หนัง

หนัง

หนัง

รีวิวหนัง Happy Gilmore 2 แฮปปี้ กิลมอร์ 2 คัมแบ็กฟีลใจฟูฟู่ ขนดารารับเชิญมาค่อนประเทศ

        ต่อเนื่องกับอีกคอนเทนท์ที่เป็นการชุบชีวิตและคืนชีพให้กับตำนานหนังแห่งยุค ที่กลับมาโลดแล่นอีกครั้งตามสูตรสำเร็จ Nostalgia ที่นิยมใช้กันมาก ๆ ในยุคนี้ ก็กลายเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Happy Gilmore 2 แฮปปี้ กิลมอร์ 2 หนังตลกวงการกอล์ฟ ที่เคยเป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อให้กับ อดัม แซนด์เลอร์ ในยุค 90s ที่การคัมแบ็กในรอบเกือบ 30 ปีครั้งนี้ ยังเป็นการกลับมารวมตัวของตำนานแก๊งชายแทร่ต้นกำเนิด Happy Madison ค่ายหนังของอดัมนั่นเองหลังจากที่ตำนานแชมป์ครั้งแรกเรืองรองผ่านไป 29 ปีเต็ม แฮปปี้ กิลมอร์ ได้หวนกลับลงสู่สนามกอล์ฟอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะแขวนไม้อย่างเป็นทางการไปแล้วนับทศวรรษ โดยในครั้งนี้เขากลับมาก็เพื่อหาแรงจูงในการดำรงชีวิตประจำวันเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หนึ่งในนั้นก็คือการหาเงินจ่ายค่าโรงเรียนสอนบัลเลต์ที่ปารีสให้กับเวียนนา ลูกสาวน่ารักน่าเอ็นดูของเขา ที่การปัดฝุ่นวิชาหวดลูกกอล์ฟครั้งนี้ของเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ ในวัฒนธรรมการแข่งขันที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาอย่างที่เกริ่นไปแล้วข้างต้นว่า Happy Gilmore 2 ครั้งนี้ ก็ไม่ต่างกับเป็นหนังรวมญาติครั้งสำคัญของหนังชุดนี้ ที่แน่นอนว่าบางส่วนก็โบยบินขึ้นไปนอนเล่นบนฟ้ากันแล้ว แต่อีกส่วนก็ยังเจิดจ้านแม้ว่าพละกำลังจะอ่อนล้าไปแล้วตามวัย ถ้าหากว่าใครเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ก็น่าจะเอ็นจอยกับการตามเก็บอีสเตอร์เอ้กแบบรียูเนียนที่สอดแทรกเข้ามาเรื่อย ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ที่น่าจะกล้าบอกได้ว่านี่เป็นหนังอีกเรื่องในรอบปีนี้ที่มาการขนกองทัพนักแสดงรับเชิญเอาไว้ได้คับคั่งสุด ๆ เลย […]

