หนัง

หนัง

อำนาจบาดเลือดแค้น
หนัง

อำนาจบาดเลือดแค้น (The Power of the Dog) – ภาพยนตร์สุดเข้มข้น

บทความนี้จะมารีวิวภาพยนตร์จาก Netflix เรื่อง The Power of the Dog หนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดในปี 2022 และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง หนังเรื่องนี้สร้างความประทับใจด้วยการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน ผสานกับการแสดงอันยอดเยี่ยม และบทที่เต็มไปด้วยนัยลึก เรื่องย่อ เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1925 ที่รัฐมอนทานา ของสหรัฐอเมริกา มีไร่ของสองพี่น้อง Burbank ฟิล (Phill Burbank – Benedict Cumberbatch) พี่ชายสุดห่าม ขวางโลก อีโก้สูง และชอบข่มเหงคนอื่น จอร์จ (George Burbank – Jesse Plemons) น้องชายสุภาพ ใจดี เรียบร้อย และดูแลความสะอาด เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อจอร์จพบรักกับ โรส (Rose – Kirsten Dunst) แม่ม่ายลูกติด พร้อมลูกชาย ปีเตอร์ (Peter – Kodi Smit-McPhee) เขาตัดสินใจแต่งงานและชวนทั้งสองมาอยู่ด้วยกันที่ไร่ของเขา […]

หนัง

Mantis นักฆ่าสายพันธุ์ตั๊กแตน

ภาพยนตร์แอ็กชัน-ระทึกขวัญของเกาหลีใต้ ที่เป็น สปินออฟ จากจักรวาลเดียวกับ Kill Boksoon อย่าง Mantis เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ลี ฮันอุล หรือที่รู้จักในนามรหัสแมนทิส ซึ่งเป็นนักฆ่าระดับยอดฝีมือ ได้ตัดสินใจพักงานชั่วคราวไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เมื่อเขากลับมายังวงการนักฆ่าตามเดิม กลับพบว่าโลกแห่งการจ้างวานฆ่า (contract killer industry) ได้ล่มสลาย กลุ่มองค์กรและโครงสร้างอำนาจถูกเขย่าอย่างรุนแรง — MK Enterprise ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของระบบนักฆ่า ถูกทิ้งให้ขาดผู้นำหลังจากการตายของประธานบริษัท ฮันอุลถูกดึงกลับเข้าสู่สมรภูมิแห่งอำนาจและการต่อสู้ภายในองค์กร เขาเผชิญหน้ากับ ชิน แจ-อี  อดีตเพื่อนร่วมฝึกซ้อมและคู่แข่งคนสำคัญ เธอเคยถูกขับไล่ออกจาก MK Enterprise เนื่องจากความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา และมีความรู้สึกคาราคาซังเรื่องความไม่เป็นธรรมในอดีต ตัวอย่างภาพยนตร์ Mantis | Netflix นอกจากนี้ ยังมี ดกโก อดีตนักฆ่าระดับตำนาน ผู้เคยเป็นครูฝึกและผู้ก่อตั้งองค์กร MK Enterprise เขาได้ลุกขึ้นมารับบทบาทเป็นผู้นำองค์กรอีกครั้งหลังการล่มสลายของโครงสร้างเดิม และพยายามโน้มน้าวให้ฮันอุลกลับมาร่วมงานกับเขา เพื่อฟื้นฟูอำนาจเก่า เมื่อทั้งสามคน — ฮันอุล, แจ-อี, ดกโก

