การ์ตูน

อนิเมะญี่ปุ่น Sweetness & Lightning
การ์ตูน, ซีรี่ส์

รีวิว อนิเมะญี่ปุ่น Sweetness & Lightning

อนิเมะเรื่อง Sweetness & Lightning (หรือในชื่อญี่ปุ่น Amaama to Inazuma) เป็นอนิเมะแนว Slice of Life ที่อบอุ่นหัวใจ ผสมผสานเรื่องราวการเลี้ยงลูก การทำอาหาร และการเยียวยาจิตใจ โดยมีเนื้อเรื่องหลักดังนี้โคเฮย์ อินุสึกะ เป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมปลายที่ต้องรับบทเป็น คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตไปได้ครึ่งปี เขาพยายามเลี้ยงดู สึมุกิ ลูกสาวตัวน้อยวัยอนุบาลอย่างสุดความสามารถ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่ถนัดเอาเสียเลยคือ การทำอาหาร ทำให้สึมุกิได้แต่ทานข้าวกล่องสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้ออยู่บ่อยครั้ง ซึ่งโคเฮย์ก็เริ่มรู้สึกเป็นกังวลว่าลูกสาวของเขาจะไม่ได้ทานอาหารที่มีประโยชน์และสดใหม่ การเริ่มต้นของ มื้ออาหารร่วมกันวันหนึ่ง ขณะที่โคเฮย์พาสึมุกิไปชมดอกซากุระ ทั้งคู่ก็ได้พบกับ โคโทริ อิดะ นักเรียนหญิงของโคเฮย์เอง โคโทริกำลังนั่งทานข้าวปั้นที่คุณแม่ทำมาให้ และดูมีความสุขกับอาหารมาก ด้วยความประทับใจในท่าทีของสึมุกิที่อยากทานอาหารอร่อยๆ โคโทริจึงชวนโคเฮย์และสึมุกิไปที่ร้านอาหารของแม่เธอเมื่อไปถึงร้าน ทั้งสามคนก็พบว่าร้านปิดอยู่ เนื่องจากแม่ของโคโทริ ซึ่งเป็นเชฟชื่อดัง มักจะยุ่งกับงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเปิดร้าน โคโทริผู้รู้สึกเหงาที่ต้องทานอาหารคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง จึงเอ่ยปากชวนโคเฮย์และสึมุกิมาทำอาหารและทานข้าวด้วยกันที่ร้าน การเรียนรู้และเติบโตผ่านการทำอาหารจากจุดเริ่มต้นนี้เอง มื้ออาหารร่วมกัน ของโคเฮย์ สึมุกิ และโคโทริ ก็เริ่มต้นขึ้น โคเฮย์ผู้ไม่เคยทำอาหารจริงจังมาก่อน ได้เรียนรู้การทำอาหารพื้นฐานจากโคโทริ ซึ่งแม้จะเป็นลูกสาวเจ้าของร้านอาหาร แต่ก็ไม่ได้เก่งเรื่องการทำอาหารนัก […]

การ์ตูน

Lamput แปลงร่างซ่ากับภารกิจสุดป่วน

แอนิเมชันแนวมินิมอลแบบไร้บทพูด ที่สร้างโดยนักสร้างสรรค์ชาวอินเดีย Vaibhav Kumaresh และออกฉายผ่านช่อง Cartoon Network Asia รวมถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Warner Bros อย่าง Lamput จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องแบบไร้คำพูด แต่ใช้ภาพ เสียง และแอนิเมชันที่ลื่นไหลเพื่อสื่ออารมณ์และเนื้อหาได้อย่างเข้าใจง่าย สนุก และสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้ทุกวัยเรื่องราวของแลมพุชโฟกัสไปที่ตัวละครหลักที่มีชื่อเดียวกับเรื่อง นั่นก็คือ แลมพุต ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับสีส้มคล้ายเมือกหรือน้ำสลายตัวได้ มีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ สัตว์ สิ่งของ หรือแม้แต่คน แลมพุตหนีออกมาจากห้องทดลองลับของนักวิทยาศาสตร์สองคนที่รู้จักกันในชื่อ Fat Doc (นักวิทยาศาสตร์อ้วน) และ Slim Doc (นักวิทยาศาสตร์ผอม) ซึ่งทั้งสองคนนี้พยายามจับแลมพุตกลับไปที่ห้องทดลองอยู่ตลอดเวลา แต่ละตอนของการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวการไล่ล่าระหว่างแลมพุตกับนักวิทยาศาสตร์สองคนนั้น โดยแลมพุตจะใช้ความสามารถในการแปลงร่างเพื่อหลบหนี ในขณะที่สองนักวิทยาศาสตร์ก็มักจะมีแผนการใหม่ ๆ มาไล่ตามจับ แลมพุตอยู่เสมอ ซึ่งสุดท้ายก็มักจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทั้งคู่ในรูปแบบตลก ๆ และเหนือความคาดหมายด้วยความที่ไม่มีบทพูด การเล่าเรื่องจึงพึ่งพาการเคลื่อนไหวของตัวละคร เสียงประกอบ และจังหวะในการสร้างมุกตลก ทำให้เหมาะสำหรับผู้ชมทั่วโลก ไม่จำกัดภาษา และไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานวัฒนธรรมอินเดียก็สามารถเข้าใจได้ การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก และยังเคยเข้าชิงรางวัลในเวทีระดับนานาชาติ

อนิเมะจีนเทพเซียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน (Douluo Dalu)
การ์ตูน

อนิเมะจีนเทพเซียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน (Douluo Dalu)

เป็น อนิเมะจีนแฟนตาซี ที่เล่าเรื่องราวของถังซาน ศิษย์ฝ่ายนอกของนิกายถัง ผู้แอบศึกษาคัมภีร์ลับของนิกายเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง แต่เมื่อความลับถูกเปิดเผย เขาเลือกจบชีวิตตัวเองที่หุบเหวมรณะ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่จุดจบ ถังซานได้เกิดใหม่ในโลกที่เรียกว่า “Soul Land” ดินแดนแห่งพลังวิญญาณ ที่ไม่มีเวทมนตร์หรือวิชาการต่อสู้แบบดั้งเดิม แต่ใช้พลังวิญญาณในการต่อสู้ ถังซานต้องใช้ความรู้จากชีวิตก่อนหน้าเพื่อฝึกฝนและก้าวสู่การเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบใหม่นี้ ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน เป็นการผจญภัยของถังซานเต็มไปด้วยการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น การพัฒนาตัวละคร และมิตรภาพที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น อนิเมะเรื่องนี้โดดเด่นด้วยงานภาพ 3D ที่สวยงามและฉากต่อสู้ที่อลังการ รวมถึงการถ่ายทอดปมดราม่าของตัวละครที่ทำให้ผู้ชมติดตามได้ไม่เบื่อ ความฉลาดและความมุ่งมั่นของถังซานทำให้เรื่องนี้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ที่รักอนิเมะแนวบ่มเพาะพลังและการเติบโตจากผู้อ่อนแอสู่ผู้แข็งแกร่ง เนื้อเรื่อง ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน เป็นเรื่องราวของ ถังซาน ศิษย์นิกายฝ่ายนอกของสำนักถัง เพื่อเติมเต็มความอยากรู้ของตัวเอง จึงได้ละเมิดกฎของสำนักด้วยการเข้าไปศึกษาคำภีร์ของสำนักถัง เมื่อถูกจับได้ถังซานยอมรับผิดพร้อมกับขอจบชีวิตตนเองและขอสลายกลายเป็นเถ้ากระดูก และกลับชาติมาเกิดในดินแดนโต้หลัว ดินแดนแห่งพลังวิญญาณ ว่ากันว่าดินแดนนี้ ช่วงที่กำลังเติบโตจะสามารถปลุกพลังอยากหนึ่งขึ้นมาได้ เรียกว่าวิญญาณยุทธ์ ถังซานเกิดมาพร้อมกับพลังวิญญาณสมบูรณ์แต่กำเนิดและมีวิญญาณยุทธ์คู่ซึ่งเป็นวิญญาณยุทธ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 100 ปี คือ ค้อนเฮ่าเทียน และ หญ้าเงินคราม (วิญญาณยุทย์ขยะ ที่หาได้ทั่วไป) เด็กน้อยถังซานเติบโตมากับ ถังเฮ่าพ่อขี้เมาในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หลังจากที่พ่อของเขาได้รู้ว่าถังซานมีวิญญาณยุทธ์คู่จึงขอให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและให้ใช้เพียงแค่วิญญาณยุทธ์หญ้าเงินครามเท่านั้น วันหนึ่งถังซานก็ได้มีโอกาสไปเรียนที่โรงเรียนฝึกวิญญาณยุทธ์