หนัง

รีวิวหนัง A Normal Woman ผู้หญิงธรรมดา ยกระดับความงามมีคลาสของหนังอินโดฯ

    กลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและตลาดหนังที่กำลังปลุกปั้นขึ้นมาได้อย่างงดงามขึ้นทุก ๆ วัน ตีตื้นขึ้นมาเป็นคอนเทนท์หนังที่โดดเด่นระดับอาเซียนเทียบชั่นวงการหนังไทยอย่างจดจ่อแล้ว สำหรับวงการหนังอินโดนีเซีย ที่ทำการผลิตออกมาได้ดีทั้งหนังผีและหนังแอคชัน และล่าสุดกับคอนเทนท์ออริจินัลที่ส่งออกไปทั่วโลก อย่าง A Normal Woman ผู้หญิงธรรมดา ก็นับว่าเป็นอีกสเต็ปที่สำคัญของหนังอินโดฯ ที่ขยับการสร้างบรรทัดฐานของตัวเองออกไปให้ไกลกว่าอีกครั้งมิลลา หญิงสาวที่เหมือนเป็นซินเดอเรลลา หลังพบรักและแต่งงานอยู่กินกับ โจนาธาน นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเพรียบพร้อม แต่ว่าเธอเผชิญหน้ากับปัญหาความบกพร่องทางร่างกายอย่างหาเหตุผลไม่ได้ เริ่มจากการมีบาดแผลบริเวณส้นเท้าและใบหน้า ความเจ็บปวดเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางชีวิตประจำวันของเธอที่เต็มไปด้วยเรื่องรบกวนจิตใจ โดยเฉพาะแรงกดดันจากแม่สามีจอมเผด็จการ ก่อนที่เธอจะเริ่มตกอยู่ในภวังค์ความสับสนมากยิ่งขึ้น เมื่อแวดล้อมต่าง ๆ ชวนให้เธอตั้งคำถามว่าตัวเองเป็นใคร และอดีตที่ดำหม่นของเธอก็ค่อย ๆ เผยออกมานี่คือผลงานล่าสุดของนักสร้างหนังฝีมือจากอินโด ลัคกี กุสวันดี ที่เคยแจ้งเกิดจาก In the Absence of the Sun และเพิ่งมีหนังกับเน็ตฟลิกซ์ไปเมื่อไม่นานใน Dear David ที่ครั้งนี้เขายังรับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังเอง โดยที่ยังคงสอดแทรกประเด็นความสวยความงามและบิวดี้สแตนดาร์ดเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ภายใต้การยกระดับเนื้อหาที่เต็มไปด้วยมิติแห่งความซับซ้อนภายใต้จิตใจมนุษย์ เป็นโทนหนังที่ไม่ค่อนได้เห็นหนังฝั่งอินโดสะท้อนอะไรแบบนี้ออกมาในระดับสากลสักเท่าไหร่        ถึงแม้ว่าในส่วนของบทหนัง A Normal Woman เรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่อะไรเท่าไหร่ แต่ลูกเล่นที่ใช้เป็นวิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็ชวนให้ติดตามอยู่ไม่น้อย

มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล
หนัง

รีวิวหนังเรื่อง มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ 

สำหรับหนัง มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ถือเป็นภาคที่ 7 ของแฟรนไชส์สายลับสุดมันส์ที่นำแสดงโดย Tom Cruise ในบท Ethan Hunt ซึ่งครั้งนี้เรื่องราวเข้มข้นกว่าที่เคย เพราะศัตรูของเขาไม่ใช่เพียงองค์กรลับหรือผู้ก่อการร้ายทั่วไป แต่คือ “The Entity” ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สุดอันตรายที่สามารถควบคุมระบบดิจิทัลทั่วโลกได้ Ethan และทีม IMF ต้องออกปฏิบัติการแข่งกับเวลาเพื่อหยุดยั้งการครอบงำโลกของ AI ตัวนี้ เรื่องเริ่มต้นด้วยเหตุการณ์เรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกโจมตีโดยระบบของ The Entity ทำให้ทั้งโลกตระหนักถึงพลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ Ethan ได้รับภารกิจใหม่จาก IMF ให้ตามหากุญแจสองชิ้นที่สามารถปิดการทำงานของ AI ได้ แต่ระหว่างทางกลับเต็มไปด้วยผู้ที่ต้องการแย่งชิง ทั้งหน่วยงานรัฐบาล นักค้าอาวุธ และบุคคลลึกลับที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อครอบครองพลังนี้ หนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นคือ Grace (Hayley Atwell) นักโจรกรรมฝีมือดีที่บังเอิญเข้ามาพัวพันกับภารกิจ เธอเป็นตัวละครใหม่ที่เพิ่มสีสันและความซับซ้อนให้กับทีม Ethan ต้องพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอเชื่อใจ ทั้งที่เธอเองยังลังเลใจว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ขณะเดียวกัน Gabriel (Esai Morales) ศัตรูเก่าของ Ethan ก็กลับมาเป็นตัวแทนของ

