หนัง

หนัง

หนัง

รีวิวหนัง นากรักมาก ม๊ากมาก เลิฟเลี่ยนหวานเจี๊ยบ กับตำนาน หม่ำ-เท่ง-โหน่ง ที่ฆ่าไม่ตาย

   พี่หม่ำ เคยบุกเบิกกำกับหนังมานานแล้ว พี่เท่ง ก็ได้ผ่านการอวดฝีมือในฐานะนักสร้างมาแล้วเช่นกัน บัดนี้ก็มาถึง พี่โหน่ง สมาชิกคนที่เหลือแห่งแก๊งสามช่า ที่จะกระโจนลงมาละเลงฝีมือในฐานะผู้กำกับหนังอย่างเต็มตัว กับผลงานชิมลางเรื่องแรกของเขา นากรักมาก ม๊ากมาก ที่อาจจะสะกิดใจทำให้คนดูตั้งแง่ เพราะว่าหวนมาหากินกับตำนานรักอาถรรพ์ของแม่นากอีกแล้วหรือ แต่ว่าเขาการันตีชัดๆ ว่า นี่คือการตีความใหม่แบบพลิกโฉมที่คนไทยจะไม่เคยสัมผัส แล้วมันก็เออ..เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยปื๊ด ผู้กำกับหน้าเก่าไฟแร๊ง ร่วมมือกับ อังเคิล ผู้ช่วยผู้กำกับคู่มือคู่เท้า ลุยสร้างหนังรีเมคจากตำนานรักอมตะ นางนาก หวังเขย่าวงการให้สะเทือน! แต่เรื่องกลับหลุดบทไปไกล เมื่อ นางนากตัวจริง โผล่มาเล่นเอง พร้อมภารกิจตามหารักแท้ที่กลับชาติมาเกิดเป็น คริส ซุป’ตาร์ขวัญใจมหาชน! เมื่อกองถ่ายหนังผีดันมีผีจริงร่วมจอ โปรเจกต์นี้จะปังจนเป็นตำนาน หรือพังจนเป็นตำนานกันแน่โหน่ง ชะชะช่า หรือ ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข ได้ก้าวขึ้นมารับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้อย่างเต็มตัว ต้องสารภาพตรง ๆ กับคุณผู้อ่านก่อนเลยว่า การจะมาเสพย์คอนเทนท์หนังตลกจากดาวตลกตัวเทพมารังสรรค์ด้วยตัวเอง ทุกครั้งจะปล่อยให้สมองโล่ง ๆ ทิ้งทุกอย่างไว้ที่หน้าประตูโรงหนัง และมาเก็บฟีลและอารมณ์จอย ๆ แบบไม่คิดอะไรทั้งสิ้น กับใน นากรักมาก ม๊ากมาก เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน […]

หนัง

รีวิวหนังเรื่อง John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แชปเตอร์

