะ และกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับได้เข้าไปอยู่ในเทศกาลแห่งความสุขนั้นจริงๆ เคมีของนักแสดงนำ อย่างโรส แมคไอเวอร์ ในบทแอมเบอร์ และเบน แลมบ์ ในบทเจ้าชายริชาร์ด ก็เข้ากันได้ดี ทำให้เรื่องราวความรักของพวกเขาดูน่าเชื่อและชวนฝัน ตัวละครแต่ละตัวมีเสน่ห์และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราว โดยเฉพาะเจ้าหญิงเอมิลี่ ที่เป็นเหมือนกามเทพตัวน้อยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแอมเบอร์กับเจ้าชายริชาร์ด แม้ว่าเนื้อเรื่องจะค่อนข้าง คาดเดาได้ง่าย และเป็นไปตามสูตรสำเร็จของหนังโรแมนติกทั่วไป แต่จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการมอบ ความบันเทิงที่อบอุ่นหัวใจ และความรู้สึก “ฟีลกู้ด” ให้กับผู้ชม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทพนิยายโรแมนติกใสๆ ไม่ซับซ้อน และอยากพักผ่อนไปกับเรื่องราวความรักในช่วงเทศกาล โดยรวมแล้ว A

บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่
หนัง

รีวิว หนัง The Princess Diaries บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่

รีวิวหนัง The Princess Diaries หรือ บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ เป็นภาพยนตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกแพร่ภาพในปี พ.ศ. 2544 และถูกนำเข้ามาฉายในประเทศไทยในปีเดียวกัน ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ชุด The Princess Diaries ของเม็ก คาบอท ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้อ่านวัยรุ่น กล่าวถึงเรื่องราวของเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง ที่วันหนึ่งได้รับรู้ว่าตนเองแท้ที่จริงแล้วเป็นถึงเจ้าหญิงรัชทายาทของประเทศเล็ก ๆ ในยุโรป กับเรื่องราววุ่นวายกับสารพัดบทเรียนที่เธอต้องเรียนรู้เพื่อเป็นเจ้าหญิงที่สมบูรณ์แบบให้ได้ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก่อนกำหนดเข้ารับแต่งแหน่งรัชทายาท เนื้อเรื่อง บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ สำหรับการ รีวิวหนัง เรื่อง บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ เป็นการเล่าเรื่องราวของเด็กสาว มีอา เธอร์โมโพลิส เด็กสาวธรรมดา ๆ วัย 15 ปีที่ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า การใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นไปวัน ๆ โดยไม่มีใครมาวุ่นวายกับเธอ ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อวันเกิดปีที่ 16 ของเธอกำลังจะมาถึงในอีก 2 อาทิตย์ คุณย่าคลาริสที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเจโนเวียซึ่งเธอไม่เคยพบมาก่อนก็ส่งข่าวมาขอให้เธอไปพบ พร้อมอธิบายายถึงสถานะที่แท้จริงของมีอา ว่าเธอไม่ใช่เด็กธรรมดา ๆ อย่างที่เธอคิดมาตลอดว่าเธอเป็น

หนัง

รีวิวหนัง Elio เอลิโอ ไม่ได้คาดหวัง แต่ก็เพลินกับสูตรจอยอวกาศแห่งความพิกซาร์ได้อยู่