Poor Things
หนัง

รีวิวหนัง Poor Things โลกสุดเพี้ยนของเบลล่า ที่ทั้งป่วน ฮา

ถ้าคุณคิดว่าเคยดูหนังแปลกมาเยอะแล้วรอก่อน Poor Things จะพาคุณหลุดเข้าไปอีกโลกที่ไม่เคยมีใครบอกว่าโลกนี้ควรมีอยู่จริง แต่กลับน่าติดตามแบบวางตาไม่ได้เลยสักวินาที หนังเรื่องนี้กำกับโดย Yorgos Lanthimos ผู้กำกับสายอินดี้จอมปั่นสมองจาก “The Lobster” และ “The Favourite” กลับมาคราวนี้เขาพาเราดำดิ่งเข้าสู่เรื่องราวสุดหลุดโลกของหญิงสาวนามว่า เบลล่า แบ็กซ์เตอร์ (รับบทโดย Emma Stone) หญิงสาวที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ด้วยสมองของเด็กทารก! ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด สมองของเธอยังใสปิ๊งแบบเด็กอ่อน แต่อยู่ในร่างหญิงสาวเต็มวัยที่เริ่มค้นหาความเป็นตัวตนของตัวเองอย่างอิสระที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ ตั้งแต่ต้นเรื่อง เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตของเบลล่ากับนักวิทยาศาสตร์คลั่งอย่าง Dr. Godwin Baxter (Willem Dafoe) ที่ราวกับหลุดมาจากโลกสตีมพังก์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คือจุดเริ่มต้นของความแปลกประหลาด แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นปนเสียดสีสังคมอย่างเจ็บแสบ เมื่อเบลล่าได้โอกาสออกเดินทางไปค้นหาตัวเองทั่วโลกกับนักกฎหมายเจ้าเล่ห์ (Mark Ruffalo) หนังเริ่มทวีความเพี้ยน ความฮา และความปั่นป่วนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกเมืองที่เธอไป ทุกคนที่เธอพบ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนว่า “ความปกติ” ของโลกเรามันบิดเบี้ยวขนาดไหนกันแน่ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ การแสดงของ Emma Stone ที่พลิกบทบาทไปสุดทาง เธอไม่กลัวที่จะเปลือยทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่คือจิตใจและอารมณ์ดิบที่แสดงออกแบบ “ไม่ผ่านการขัดเกลา”

หนัง

รีวิวหนังเรื่อง ทรอน อาเรส Tron Ares

สำหรับหนังเรื่อง Tron Ares เป็นภาคต่อในจักรวาลไซไฟชื่อดังอย่าง Tron ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1982 และกลับมาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งใน Tron: Legacy ปี 2010 โดยในภาคใหม่นี้ “Tron: Ares” ได้พาผู้ชมดำดิ่งกลับเข้าสู่โลกดิจิทัลที่มีความล้ำสมัยยิ่งขึ้น พร้อมกับประเด็นใหม่ที่เข้มข้นและร่วมสมัยมากกว่าเดิม เรื่องราวในเรื่องนี้กล่าวถึงการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถออกจากโลกดิจิทัลเข้าสู่โลกมนุษย์ได้ นำโดยตัวเอกชื่อ Ares โปรแกรมสุดล้ำที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อภารกิจพิเศษบางอย่าง ซึ่งยังถูกปกปิดไว้ในช่วงแรกของเรื่อง หนังพาผู้ชมย้อนกลับไปสำรวจจุดเชื่อมโยงระหว่างโลกแห่งข้อมูลกับโลกแห่งความจริง โดยหยิบเอาประเด็นที่สะท้อนความกลัวและความหวังในยุคเทคโนโลยี เช่น การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ AI การควบคุมอัตลักษณ์ของโปรแกรม และคำถามเกี่ยวกับเสรีภาพในโลกที่ถูกควบคุมด้วยรหัส ภาพยนตร์เน้นอารมณ์ไซไฟเข้มข้นที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันแบบสไตล์ Tron ดั้งเดิม เช่น การแข่งไลท์ไซเคิลสุดมันส์ การต่อสู้ระหว่างโปรแกรมในสนามพลังงาน ไปจนถึงการหลบหนีจากระบบเผด็จการภายในกริด (Grid) ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ให้ดาร์กและลึกยิ่งขึ้น การสร้างโลกใน Tron: Ares ยังคงอิงภาพจำเดิมของจักรวาล Tron แต่เพิ่มดีไซน์ที่ทันสมัย ใช้เทคนิคภาพ CGI และการจัดแสงที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเสียงประกอบที่โดดเด่น ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกคอมพิวเตอร์อีกครั้ง หนึ่งในประเด็นสำคัญของหนังคือคำถามที่ว่า “สิ่งที่เราสร้างขึ้น ควรมีสิทธิ์เลือกชีวิตตัวเองหรือไม่?” ซึ่งตัวละคร