ภาพยนตร์แอ็คชั่น จอห์น วิค แชปเตอร์ ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวของนักฆ่าผู้โด่งดังอย่างจอห์น วิค (รับบทโดยคีอานู รีฟส์) ที่ยังคงต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากโลกใต้ดินอันโหดร้ายและเต็มไปด้วยอันตราย ภาคนี้ยังคงเอกลักษณ์ความดิบเถื่อนและฉากบู๊ที่จัดเต็มแบบไม่ยั้ง ทำให้แฟนหนังที่ชื่นชอบซีรีส์นี้ไม่ผิดหวัง ในภาคนี้ เนื้อเรื่องจะขยายโลกของ John Wick ให้กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยเผยให้เห็นถึงระบบและองค์กรลับที่ควบคุมวงการนักฆ่าอย่างเข้มงวด จอห์นต้องเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ที่มีอำนาจและทรงพลังมากขึ้น การต่อสู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเมืองเดียวอีกต่อไป แต่มีการย้ายสถานที่ไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งปารีส โตเกียว และเยอรมนี ซึ่งทำให้บรรยากาศของหนังมีความหลากหลายและเพิ่มความน่าติดตามได้อย่างดี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาคนี้ คือฉากแอ็คชั่นที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและมีความสมจริงสูง ทั้งฉากยิงปืน ไล่ล่า และการใช้ศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลาย ยังคงใช้ทักษะเฉพาะตัวในการต่อกรกับศัตรูหลายคนพร้อมกัน ฉากแอ็คชั่นถูกตัดต่ออย่างรวดเร็วและลื่นไหล ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและเข้าถึงความดุเดือดได้อย่างเต็มที่ บทภาพยนตร์ในภาคนี้เน้นความลึกของตัวละครมากขึ้น นอกจากการแสดงถึงความแข็งแกร่งและความชำนาญแล้ว ยังมีการเปิดเผยแง่มุมของจิตใจและความรู้สึกที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความโหดเหี้ยมของเขา เรื่องราวความสัมพันธ์ของ John กับตัวละครอื่น ๆ เช่น เพื่อนร่วมทาง และศัตรู ถูกพัฒนาขึ้น ทำให้มีความซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้น คีอานู รีฟส์ ยังคงนำเสนอการแสดงที่น่าประทับใจ ทั้งในด้านความแข็งแรง ความคล่องแคล่ว และการสื่ออารมณ์ที่บางครั้งเงียบขรึมแต่ทรงพลัง การเคลื่อนไหวของเขาในฉากบู๊ทำให้เห็นถึงการฝึกฝนอย่างหนักและความตั้งใจจริง นอกจากนี้นักแสดงสมทบในภาคนี้ก็มีบทบาทที่น่าสนใจ ทั้งในฐานะพันธมิตรและศัตรูที่เพิ่มความเข้มข้นของเรื่องได้อย่างดี

รีวิวหนังเกาหลี Wall to Wall - ฝันร้าย 84 ตร.ม.
หนัง

รีวิวหนังเกาหลี Wall to Wall – ฝันร้าย 84 ตร.ม.

ลองนึกภาพคุณย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใหม่ที่ทุ่มเงินทั้งชีวิตซื้อ แต่กลับได้ยิน เสียงลึกลับ จากกำแพงตอนกลางคืน เสียงนั้นไม่ใช่แค่รบกวน แต่เหมือนกำลังบอกอะไรบางอย่างที่คุณไม่อยากรู้! Wall to Wall (2025) หนังเกาหลีแนวระทึกขวัญจาก Netflix พาคุณดำดิ่งสู่เรื่องราวของ โนห์ อูซึง ชายธรรมดาที่เดิมพันอนาคตเพื่อซื้ออพาร์ตเมนต์ แต่กลับเจอฝันร้ายที่คาดไม่ถึง หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแค่เล่าถึงความลึกลับ แต่ยังสะท้อนความกดดันของคนที่พยายามคว้า ความฝันในการมีบ้าน ท่ามกลางหนี้สินและอุปสรรค Wall to Wall เล่าถึงชีวิตของ โนห์ อูซึง ชายวัยกลางคนที่ทุ่มสุดตัวเพื่อซื้ออพาร์ตเมนต์ในกรุงโซล หวังว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดีกว่า แต่ความฝันนั้นกลับกลายเป็นฝันร้ายเมื่อเขาเริ่มได้ยิน เสียงลึกลับ จากกำแพงตอนกลางคืน เสียงนั้นไม่ใช่แค่การรบกวน แต่เหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ในกำแพงที่พยายามสื่อสารกับเขา อูซึงเริ่มสงสัยทั้งตัวเองและเพื่อนบ้านที่ดูเหมือนมีอะไรปิดบัง เรื่องราวยิ่งซับซ้อนเมื่อเขาถลำลึกเข้าไปในแผนการเงินที่ผิดพลาดและการปะทะกับเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตร หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่แบกรับความกดดันจากการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นประเด็นที่คนไทยหลายคนน่าจะเข้าใจดี การซื้อบ้านในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพหรือโซลไม่ใช่เรื่องง่าย หนี้สิน ความคาดหวัง และความกลัวล้มเหลวล้วนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอูซึง เขาคือตัวแทนของคนธรรมดาที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับเจออุปสรรคที่เกินจะรับมือ ครึ่งแรกของหนังทำได้ยอดเยี่ยมในการสร้างความตึงเครียด คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตที่ไม่มีทางออกพร้อมกับอูซึง หนึ่งในจุดเด่นของ ฝันร้าย 84 ตร.ม. คือการแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ คัง ฮานึล ที่รับบทอูซึง