      กลายเป็นธรรมเนียมประจำฤดูร้อนทุกปีไปแล้ว กับการอ้าแขนต้อนรับผลงานแอนิเมชันเรื่องใหม่จากพิกซาร์ ที่มักจะวางคิวฉายทุก ๆ ซัมเมอร์ในทุกปี สำหรับปีนี้เป็นคิวของ Elio เอลิโอ ผลงานออริจินัลเรื่องล่าสุดที่มาพร้อมกับการผลักดันทีมนักแสดงรุ่นใหม่ และไอเดียคอนเทนท์การผจญภัยที่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่แต่ทรงพลังไม่เบาเอลิโอ หนุ่มน้อยผู้เต็มไปด้วยจิตนาการ ถูกพาตัวไปยังคอมมูเวิร์ส ซึ่งเป็นองค์กรข้ามดวงดาวที่มีตัวแทนจากทั่วทั้งกาแล็คซีอันไกลโพ้น แต่เมื่อองค์กรนี้เข้าใจผิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้เป็นตัวแทนของโลก เอลิโอ ที่ไม่ได้เตรียมตัวต้องเจอกับความกดดันเช่นนี้ จึงต้องสานสัมพันธ์กับเหล่ามนุษย์ต่างดาวสุดแปลกประหลาด รวมไปถึงเอาตัวรอดจากบททดสอบสุดโหดหิน เพื่อที่จะค้นพบตัวตนของเขาคือใครกันแน่พิกซาร์ได้ทำการผลักดันแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่สู่การเป็นนักสร้างหนังอย่างเต็มตัว นำทีมโดย เมเดอลีน ชาราเฟียน, โดมี ชี และ เอเดรียน โมลินา ที่ล้วนแต่เป็นนักสร้างที่คร่ำหวอดอยู่ในรังสรรค์ผลงานการ์ตูนพิกซาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แม้ว่าจะดูเป็นหนังที่ดึงตัวนักสร้างมากันเยอะ จนดูค่อนข้างน่าเป็นห่วง แต่บอกเลยว่านี่อาจจะเป็นการรวมตัวของการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ที่หนักแน่นขึ้นด้วย       บอกตามตรงงว่า Elio น่าจะเป็นหนังพิกซาร์ที่หน้าหนังทำให้รู้สึกค่อนข้างเฉย ๆ ไปสักหน่อย อาจจะไม่ได้มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดขนาดนั้น แต่นั้นอาจจะเป็นการการตัดสินใจจากรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เพราะเมื่อลองสัมผัสเนื้อแท้ภายในจริง ๆ ก็พบว่าหนังยังมีลูกเล่นและเสน่ห์ที่คุ้นเคยของพิกซาร์อย่างอบอวล แม้ว่าจะไม่ได้ฟุ้งกระจายอู้ฟู่แบบหนังพิกซาร์ในอดีตที่คุ้นเคยและคุ้นชินที่ผ่านมาประเด็นเกี่ยวกับอวกาศและกาแลคซี่ในหนังอาจจะดูเนิร์ดไปหน่อย แต่หนังก็ใส่ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนอกโลกเข้ามาได้อย่างหนักแน่น เต็มไปด้วยข้อมูลที่มีชั้นเชิงที่ดี เมื่อมาผูกเข้ากับเรื่องราวประเด็นรองก็สร้างปฏิกิริยาเชิงความกลมกล่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ในพาร์ทบทหนังและเส้นเรื่องของหนังเรื่องนี้ยังค่อนข้างแข็งแรงด้วยดีทางด้านงานสร้างก็ต้องยอมรับว่าพิกซาร์ยังรักษามาตรฐานตัวเองเอาไว้ดี คนดูจะยังตื่นตาตื่นใจไปกับเทคนิคแอนิเมชันที่น่าพิสมัยของพวกเขาได้อย่างชวนว้าว แม้ว่ามันจะยังไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่มากนัก แต่อย่างน้อย ๆ งานสร้างรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครในชั้นอวกาศนอกโลกก็รังสรรค์ออกมาได้โดดเด่น เพียงแต่ว่าการแต่งเติมและสร้างมิติให้กับแต่ละคาแรกเตอร์นั้น