รีวิวหนังเกาหลี 1987: When the Day Comes
หนัง

รีวิวหนังเกาหลี 1987: When the Day Comes

ในปี 2017 หนังเกาหลีใต้เรื่อง “1987: When the Day Comes” ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมทั่วโลกด้วยการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปี 1987 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประชาชนเกาหลีใต้รวมตัวกันเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หนังเรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีผู้ชมมากกว่า 7.2 ล้านคนในเกาหลีใต้ หลังจากฉายในวันที่ 27 ธันวาคม 2017 แสดงให้เห็นถึงความนิยมและความสำคัญของหนังเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวที่อิงจากเหตุการณ์จริงในปี 1987 ของเกาหลีใต้ ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหารของประธานาธิบดี Chun Doo-hwan จุดเริ่มต้นของเรื่องคือการตายของ Park Jong-chul นักศึกษาที่ถูกจับกุมและทรมานจนเสียชีวิตระหว่างการสอบสวนของตำรวจ ทางการพยายามปกปิดความจริงโดยสั่งให้เผาศพเพื่อทำลายหลักฐาน แต่อัยการ Choi Hwan (แสดงโดย Ha Jung-woo) เริ่มสงสัยและตัดสินใจสืบค้นความจริง   แม้จะมีความพยายามปิดปากทุกคนที่เกี่ยวข้อง แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผย นำไปสู่ความโกรธเคืองของประชาชนและการเรียกร้อง ประชาธิปไตย หนังไม่ได้โฟกัสที่ตัวละครหลักคนใดคนหนึ่ง แต่เล่าเรื่องผ่านมุมมองของหลายๆ คน เช่น นักข่าว ผู้คุมเรือนจำ และนักศึกษา ที่ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ หนังจบลงด้วยการแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนที่รวมตัวกันเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง และนำไปสู่การปฏิรูปประชาธิปไตยในที่สุด การแสดงของ Ha

หนัง

รีวิวหนัง The Fantastic Four First Steps ก้าวแรกเปี่ยมล้นด้วยหัวใจ ก้าวใหม่ที่แบกความคาดหวัง

    ถึงเวลาย่างก้าวเข้าสู่เฟสที่ 6 ที่น่าจะเป็นเฟสที่แฟนเดนตายของจักรวาลหนังมาร์เวลต่างคาดหวังเอาไว้ไม่น้อยว่าจะต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์จากเฟสที่ 4 กับ 5 ค่อนข้างล้มลุกคลุกคลานพอสมควร เพราะหลังจาก Avengers Endgame ก็ดูเหมือนอะไรต่าง ๆ ในห้วงจักรวาลนี้ก็เคว้งหาทางกู่ไม่กลับ นั่นจึงทำให้ The Fantastic Four First Steps เดอะ แฟนแทสติก 4 จุดเริ่มต้นปฐมบทใหม่ การชุบชีวิตใหม่อีกครั้งเล่าสี่กายสิทธิ์ โดยมาร์เวลสร้างแท้ ๆ เรื่องนี้ จะเป็นการจุดประกายความสตรองของมาร์เวลและทวงคืนศรัทธาที่หายไปอยู่หลายปีนี่คือเรื่องแรกของ เดอะ แฟนแทสติก 4 พวกเขาดำรงอยู่เหมือนกับครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่ ท่ามกลางความภูมิใจของชาวเมืองและชาวโลก แต่แล้วก็ต้องเผชิญหน้าความท้าทายที่น่าหวาดหวั่นที่สุดของพวกเขา บีบบังคับให้พวกเขาต้องหาจุดสมดุลระหว่างบทบาทในฐานะของฮีโร่และพลังของความผูกพันธ์ในครอบครัว พวกเขาจะต้องปกป้องโลกจากเทพเจ้าจอมตะกละจากหวงอวกาศที่มีชื่อว่า กาแลคตัส และลูกสมุนที่ชื่อว่า ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ ที่การตัดสินใจปกป้องโลกในครั้งนี้ทำให้ต้องติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางเลือกที่เปราะบาง      แมตต์ แชกแมน ที่ถูกดึงตัวมาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ท่ามกลางแรงกดดันมหาศาล เพราะเอาเข้าจริง ๆ เขาค่อนข้างมีประสบการณ์น้อยมาก ๆ ในการสร้างหนัง เคยแค่กำกับหนังเล็ก ๆ