Nadaaniyan
หนัง

Nadaaniyan (2025) – ความผิดหวังที่ยากจะลืม

สำหรับหนังเรื่อง Nadaaniyan เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ของ Netflix ที่สร้างโดย Dharmatic Entertainment ซึ่งสัญญาว่าจะเป็นเรื่องราวรักวัยรุ่นที่สดใสและมีชั้นเชิง แต่สิ่งที่ได้กลับกลายเป็นหนังที่ ตื้นเขินและขาดความน่าเชื่อถือ โดยเรื่องราวหลักอิงกับความแตกต่างทางสังคมและบุคลิกของตัวละคร ทำให้กลายเป็นโครงสร้างที่บังคับและไม่น่าติดตาม พล็อตเรื่องและธีมหลัก หนังเล่าเรื่องราวความรักสั้นๆ ของ นักเรียนโรงเรียนเอกชน ในเดลี ซึ่งมีการปะทะทางสังคมและพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน ตัวละครหลักคือ: Pia Jaisingh (Khushi Kapoor) ลูกสาวคนเดียวของครอบครัวร่ำรวย แต่ต้องเผชิญกับความคาดหวังทางเพศและความเข้มงวดของครอบครัว Arjun Mehta (Ibrahim Ali Khan) ลูกชายหมอจาก Noida ที่มีความทะเยอทะยานอยากเปิดสตาร์ทอัพด้านกฎหมาย พล็อตหลักคือการสร้างความสัมพันธ์ปลอมๆ ระหว่าง Pia และ Arjun เพื่อแก้ปัญหาครอบครัวและสังคมรอบตัว แต่เรื่องราวกลับ คาดเดาได้และเต็มไปด้วยความบังคับ ตัวละครและการแสดง Ibrahim Ali Khan และ Khushi Kapoor ต้องแบกรับความคาดหวังสูงของเรื่องราว แต่การแสดงของทั้งสองค่อนข้าง ขาดชีวิตชีวาและความเป็นธรรมชาติ Arjun เป็นตัวละครหลายด้าน ทั้งนักว่ายน้ำแชมป์ กัปตันทีมโต้วาที

หนัง

Only We Know เมื่อหัวใจรู้คำตอบ

ภาพยนตร์โรแมนติกจากฟิลิปปินส์ที่อบอวลไปด้วยอารมณ์อบอุ่นและความเศร้าอย่างมีเสน่ห์อย่าง Only We Know ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ ลีอา และ นิโก ชายหญิงที่ต่างมีบาดแผลในใจ และได้พบกันโดยบังเอิญในช่วงเวลาที่ชีวิตของทั้งคู่กำลังสับสน ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยลีอา หญิงสาวผู้สูญเสียความเชื่อมั่นในความรัก หลังจากความสัมพันธ์เก่าทิ้งรอยแผลลึกไว้ในหัวใจ เธอจึงเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด เพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่และตั้งคำถามกับตัวเองว่าความรักแท้มีอยู่จริงหรือไม่ ระหว่างการเดินทาง ลีอาได้พบกับนิโก ชายหนุ่มช่างภาพอิสระที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติ เขามีมุมมองต่อชีวิตที่แตกต่างจากคนทั่วไป และเชื่อว่า “ความสุขที่แท้จริงคือการได้อยู่กับคนที่เข้าใจเรา” การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเข้าใจผิด แต่เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ค่อย ๆ พัฒนาเป็นความผูกพันที่เกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยคำพูด ตัวอย่างภาพยนตร์ Only We Know Trailer เรื่องราวดำเนินไปอย่างละเมียดละไม เมื่อทั้งสองเริ่มเปิดใจแบ่งปันความเจ็บปวดและความฝันที่ซ่อนอยู่ในใจ นิโกช่วยให้ลีอาเรียนรู้ที่จะยอมรับอดีต ขณะที่ลีอาทำให้นิโกกล้าที่จะเผชิญกับความจริงที่เขาหลีกหนีมานาน ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้โรแมนติกแบบฉาบฉวย แต่เต็มไปด้วยความจริงใจและการเยียวยาซึ่งกันและกันถ่ายทอดอารมณ์อย่างสมดุลระหว่างความสุข ความเศร้า และความหวัง โดยมีฉากหลังของธรรมชาติในฟิลิปปินส์ที่งดงามเป็นตัวแทนของการฟื้นฟูหัวใจ การใช้แสง สี และดนตรีประกอบที่นุ่มนวลช่วยเสริมให้เรื่องราวดูมีชีวิตและเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงเพียงความรักระหว่างคนสองคน แต่ยังสื่อถึงการให้อภัยตัวเอง การก้าวข้ามอดีต และการเรียนรู้ว่าบางครั้ง “ความรักที่แท้จริง” คือสิ่งที่เราเท่านั้นที่เข้าใจได้อย่างลึกซึ้งที่สุด ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ gamemanganews.com จุดเด่นของภาพยนตร์ Only We