หนังแนวดราม่า
หนัง

รีวิวหนัง The Trial of the Chicago 7 

แนวดราม่ากฎหมายที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์อเมริกา The Trial of the Chicago 7 โดยเนื้อหาว่าด้วยการพิจารณาคดีของกลุ่มผู้ประท้วงสงครามเวียดนาม 7 คน ซึ่งถูกตั้งข้อหาสมคบคิดและยุยงให้เกิดการจลาจลระหว่างการชุมนุมใหญ่ในปี 1968 ที่เมืองชิคาโก ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับและเขียนบทโดย Aaron Sorkin ผู้มีชื่อเสียงในด้านการเขียนบทที่เฉียบคม เต็มไปด้วยบทสนทนาที่ลื่นไหลและทรงพลัง ตัวหนังพาเราย้อนกลับไปในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังสั่นคลอนด้วยความขัดแย้งทางการเมืองและสังคม จากสงครามเวียดนาม การลุกฮือของคนรุ่นใหม่ และความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล กลุ่ม Chicago 7 ซึ่งประกอบด้วยนักกิจกรรมที่มีอุดมการณ์ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Abbie Hoffman (แสดงโดย Sacha Baron Cohen) ผู้นำสายฮิปปี้จอมกวน, Tom Hayden (Eddie Redmayne) จากกลุ่มนักศึกษา SDS, David Dellinger, Jerry Rubin และคนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดถูกนำตัวขึ้นศาลในคดีที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล หนึ่งในจุดเด่นของภาพยนตร์คือการนำเสนอความแตกต่างของตัวละครแต่ละคน ซึ่งมีทั้งความขัดแย้งและการร่วมมืออยู่ตลอดการดำเนินคดี แม้จะมีเป้าหมายร่วมคือ “เรียกร้องความยุติธรรม” แต่แนวทาง ความคิด และบุคลิกของแต่ละคนกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สิ่งนี้ทำให้การดำเนินเรื่องมีมิติและความลึกมากขึ้น

หนัง

รีวิวหนัง Another Simple Favor เพื่อนหาย อย่าหา 2 อัปเลเวลความร่า_ร้อนสะท้านคาปรี

     การกลับมาอย่างคาดไม่ถึงของหนังฆาตกรรมตลกร้ายสุดแซ่บจากปี 2018 ที่กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ชวนตราตรึงใจแห่งปีนั้นด้วยความบิดไปบิดมาของพล็อตเรื่องที่เต็มไปด้วยสไตล์ พวกนางกลับมาในมหรสพครั้งใหม่ Another Simple Favor เพื่อนหาย อย่าหา 2 ปริศนาสุดร้อนเร้าครั้งใหม่ได้อุบัติขึ้นบนเกาะสวรรค์ที่เป็นการเพิ่มเลเวลความแซ่บไปอีกขั้น  สเตฟานี สมาเทอร์ส กับ เอมิลี นีลสัน หวนกลับมาอยู่ในวังวนชีวิตของกันและกันอีกครั้งหลังจากเหตุโศกนาฏกรรมแสนร่านเมื่อครั้งก่อน ครั้งนี้พวกเขาเธอเดินทางมาพบกันที่เกาะคาปรี ดินแดนสวรรค์ของอิตาลี เพื่อร่วมงานแต่งสุดอลังการของเอมิลี ท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามและแฟชั่นสุดเลิศ แต่เบื้องหลังความหรูหรา กลับซ่อนเร้นอันตราย ความลับดำมืด และเงื่อนงำฆาตกรรมที่อาจคุกคามทุกคนบนเกาะนี้พอล ฟีก ยังกลับมาสานต่อความบันเทิงครั้งนี้อีกหน นั่นทำให้อรรถรสของหนังภาคนี้จะค่อนข้างสนุกแบบแอบเคลือบยาพิษ เพราะผู้สร้างคนเดิมรู้ดีว่าเขาต้องละเลงรังสรรค์คอนเทนท์ออกมาแบบไหน ด้วยการปลดแอกเและอัปเกรดความร้อนเร่าเพิ่มเติมขึ้นจากครั้งก่อน ที่น่าจะเป็นการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ลำเลียงผ่านเรื่องราวปมฆาตกรรมครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยปริศนาที่น่าค้นหาอีกเช่นเคย         Another Simple Favor อาจจะไม่ได้ดัดแปลงจากนิยายโดยตรง แต่ก็ยังคงได้แรงบันดาลมาจากงานเขียนของ ดาร์ซีย์ เบลล์ มาอย่างเคารพต้นฉบับ พร้อมกับยังได้ เจสสิก้า ชาร์เซอร์ มือเขียนบทจากหนังภาคแรกมาช่วยละเลงปั้นบทหนังออกมาอีกครั้ง ร่วมด้วย เลทา แคโลกริดิส นักเขียนบทชื่อดังจาก Alita: Battle Angel กับ Shutter

Scroll to Top