Ziam - ปากกัด ตีนถีบ มหันตภัยซอมบี้ วิกฤตอาหารโลก
หนัง

Ziam – ปากกัด ตีนถีบ มหันตภัยซอมบี้ วิกฤตอาหารโลก

หนังเรื่อง ปากกัด ตีนถีบ เล่าเรื่องราวในโลกที่ วิกฤตอาหารโลก ทำให้มนุษยชาติต้องเผชิญกับความอดอยากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วสุ นักวิทยาศาสตร์ผู้มุ่งมั่นหาทางออกให้มนุษย์ คิดค้นปลา ชีววิศวกรรม ที่สามารถกินดิบได้และให้สารอาหารครบถ้วน แต่สิ่งที่ควรจะเป็นความหวังกลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อปลาชนิดนี้ทำให้ผู้บริโภคกลายเป็น ซอมบี้ ที่ดุร้ายและแข็งแกร่งเกินมนุษย์ เรื่องราวดำเนินผ่านมุมมองของ สิงห์ ชายหนุ่มที่ต่อสู้เพื่อปกป้องคนรักท่ามกลางความโกลาหล โลกที่เคยสิ้นหวังจากความอดอยากต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใหม่ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า   การเล่าเรื่องของ Ziam ดึงดูดตั้งแต่ต้นด้วยการนำเสนอโลกที่มืดหม่นสมจริง คุณจะรู้สึกถึงความสิ้นหวังของตัวละครที่ต้องแย่งชิงแม้แต่แมลงเพื่อประทังชีวิต การออกแบบฉากและบรรยากาศในหนังทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลก ดิสโทเปีย ที่ทุกอย่างพังทลาย การผสมผสานระหว่าง วิทยาศาสตร์ และ ความสยองขวัญ ทำให้เรื่องนี้แตกต่างจาก หนังซอมบี้ ทั่วไป เพราะมันไม่ใช่แค่การเอาชีวิตรอด แต่ยังตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของมนุษย์ต่อนวัตกรรมที่อาจนำไปสู่หายนะ ถ้าคุณรัก ฉากแอคชั่น ที่เร้าใจ Ziam ไม่ทำให้ผิดหวัง ตัวละครหลักอย่าง สิงห์ เป็นนักสู้ที่เต็มไปด้วยพลังและความดิบเถื่อน การต่อสู้ของเขากับฝูง ซอมบี้ เต็มไปด้วยความเข้มข้น การออกแบบท่าต่อสู้ทำได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะฉากที่สิงห์ต้องเผชิญหน้ากับ ซอมบี้ ที่มีพลังเหนือมนุษย์ ทุกการต่อสู้เต็มไปด้วยความตึงเครียด คุณจะรู้สึกลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่อเห็นสิงห์ต้องใช้ทั้งไหวพริบและกำลังเพื่อเอาชีวิตรอด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฉาก

แพสต์ ไลฟส์
หนัง

รีวิวภาพยนตร์ Past Lives อดีต ความรัก และโชคชะตา

สำหรับเรื่อง Past Lives คือภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกจากปี 2023 ที่กำกับโดย Celine Song ผู้กำกับหญิงเชื้อสายเกาหลีใต้-แคนาดา ที่เปิดตัวด้วยผลงานชิ้นแรกอย่างสง่างาม ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวความรักที่อ่อนโยน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอารมณ์ ความทรงจำ และคำถามที่ยังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับโชคชะตาและเส้นทางชีวิตของมนุษย์ เนื้อเรื่องเล่าผ่านตัวละครหลักคือ นอรา รับบทโดย Greta Lee หญิงสาวชาวเกาหลีใต้ที่อพยพไปอยู่นิวยอร์กตั้งแต่วัยเด็ก และ แฮซอง รับบทโดย Teo Yoo เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเธอที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งสองเคยมีความรู้สึกพิเศษให้กันในวัยเยาว์ แต่เส้นทางชีวิตนำพาพวกเขาให้แยกจากกัน จนกระทั่ง 20 ปีผ่านไป แฮซองตัดสินใจบินมาหานอราที่นิวยอร์ก ทั้งที่ตอนนี้เธอมีสามีเป็นชาวอเมริกันแล้ว (รับบทโดย John Magaro) สิ่งที่โดดเด่นไม่ใช่ฉากโรแมนติกหวือหวา แต่เป็นความเงียบงัน ความอึดอัด และความจริงของอารมณ์ที่ทุกคนล้วนเคยเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามว่า ถ้าวันนั้นตัดสินใจอีกแบบ ชีวิตจะเป็นอย่างไร? ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จบลงแบบชัดเจน มักจะค้างคาในใจผู้คน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งและเจ็บปวดแบบละมุน ประเด็นสำคัญของเรื่องคือแนวคิดเรื่อง อินยอน (In-Yun) ซึ่งเป็นแนวคิดเกาหลีที่เชื่อว่า คนเราจะมาพบกันได้ในชาตินี้ ต้องมีความผูกพันกันมานับพันชาติ Past Lives

หนังระทึกขวัญเกาหลี The Hidden Face : เล่ห์ ร้อน ซ่อน ชู้
หนัง

หนังระทึกขวัญเกาหลี The Hidden Face : เล่ห์ ร้อน ซ่อน ชู้

หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องราวของความรักที่ซับซ้อน แต่เป็นการสำรวจจิตใจมนุษย์ผ่านปมปริศนาที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง คุณเคยสงสัยไหมว่า ถ้าคนที่คุณรักหายตัวไป แต่จริงๆ แล้วเขายังอยู่ในสายตาคุณตลอดเวลา จะเกิดอะไรขึ้น? The Hidden Face นำเสนอคำถามนี้ผ่านตัวละครที่เต็มไปด้วยข้อบกพร่องและความลับที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผย ด้วยการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับเวลาและการกำกับที่ชาญฉลาดของ คิมแดวู หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณต้องตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่เห็น The Hidden Face (2024) เล่าเรื่องราวของ ซูยอน (โจยอจอง) นักเชลโล่สาวที่กำลังจะแต่งงานกับ ซองจิน (ซงซึงฮอน) วาทยกรหนุ่มของวงออร์เคสตรา แต่แล้ววันหนึ่ง เธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากทิ้งวิดีโอข้อความไว้ว่าจะเดินทางไปเบอร์ลิน เกือบสองสัปดาห์ผ่านไปโดยไม่มีวี่แววของซูยอน ซองจินจึงตัดสินใจหานักเชลโล่คนใหม่ และนั่นคือ มิจู (พัคจีฮยอน) สาวที่เข้ามาเป็นทั้งนักดนตรีและคนรักคนใหม่ของเขา แต่สิ่งที่ซองจินไม่รู้คือ ซูยอนไม่ได้ไปไหน เธอยังคงติดอยู่ในบังเกอร์ลับภายในบ้าน โดยถูกขังอยู่หลังกระจกที่ซ่อนความลับอันน่าสะพรึงกลัว   เรื่องราวเริ่มเข้มข้นเมื่อหนังค่อยๆ เผยว่า ซูยอนไม่ได้หายไปโดยสมัครใจ แต่เธอถูกจองจำอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด การเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับช่วยให้ผู้ชมได้เห็นมุมมองที่แตกต่างของตัวละครแต่ละตัว ผ่านการย้อนอดีตที่ค่อยๆ ปะติดปะต่อปริศนา หนังไม่ได้เน้นเพียงการหักมุม แต่ยังชวนให้คุณครุ่นคิดถึงประเด็นของศีลธรรมและการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล การเดินทางของซูยอนในบังเกอร์ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่เป็นการเผชิญหน้ากับความจริงที่เจ็บปวดเกี่ยวกับตัวเธอและคนรอบข้าง จุดเด่นของ เล่ห์ ร้อน ซ่อน ชู้

Scroll to Top