หนัง

รีวิวหนัง Fountain of Youth เมื่อท่านพ่อ กาย ริตชี มาลองทำหนังผจญภัยไปสุดหล้า

 เมื่อผู้กำกับยอดฝีมือ กาย ริตชี ที่สร้างหนังบู๊ก็เจ๋ง ทำหนังแฟนตาซีก็ปัง และล่าสุดได้รับมอบหมายโจทย์เป็นหนังผจญภัยไขปริศนาฟอร์มใหญ่มาให้ละเลงสร้าง เขาก็ไม่รีรอที่จะวาดลวดลายออกมาเป็น Fountain of Youth การผจญภัยสุดขอบโลกครั้งใหม่ ที่มาพร้อมกับดาราระดับซุปตาร์ตัวเป้งและทุนสร้างสูงปรี๊ด ที่อาจจะกลิ่นอายคล้าย ๆ กับหนังดังหลายเรื่องไปหน่อยก็ตามลุค กับ ชาร์ล็อตต์ สองพี่้น้องที่ต่างมีเส้นทางแยกกันไปคนละทิศทาง ได้หวนกลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อจุดเป้าหมายเดียวกันในการตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์ที่เลื่องชื่อในตำนาน ด้วยการแกะเบาะแสมาจากข้อมูลทางประวัติศษสตร์ ออกเดินทางไปตามเส้นทางภารกิจที่ยิ่งใหญ่ บนเดิมพันความสำเร็จที่พลังอำนาจของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อาจจะมอบความเป็นอมตะให้กับพวกเขาเอาจริง ๆ แค่เริ่มต้นเปิดเรื่องขึ้นมาก็ซื้อใจคอหนังชาวไทยไปแล้ว เพราะออกสตาร์ทด้วยฉากโหมโรงในกรุงเทพฯ กับคลอไปด้วยเพลงดังอมตะ Bang Bang (My Baby Shot Me Down) ฉบับดัดแปลงเป็นคำร้องภาษาไทยทั้งหมด ก็ชวนกระตุ้นความสนใจได้ไม่น้อย Fountain of Youth เป็นหนังแอคชันผจญภัยสไตล์ตามหาขุมทรัพย์ ที่ทำให้เราเลี่ยงจะไม่นึกถึงหนังดัง ๆ อย่าง แฟรนไชส์ Indiana Jones, National Treasure หรือ Uncharted ไม่ได้ เพราะหนังดูจะมาในสูตรเดียวกัน       ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังแนวบู๊ผจญภัยในศักราชนี้ค่อนข้างเป็นความท้าทายในการสร้างไม่น้อย ถึงแม้มันจะเป็นหนังที่สามารถไปตามสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ

เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ
หนัง

รีวิวหนัง เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ

เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ (The Princess Diaries) ไม่ใช่แค่หนังโรแมนติกคอมเมดี้สำหรับวัยรุ่นทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความฝัน การค้นพบตัวเอง และการก้าวข้ามผ่านความไม่มั่นใจในแบบที่น่ารักและอบอุ่นหัวใจ กำกับโดย แกรี่ มาร์แชล ผู้สร้างสรรค์ผลงานอมตะอย่าง Pretty Woman และนำแสดงโดย แอน แฮททาเวย์ ในบทบาทแจ้งเกิด ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นที่จดจำและเป็นที่รักของใครหลายคน เรื่องราวเริ่มต้นด้วย มีอา เทอร์โมโพลิส (แอน แฮททาเวย์) เด็กสาววัย 15 ปีที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายในซานฟรานซิสโก เธอเป็นคนเนิร์ดๆ ผมฟูๆ ใส่แว่น และมักจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ โลกของมีอาต้องพลิกผันไปโดยสิ้นเชิงเมื่อคุณย่าของเธอ คลาริส เรนัลดี (จูลี่ แอนดรูวส์) เดินทางมาปรากฏตัวพร้อมกับข่าวสุดเซอร์ไพรส์ นั่นคือ มีอาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของราชวงศ์เจนโนเวีย และเธอคือ เจ้าหญิง ที่แท้จริง! ความท้าทายของมีอาไม่ใช่แค่การยอมรับความจริงอันน่าเหลือเชื่อนี้ แต่คือการเปลี่ยนผ่านจากเด็กสาวธรรมดาให้กลายเป็น เจ้าหญิง ที่สง่างามและคู่ควรกับบัลลังก์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณย่าคลาริส ผู้เป็นราชินีที่เข้มงวดและสง่างาม รับหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนมารยาทและกิริยาท่าทางแบบราชนิกูลให้มีอา สิ่งที่เราได้เห็นคือความพยายามของมีอาในการปรับตัว ทั้งการเรียนรู้การเดิน การนั่ง การพูดจาที่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลบุคลิกภาพภายนอก ตั้งแต่การทำผม แต่งหน้า และเปลี่ยนเสื้อผ้าจากเด็กเนิร์ดเป็นสาวสวย แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนไปภายนอก มีอาก็ยังคงความซุ่มซ่ามและเป็นตัวของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้เธอแตกต่างและเป็นที่รัก หนึ่งในจุดเด่นของหนังคือ เคมีที่ลงตัว ระหว่าง แอน แฮททาเวย์ และ จูลี่ แอนดรูวส์ ความสัมพันธ์ของคุณย่าหลานสาวที่เริ่มต้นด้วยความตึงเครียดค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความเข้าใจและความผูกพันที่แน่นแฟ้น คุณย่าคลาริสไม่ได้เป็นเพียงผู้สอน แต่ยังเป็นผู้ที่ผลักดันให้มีอาเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง ขณะที่มีอาก็ช่วยละลายความเย็นชาของคุณย่าและนำความสดใสกลับคืนมาให้ราชินีผู้โดดเดี่ยว ตัวละครสมทบอื่นๆ ก็มีสีสันไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนซี้จอมห้าวอย่างลิลลี่ (เฮเธอร์ มาทารัสโซ่) หรือบอดี้การ์ดสุดหล่อที่คอยปกป้องมีอา เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวการเติบโตและการค้นพบตัวตนในแบบที่เข้าถึงใจผู้ชมได้ง่าย มันไม่ได้เน้นแค่ความโรแมนติกอย่างเดียว แต่ยังสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับการยอมรับตัวเอง การกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และการตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตด้วยความมั่นใจ แม้จะผ่านไปหลายปี หนังเรื่องนี้ก็ยังคงความคลาสสิกและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กสาวหลายๆ คนที่กำลังค้นหา “เจ้าหญิง” ในตัวของพวกเขาเอง

The Marvels
หนัง

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง The Marvels เดอะ มาร์เวลส์

ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากจักรวาลมาร์เวล The Marvels ที่เป็นภาคต่อของ Captain Marvel (2019) และยังเชื่อมโยงกับซีรีส์ WandaVision และ Ms. Marvel ได้อย่างแนบแน่น กำกับโดย Nia DaCosta และนำแสดงโดย Brie Larson, Iman Vellani และ Teyonah Parris ที่มารวมพลังกันในบทของ Carol Danvers, Kamala Khan และ Monica Rambeau ตามลำดับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อพลังของทั้งสามฮีโร่เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างลึกลับ ทำให้พวกเธอสลับตำแหน่งกันทุกครั้งที่ใช้พลัง ส่งผลให้ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานี้และเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใหม่จาก Dar-Benn (รับบทโดย Zawe Ashton) วายร้ายเผ่าครีที่มีแผนฟื้นฟูดาวบ้านเกิดของตนด้วยวิธีสุดโต่ง การเดินทางของสามสาวจึงกลายเป็นทั้งภารกิจปกป้องจักรวาลและการเรียนรู้ที่จะเป็นทีมเดียวกันให้ได้  หนึ่งในจุดเด่นของ The Marvels คือพลังของการเล่าเรื่องแบบ ทีมเวิร์กหญิง ที่สดใหม่และสนุกสนาน Kamala Khan ของ Iman Vellani คือจุดเด่นสำคัญของเรื่อง ด้วยความสดใส

หนัง

รีวิวหนัง Brick กำแพง ไขปริศนาติดอยู่ในตึก คอนเซ็ปต์แจ่ม..แต่กระบวนท่าอาจยังโฉบไม่ถึง

  ถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนตัวยงในคอนเทนท์สยองลึกลับคลี่คลายปริศนา สไตล์ The Platform หรือ Squid Game หนังเยอรมันเรื่องนี้ก็น่าจะมาช่วยเติมเต็มความต้องการของคุณได้ใน Brick กำแพง หนังระทึกขวัญไซไฟที่มาพร้อมกับปริศนาในรูปแบบกำแพงหนา และประเด็นที่รอคอยให้ตัวละครและผู้ชมมาช่วยกันสืบค้นหากันไปสู่คำตอบเรื่องราวของ ทิม กับ โอลิเวีย คู่รักที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาชีวิตคู่ระหองระแหง แต่เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาพวกเขาก็ค้นพบว่าอะพาร์ตเมนต์ที่อาศัยอยู่ที่ปิดล้อมไปด้วยกำแพงอิฐลึกลับอย่างเป็นปริศนา มันคือกำแพงประหลาดที่ไม่สามารถเจาะหรือทำลายมันได้เลย ซ้ำร้ายสิ่งอุปโภคต่าง ๆ ถูกตัดขาด ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร ไม่มีสัญญาณการสื่อสาร ทำให้พวกเขาต้องร่วมมือกับเหล่าเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน เพื่อค้นหาทางออกก่อนจะทุกอย่างจะสายเกินไปนี่คือผลงานล่าสุดของนักสร้างหนังชาวเยอรมัน ฟิลลิป คอช (จากหนัง Picco) โดยเขารับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังเองทั้งหมด แน่นอนว่าเรื่องย่อหรือตัวอย่างหนังแทบจะไม่บอกข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังเรื่องนี้มากนัก เป็นกิมมิกที่ทำให้ผู้ชมต้องไปร่วมแก้ปมและเสาะหากันเองต่อเองกันในหนัง นั่นจึงเป็นสิ้่งที่ทำให้คน ดูก็รู้สึกสับสนไม่ต่างไปจากตัวละครในหนัง ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับสตอรี่เรื่องนี้กันแน่          หนังค่อย ๆ ไล่เรียงความลึกลับไปตามเส้นทางรอยเท้าของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ใส่ปริศนาและวความ ลึกลับเพิ่มขึ้นทีละน้อย แต่ทว่าความซับซ้อนอาจจะไม่ได้กลมกล่อมและจัดจ้านในอรรถรสขนาดนั้น เป็นเพียงหนังที่สร้างสถานการณ์บีบคั่นทีละเรื่อย ๆ ให้ผู้ชมได้เกิดความตึงเครียดตาม โดยที่ข้อมูลต่าง ๆ ก็แทบจะไม่ได้ช่วยเพิ่มพูนความกระจ่างได้มากขึ้นสักเท่าไหร่ ไปจนกว่าจะถึงฉากสุดท้ายของเรื่องนั่นเองจังหวะการเล่าเรื่องดูเหมือนความลึกลับจะเป็นไอเดียที่สนุก แต่ว่า Brick กำแพง ไขปริศนาติดอยู่ในตึก