No Strings Attached จะกิ๊กหรือกั๊ก ก็รักซะแล้ว
หนัง

No Strings Attached จะกิ๊กหรือกั๊ก ก็รักซะแล้ว

No Strings Attached จะกิ๊กหรือกั๊ก ก็รักซะแล้ว (2011)  ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้กำกับโดยอีวาน ไรต์แมน และนำแสดงโดย นาตาลี พอร์ตแมน รับบทเป็น เอ็มมา หมอหญิงที่มีท่าทีเยือกเย็นกับเรื่องความรัก กับ แอชตัน คุชเชอร์ ในบท อดัม หนุ่มอบอุ่นผู้มองโลกในแง่ดี หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนที่บังเอิญกลับมาเจอกันหลังจากรู้จักกันมานาน แล้วตัดสินใจสร้างความสัมพันธ์แบบ “เพื่อนที่มีเซ็กส์กันโดยไม่ผูกพัน” หรือที่หนังเรียกว่า Friends with Benefits ซึ่งตั้งใจจะไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง แต่แน่นอนว่าหัวใจมนุษย์ไม่ง่ายอย่างที่คิด เอ็มมาเป็นหญิงที่กลัวการผูกมัด เธอมองว่าความรักนำมาซึ่งความยุ่งยากและความเจ็บปวด ขณะที่ อดัม กลับเป็นคนที่เชื่อในความโรแมนติกและอยากมีความสัมพันธ์จริงจัง เมื่อทั้งสองเริ่มมีความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่มีข้อผูกพัน ความรู้สึกก็เริ่มค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาโดยไม่รู้ตัว หนังใช้จังหวะการเล่าเรื่องที่เบาสมองแต่แฝงอารมณ์อบอุ่น แสดงให้เห็นว่าการปฏิเสธความรักอาจเป็นเพียงกลไกป้องกันตัวจากอดีตที่เจ็บปวด สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นคือการแสดงของสองนักแสดงนำ นาตาลี พอร์ตแมน ถ่ายทอดบทหญิงเข้มแข็งแต่เปราะบางได้อย่างมีเสน่ห์ ส่วนแอชตัน คุชเชอร์ก็ทำให้ตัวละครอดัมดูจริงใจและน่ารัก จนผู้ชมเอาใจช่วยให้ทั้งคู่ลงเอยกันในที่สุด เคมีระหว่างทั้งสองเข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้หลายฉากดูทั้งตลกและอบอุ่นไปพร้อมกัน แม้โครงเรื่องจะค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จของหนังรักอเมริกันยุคนั้น แต่หนังก็ยังคงมีเสน่ห์จากบทสนทนาเฉียบคม และการตีความความสัมพันธ์ยุคใหม่ได้อย่างร่วมสมัย หนังตั้งคำถามกับผู้ชมว่า “มนุษย์สามารถมีความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่เกี่ยวพันทางใจได้จริงหรือ?” ซึ่งคำตอบที่หนังค่อย ๆ เฉลยออกมาคือ ความรักไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมได้ ต่อให้ตั้งขอบเขตแค่ไหน เมื่อมีความผูกพันเกิดขึ้น ใจก็ยากจะไม่หวั่นไหว โดยรวมเป็นหนังที่ดูง่าย สนุก และอบอุ่นหัวใจ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวความรัก ที่มีทั้งอารมณ์ขันและความจริงจังเล็กน้อย แม้จะไม่ใช่หนังรักที่ลึกซึ้งที่สุด แต่ก็สะท้อนความเป็นจริงของความสัมพันธ์ยุคปัจจุบันได้อย่างตรงไปตรงมา ทั้งโรแมนติก ปนขมขื่น และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ ไม่มีสัญญาผูกพัน แต่กลับหนีไม่พ้นคำว่า รัก  ในที่สุด จุดเด่นของเรื่องราว เคมีของนักแสดงนำลงตัวมากความเข้ากันของ นาตาลี พอร์ตแมน และ แอชตัน คุชเชอร์ คือหัวใจสำคัญของเรื่อง ทั้งคู่แสดงได้เป็นธรรมชาติจนคนดูเชื่อในความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ พัฒนา จากเพื่อนที่ไม่ผูกพัน กลายเป็น คนรักโดยไม่รู้ตัว มุมมองความรักยุคใหม่หนังตีความความสัมพันธ์สมัยใหม่ได้อย่างร่วมสมัย โดยตั้งคำถามว่า คนเราสามารถมีความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่ผูกพันทางใจได้จริงหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนในยุคปัจจุบันอาจเคยเผชิญ ผสมผสานอารมณ์ได้ดีแม้จะเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ แต่ หนังก็มีช่วงอารมณ์ซึ้งและอบอุ่น ที่สะท้อนความกลัว ความเหงา และความต้องการของคนในความสัมพันธ์ได้อย่างมีชั้นเชิง บทพูดเฉียบคมและมีเสน่ห์บทสนทนาในเรื่องเต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความจริงใจ ทำให้หนังดูไม่ฝืนหรือดราม่าเกินไป และช่วยให้ตัวละครดูมีชีวิตชีวา สะท้อนความเปราะบางของมนุษย์ได้ดีเอ็มมาเป็นตัวแทนของคนที่กลัวจะเจ็บจากความรัก ขณะที่อดัมคือคนที่ยังเชื่อในความรัก หนังถ่ายทอดความแตกต่างนี้ได้อย่างงดงามและเป็นจริง บทสรุปของเรื่องราว No Strings Attached เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อ “เอ็มมา” เริ่มรู้ตัวว่าความสัมพันธ์แบบไม่ผูกพันกับ “อดัม” กำลังกลายเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจควบคุมได้ เธอเริ่มรู้สึกหึง รู้สึกคิดถึง และรู้สึกกลัวจะเสียเขาไป ขณะที่อดัมในทางกลับกัน เขายอมรับกับตัวเองตั้งแต่ต้นว่าเขาตกหลุมรักเอ็มมาจริง ๆ และไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่เป็นเพียงทางกายอีกต่อไป เมื่อความเข้าใจผิดและอารมณ์ทำให้ทั้งสองแยกจากกัน เอ็มมาจึงได้เรียนรู้ว่าการหนีความรักไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขอย่างที่คิด เธอพบว่าความสัมพันธ์ที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงการสูญเสียอิสรภาพ แต่คือการได้อยู่กับคนที่เข้าใจและเติมเต็มกันอย่างแท้จริง ในที่สุดเอ็มมาตัดสินใจเปิดใจและกลับมาหาอดัม พร้อมยอมรับว่าความรู้สึกของเธอนั้นคือ ความรัก หนังปิดฉากอย่างอบอุ่น เมื่อทั้งคู่ยอมวางเงื่อนไขที่เคยตั้งไว้ และเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบ คนรัก อย่างเต็มตัว ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากการปฏิเสธความรัก กลับจบลงด้วยการยอมรับว่าความรักคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายมากที่สุดโดยสรุป No Strings Attached จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง เต็มไปด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้ม หนังตอกย้ำแนวคิดสำคัญว่า แม้เราจะพยายามหนีความรู้สึกหรือหลีกเลี่ยงการผูกพันแค่ไหน สุดท้ายแล้ว “หัวใจมนุษย์ก็ไม่อาจโกหกตัวเองได้” เพราะเมื่อความรักเกิดขึ้น มันย่อมงดงามและควรค่าแก่การยอมรับเสมอ ช่องทางรับชมหนัง : No Strings Attached แนะนำหนังอื่นที่น่าสนใจ : Doctor Prisoner