หนัง

รีวิวภาพยนตร์ Killers of the Flower Moon ฆาตกรแห่งดอกไม้เลือด

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Killers of the Flower Moon หรือชื่อไทยว่า “ฆาตกรแห่งดอกไม้เลือด” เป็นผลงานการกำกับของ Martin Scorsese ผู้กำกับระดับตำนานที่กลับมาอีกครั้งพร้อมงานสุดเข้มข้นที่ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์ ดราม่า และอาชญากรรมเข้าด้วยกันอย่างทรงพลัง ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือขายดีของ David Grann ที่เล่าถึงเหตุการณ์จริงในยุคปี 1920 เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในชาวโอเซจ (Osage Nation) ชนพื้นเมืองอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการค้นพบน้ำมันบนผืนดินของพวกเขาเอง ตัวเรื่องโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ระหว่าง เออร์เนสต์ เบิร์กฮาร์ต (รับบทโดย Leonardo DiCaprio) กับ มอลลี่ โอเซจ (Lily Gladstone) หญิงสาวพื้นเมืองที่กลายเป็นเหยื่อในกระบวนการกอบโกยผลประโยชน์อย่างเลือดเย็น ภายใต้การชักใยของ วิลเลียม เฮล (Robert De Niro) ลุงของเออร์เนสต์ ผู้ทรงอิทธิพลในท้องถิ่นที่วางแผนกำจัดชาวโอเซจทีละคนอย่างเป็นระบบ เพื่อหวังฮุบมรดกน้ำมันที่ตกเป็นของหญิงสาวเหล่านั้น สิ่งที่ทำให้โดดเด่นไม่ใช่แค่การแสดงระดับปรมาจารย์ของนักแสดงนำทั้งสามคน แต่คือการเล่าเรื่องที่ซื่อสัตย์และเคารพต่อประวัติศาสตร์จริง ภาพยนตร์ไม่ได้เร่งเร้า แต่ค่อย ๆ คลี่คลายความจริงผ่านสายตาของตัวละครที่ค่อย ๆ ตระหนักรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของสิ่งที่พวกเขาเกี่ยวข้อง บทภาพยนตร์ละเอียดลึกซึ้ง สะท้อนให้เห็นถึงระบบที่เอื้อให้คนขาวกดขี่และฆ่าคนพื้นเมืองได้อย่างไร้ความผิด การถ่ายภาพของ

รีวิว หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด จะฮา จะหลอน ไปดูกัน
หนัง

รีวิว หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด จะฮา จะหลอน ไปดูกัน