Bogotá: City of the Lost
หนัง

Bogotá: City of the Lost (2024) – ภาพยนตร์แนวดราม่าอาชญากรรม

สำหรับเรื่อง Bogotá: City of the Lost เป็นภาพยนตร์ แนวดราม่าอาชญากรรม ที่ออกฉายในปี 2024 ซึ่งพาผู้ชมดำดิ่งสู่เมืองหลวงของโคลอมเบียในมุมที่มืดมนและซับซ้อนที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรม แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสังคม ความยากจน และความไม่ยุติธรรมที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงามของเมืองใหญ่ โครงเรื่องและธีม ภาพยนตร์ เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละครเอกอย่าง เอเลียส (Elias) ชายหนุ่มที่ถูกบังคับให้เข้าสู่โลกใต้ดินของเมืองหลวง หลังสูญเสียครอบครัวจากเหตุการณ์ลึกลับ เขาถูกดึงเข้าสู่วงการอาชญากรรมอย่างไม่ตั้งใจ เอเลียสต้องเผชิญกับทั้งความโลภ ความโหดร้าย และความไม่ไว้วางใจของคนรอบข้าง การเดินทางของเขากลายเป็นการค้นหาความยุติธรรมท่ามกลางความโหดร้ายของชีวิตในเมืองใหญ่ หนึ่งในจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การสร้างโลกของ Bogotá ทีมงานถ่ายทำใช้ภาพมุมกว้างของเมือง ผสมกับฉากมืดและแสงนีออน สร้างบรรยากาศที่ทั้งงดงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน กล้องเคลื่อนไหวอย่างไหลลื่น ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเดินตามตัวละครในซอยแคบ ๆ ของเมือง การใช้แสงและเงาอย่างมีชั้นเชิงยังช่วยเน้นความขัดแย้งระหว่างชีวิตในเมืองใหญ่กับโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย การแสดงและตัวละคร การแสดงของ ซงจุงกิ ได้รับการยกย่องอย่างมาก โดยเฉพาะในบทบาทของกุกฮีที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากและการตัดสินใจที่ยากลำบากในชีวิต อย่างไรก็ตาม ตัวละครอื่น ๆ เช่น พัคจังซู และ ซูยอง (รับบทโดย อีฮีจุน) ดูเหมือนจะขาดความลึกซึ้งและการพัฒนา ทำให้ผู้ชมอาจรู้สึกขาดความเชื่อมโยงกับตัวละครเหล่านี้ การกำกับและการผลิต

หนัง

Perfect Days วันเหงาๆ ที่สมบูรณ์แบบ

ภาพยนตร์ญี่ปุ่นแนวดราม่าชีวิตที่กำกับโดย วิม เวนเดอร์ส ผู้กำกับระดับตำนานชาวเยอรมัน และได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2023 อย่าง Perfect Days โดยเรื่องนี้นำเสนอความงดงามของชีวิตประจำวันผ่านมุมมองเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งของชายธรรมดาคนหนึ่งเรื่องราวติดตามชีวิตของ ฮิราโยะมะ (รับบทโดย โคจิ ยาคุโช) ชายวัยกลางคนผู้ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะในกรุงโตเกียว เขาดำเนินชีวิตอย่างเป็นระเบียบ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการตื่นแต่เช้า ขับรถตู้คันเล็กไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทำความสะอาดห้องน้ำให้สะอาดสะอ้าน ก่อนกลับบ้านในตอนเย็นเพื่ออ่านหนังสือและฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ตสุดโปรด ทุกสิ่งในชีวิตของเขาดูเรียบง่ายราวกับไม่มีอะไรพิเศษ แต่ภายใต้ความสงบนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและความหมายของ “ความสุขเล็ก ๆ” ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม ตัวอย่างภาพยนตร์ Perfect Days Trailer ชีวิตของฮิราโยะมะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งเพื่อนร่วมงานที่ร่าเริง เด็กสาวที่หนีออกจากบ้าน รวมถึงหญิงสาวที่ทำให้เขาระลึกถึงอดีตที่เคยเจ็บปวด ทุกการพบเจอเหล่านั้นค่อย ๆ เปิดเผยอีกมุมหนึ่งของตัวตนเขา — ชายที่แม้จะใช้ชีวิตเงียบงัน แต่กลับมีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเข้าใจและเมตตาหนังเรื่องนี้ถ่ายทอดความงดงามของชีวิตผ่านรายละเอียดเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดยามเช้า ใบไม้ร่วงในสวน หรือเสียงเพลงเก่าที่คลอเบา ๆ ในรถ ฮิราโยะมะ กลายเป็นตัวแทนของคนที่ใช้ชีวิต “อย่างมีสติ” อยู่กับปัจจุบัน โดยไม่ยึดติดกับอดีตหรือความฝันเกินจริง หนังจึงเปรียบเสมือนการเชื้อเชิญให้ผู้ชม “หยุด” เพื่อมองเห็นความงามในสิ่งธรรมดาที่รายล้อมอยู่รอบตัว ในตอนท้าย

Nonnas รักนะย่ายายจ๋า
หนัง

Nonnas รักนะย่ายายจ๋า

ภาพยนตร์เรื่อง Nonnas รักนะย่ายายจ๋า เป็นหนังแนวตลก-ดราม่าสร้างจากเรื่องจริงที่น่ารักและอบอุ่นหัวใจ เป็นเรื่องราวที่เฉลิมฉลองให้กับความรักในครอบครัว อาหาร และคุณค่าของผู้สูงอายุในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทุกวัน เรามักหลงลืมสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไปโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ “ความรักในครอบครัว” และ “ช่วงเวลาที่เรียบง่ายแต่ล้ำค่า” ร่วมกับคนที่เลี้ยงดูเรามาอย่างเงียบ ๆ ด้วยหัวใจ เนื้อเรื่องอย่างเอียดรักนะย่ายายจ๋า แรงบันดาลใจจากความสูญเสียเรื่องราวเริ่มต้นที่ โจ สการาเวลลา วินซ์ วอห์น ชายหนุ่มชาวอิตาลี-อเมริกัน ที่กำลังเผชิญกับความเศร้าครั้งใหญ่จากการ สูญเสียแม่และยาย ซึ่งเป็นคนที่เขารักและผูกพันมากที่สุด ความทรงจำเกี่ยวกับผู้เป็นที่รัก โดยเฉพาะ “รสมือ” ในการทำอาหารอิตาลีแบบดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น ยังคงฝังใจเขาอยู่เสมอโจเชื่อว่า “อาหารคือความรัก” และตราบใดที่เขายังคงสืบสานการทำอาหารเหล่านั้นอยู่ แม่และยายของเขาก็จะยังคงอยู่กับเขา เขาจึงเกิดความคิดที่ยิ่งใหญ่และดูบ้าบิ่นขึ้นมา คือการ เปิดร้านอาหารอิตาลี เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ของเขาที่ชื่อว่า “เอโนเทกา มาเรีย” ที่เกาะสแตเทน นิวยอร์กแนวคิดร้านอาหารที่ไม่เหมือนใครโจตัดสินใจที่จะไม่จ้างเชฟมืออาชีพทั่วไป แต่ต้องการเชฟที่มีจิตวิญญาณและรสมือแบบครอบครัวเหมือนที่เขาเคยได้รับ แนวคิดสุดแหวกแนวของเขาคือการจ้าง “นอนน่า” ซึ่งเป็นคำในภาษาอิตาลีที่แปลว่า คุณย่าคุณยาย ในท้องถิ่นมาเป็นผู้ปรุงอาหารหลักของร้าน โดยแต่ละ “นอนน่า” จะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมและสูตรอาหารที่สืบทอดมาจากภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศอิตาลีร้านของโจจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือเชฟทุกวันคือคุณย่าคุณยาย เชฟจะผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเมนูและรสมือจากภูมิภาคที่แตกต่างกันเมนูแบบโฮมเมดแท้ อาหารทุกจานเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นบ้านและความรักการรวมพลของ

ฅนเหล็ก 2029 ภาค 2
หนัง

ฅนเหล็ก 2029 ภาค 2 (Terminator 2: Judgment Day)