กลับมาอีกครั้งกับจักรวาล หนังผีตลก ล้อเลียนที่อยู่คู่วงการหนังไทยมายาวนานถึง 17 ปีเต็ม สำหรับ “หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด” ที่ภาคนี้เขาได้บัญญัติไว้ว่าจะเป็นภาคจบ (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจบกี่โมงจริงหรือไม่) เรียกได้ว่าคนดูได้เติบโตมากับหนังชุดนี้จริงๆ แล้วมาถึงในตอนล่าสุดที่เป็นการจับเอาหนังผีไทยสุดปังทั้ง 2 เรื่องมาต้มยำทำแกง แม้ว่าบางคนจะรู้สึกแขยงๆ กับหนังชุดนี้ แต่บอกเลยว่า..ภาคนี้มหัศจรรย์กว่าที่คิดไว้นะ เนื้อเรื่องย่อ หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด การเดินทางไขปริศนาอาการประหลาดของอาโคย นำพาเจ๊แต๋วไปยังหมู่บ้าน “สัปะหยด” สถานที่ห่างไกลผู้คน ที่นั่น เธอได้พบกับเบาะแสบางอย่าง ชวนให้สงสัยว่าวิญญาณร้ายอาจเป็นตัวการ แต่ระหว่างการสืบหาความจริง เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเจ๊แต๋วต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สุดสยอง ที่ท้าทายความกล้า แถม แพนด้า ผู้ช่วยคนสนิท ก็ดันหายตัวไปอย่างลึกลับ! วิกฤตครั้งนี้ เจ๊แต๋วจะสามารถเอาชนะและช่วยเหลือทุกคนได้อย่างไร? ติดตามความสนุกเต็มรูปแบบได้ในโรงภาพยนตร์ งานด้านโปรดักชั่นของหอแต๋วแตกไม่ได้โดดเด่นจนต้องชมมาก แต่ก็ไม่ได้แย่จนน่าเกลียด สมกับเป็นหนังตลกทุนไม่สูงนัก ฉากต่างๆ ส่วนใหญ่เน้นความเรียบง่าย แต่สิ่งที่พอจะดึงดูดความสนใจได้คือบรรยากาศความหลอนๆ ของหมู่บ้านสัปะหยด กับการใช้เอฟเฟกต์ประกอบฉากแบบง่ายๆ แต่ก็ได้ผลอยู่บ้าง สิ่งที่แฟนๆ น่าจะสนใจมากกว่าคือมุกตลกนี่แหละค่ะ ภาคนี้มีทั้งมุกแบบที่เคยเห็นจากภาคก่อนๆ และจังหวะใหม่ๆ เน้นฮาแบบคำหยาบ ตบหัวกันไปมา ซึ่งถูกใจคอหนังแนวนี้หรือไม่นั้น ก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนเลย

oppenheimer
หนัง

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer ออพเพนไฮเมอร์

ภาพยนตร์ Oppenheimer กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน เป็นหนึ่งในผลงานที่สะเทือนอารมณ์และทรงพลังมากที่สุดแห่งปี เรื่องราวบอกเล่าชีวประวัติของ “เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์” นักฟิสิกส์ผู้ได้รับฉายาว่า “บิดาแห่งระเบิดปรมาณู” ผ่านมุมมองอันซับซ้อนของบุรุษที่ต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์จากสิ่งที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้น ตัวภาพยนตร์ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงตามเวลา สลับระหว่างเหตุการณ์ในอดีตและการไต่สวนในอนาคต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับโนแลน นอกจากจะเล่าเรื่องการทดลองระเบิดในโครงการแมนฮัตตันแล้ว ยังเจาะลึกจิตใจของตัวละครออพเพนไฮเมอร์ ว่าเขาต้องแบกรับความรู้สึกผิด ความสับสน และความหวาดหวั่นต่อสิ่งที่เขาได้ปลดปล่อยออกมา สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นไม่ใช่แค่การสร้างภาพฉากระเบิด หรือการใช้เทคนิคพิเศษ แต่คือบทสนทนาอันเฉียบคมและการแสดงอันลึกซึ้งของ Cillian Murphy ในบทของออพเพนไฮเมอร์ เขาสื่ออารมณ์ของตัวละครได้อย่างละเอียดละเมียด ไม่ว่าจะเป็นฉากของความอึดอัดในห้องประชุม ฉากหวาดกลัวเมื่อได้ยินเสียงปรมาณูถล่มญี่ปุ่น หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่เขานิ่งเงียบแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกภายใน ดาราสมทบก็ไม่ธรรมดา เช่น Robert Downey Jr. ที่พลิกบทบาทจากโทนี่ สตาร์ก มารับบท ลูอิส สเตราส์ ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งสุขุม เฉียบขาด และเต็มไปด้วยมิติ ขณะที่ Emily Blunt ในบทภรรยาของออพเพนไฮเมอร์ ก็ช่วยขับเน้นด้านชีวิตส่วนตัวที่สั่นคลอนของเขาได้อย่างชัดเจน แม้จะมีความยาวถึง 3 ชั่วโมง แต่การตัดต่อและการวางจังหวะเรื่องทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อ ความเข้มข้นของบทสนทนาและบรรยากาศในเรื่องผลักดันให้คนดูไม่อาจละสายตาได้

Scroll to Top