Terminator 2: Judgment Day (1991) กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์แนวแอ็กชันและไซไฟ ภาคนี้ไม่เพียงแค่สานต่อเรื่องราวจากภาคแรก แต่ยังยกระดับมาตรฐานของภาพยนตร์แอ็กชันในยุค 90 อย่างมาก เนื้อเรื่อง ฅนเหล็ก 2029 ภาค 2 เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2029 เมื่อโลกถูกคุกคามด้วยสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรที่ควบคุมโดย Skynet เพื่อป้องกันไม่ให้อนาคตของมนุษยชาติถูกทำลาย John Connor (Edward Furlong) ผู้นำฝ่ายต่อต้านถูกส่งกลับมายังปี 1995 โดยมี T-800 (Arnold Schwarzenegger) ซึ่งได้รับการตั้งโปรแกรมใหม่ให้ปกป้องเขา ในขณะที่ T-1000 (Robert Patrick) หุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างได้ ถูกส่งกลับมาเพื่อฆ่า John การต่อสู้ระหว่างทั้งสองหุ่นยนต์และการปกป้องของ T-800 สร้างความตึงเครียดและความตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง การแสดงและตัวละคร Arnold Schwarzenegger กลับมารับบท T-800 อีกครั้ง และสามารถถ่ายทอดความเย็นชาและความแข็งแกร่งของหุ่นยนต์ได้อย่างน่าประทับใจ Edward Furlong ในบท John

CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่
หนัง

CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่

สำหรับการ รีวิวหนัง เรื่อง “CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่” เป็นภาพยนตร์แนวตลก ไซไฟ ดราม่า ที่ออกฉายในปี 2008 กำกับ เขียนบท และนำแสดงโดย โจว ซิงฉือ เนื้อหาของภาพยนตร์เป็นการผสมผสานอารมณ์ขันแบบจัดเต็มของโจว ซิงฉือ เข้ากับเรื่องราวที่ซาบซึ้งกินใจเกี่ยวกับครอบครัวและความสำคัญของสิ่งที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน จุดเริ่นต้นของตัวละครหลักและชีวิตที่ยากลำบาก ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของ อาเถี่ย กรรมกรก่อสร้างผู้ยากจน อาเถี่ยเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายสุดที่รักวัย 9 ขวบชื่อ เสี่ยวตี้ ในบ้านที่ทรุดโทรมใกล้จะถูกรื้อถอนในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีนความมุ่งมั่นของพ่อ ถึงแม้จะยากจนข้นแค้น แต่อาเถี่ยก็ทำงานอย่างหนักและเสี่ยงอันตรายในไซต์ก่อสร้าง เพื่อส่งเสียให้เสี่ยวตี้ได้เรียนใน โรงเรียนเอกชน ที่มีชื่อเสียง ด้วยความหวังว่าลูกชายจะไม่ต้องลำบากเหมือนกับตนเองชีวิตในโรงเรียน เสี่ยวตี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในโรงเรียน เนื่องจากเขาใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ และรองเท้าที่พ่อเก็บมาจากกองขยะ ทำให้เขาถูก เพื่อนร่วมชั้นที่รวยกว่ารังแก โดยเฉพาะจากเพื่อนคนหนึ่งชื่อ จอห์นนี่ และถูกอาจารย์บางคนตำหนิอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงได้แต่หวังว่าจะมีของวิเศษมาช่วยให้เขาเก่งและเอาชนะคนอื่นได้ความปรารถนา เสี่ยวตี้ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะได้ของเล่นหุ่นยนต์ยอดนิยมที่เพื่อน ๆ มี นั่นคือ CJ1 แต่ฐานะของครอบครัวทำให้พ่อไม่สามารถซื้อให้ได้การค้นพบสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวของเล่นจากกองขยะ วันหนึ่งขณะที่อาเถี่ยพาเสี่ยวตี้ไปห้างสรรพสินค้า เสี่ยวตี้ร้องขอให้พ่อซื้อจนเกิดการทะเลาะและอาเถี่ยตีเสี่ยวตี้ต่อหน้าสาธารณะชน ทำให้เสี่ยวตี้เสียใจมาก คืนนั้น อาเถี่ยรู้สึกผิดจึงไปยัง

Scroll to Top