Turbo
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Turbo

Turbo หรือที่ในชื่อไทยคือ “เทอร์โบ หอยทากซิ่งสายฟ้า” เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันจาก DreamWorks Animation ที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่เรื่องราวสุดเหนือจริงของทากสวนธรรมดาๆ ตัวหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแข่งรถผู้ยิ่งใหญ่ ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานความน่ารักของตัวละครเข้ากับฉากแอ็กชันสุดระทึกได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นหนังที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับ ธีโอ หอยทากที่มีความหลงใหลในความเร็ว เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูการแข่งขันรถยนต์และจินตนาการว่าตัวเองกำลังโลดแล่นในสนามแข่ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของหอยทากตัวอื่นๆ ในสวน โดยเฉพาะพี่ชายที่ชื่อ เช็ต ผู้มีชีวิตอยู่เพื่อความปลอดภัยและกฎระเบียบ แต่แล้วชีวิตของธีโอก็พลิกผันเมื่อเขาพลัดตกลงไปในเครื่องยนต์ของรถแข่งและได้รับพลังพิเศษที่ทำให้เขามีความเร็วเหนือทากปกติทั่วไป พลังนี้เองที่เปลี่ยนธีโอให้กลายเป็น เทอร์โบ หอยทากผู้ไม่ธรรมดา และเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยอันเหลือเชื่อของเขา สิ่งที่ทำให้ Turbo น่าสนใจคือการนำเสนอประเด็นเรื่อง ความฝันที่ยิ่งใหญ่เกินตัว และ การก้าวข้ามขีดจำกัด ของตัวเอง เทอร์โบไม่ได้เป็นแค่หอยทากที่มีความเร็ว แต่เขากลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มคนชายขอบที่ถูกมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพ่อค้าในศูนย์การค้าที่ใกล้จะเจ๊ง หรือแม้แต่หอยทากตัวอื่นๆ ที่เริ่มเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นเมื่อเห็นเทอร์โบไล่ตามความฝันของเขา ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเราจะเล็กหรือธรรมดาแค่ไหน หากเรามีความมุ่งมั่นและความกล้าหาญที่จะเดินตามความฝัน ทุกอย่างก็เป็นไปได้ นอกจากเนื้อเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจแล้ว ภาพยนตร์ยังเต็มไปด้วย ตัวละครที่มีสีสัน และมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นเช็ต พี่ชายจอมขี้กลัวแต่รักน้อง, ทิโต พ่อค้าทาโก้ผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองเห็นศักยภาพในตัวเทอร์โบ, และแก๊งหอยทากนักซิ่งสุดเกรียนที่มาพร้อมกับบุคลิกเฉพาะตัว การรวมกลุ่มของตัวละครเหล่านี้สร้างความตลกขบขันและเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้า โดยเฉพาะมิตรภาพและความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นระหว่างเทอร์โบและผองเพื่อน งานภาพของ DreamWorks Animation ไม่เคยทำให้ผิดหวัง Turbo นำเสนอฉากการแข่งขันที่เต็มไปด้วย ความเร็ว แสงสี และรายละเอียดที่น่าทึ่ง แม้จะเป็นแอนิเมชัน แต่ก็สามารถถ่ายทอดความตื่นเต้นของการแข่งขันรถยนต์ได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับกำลังนั่งอยู่ขอบสนามแข่งจริงๆ โดยรวมแล้ว Turbo เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ให้ความบันเทิงครบครัน ทั้งความตลกขบขัน ฉากแอ็กชันสุดมันส์ และเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจ มันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าบางครั้งฮีโร่ตัวเล็กๆ ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ

คุณอาเรียโต๊ะข้างๆ พูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย
การ์ตูน, ซีรี่ส์

รีวิว อนิเมะ คุณอาเรียโต๊ะข้างๆ พูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย

อนิเมะเรื่อง คุณอาเรียโต๊ะข้างๆ พูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า โรเซียเดเระ (Roshidere) เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ในรั้วโรงเรียน ที่เน้นไปที่ความสัมพันธ์น่ารักๆ ระหว่างหนุ่มสาวคู่หนึ่ง โดยมีภาษาและวัฒนธรรมรัสเซียเข้ามาเป็นลูกเล่นสำคัญเรื่องราวโฟกัสไปที่ คุเซะ มาซาจิกะ เด็กหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาๆ ที่ไม่ค่อยมีแรงจูงใจในการเรียนเท่าไหร่ ชอบใช้ชีวิตสบายๆ ไปวันๆ แต่เขากลับมีความสามารถพิเศษที่คนทั่วไปไม่มี นั่นคือ เขาสามารถเข้าใจภาษารัสเซียได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยบอกใคร วันหนึ่ง มาซาจิกะ ได้นั่งโต๊ะข้างๆ กับ อาลิซ่า มิคาเอลอฟนา คุโจว หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาเรีย เธอเป็นนักเรียนสาวสวยลูกครึ่งรัสเซีย-ญี่ปุ่น ผู้เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ทั้งหน้าตาดี เรียนเก่ง ได้คะแนนสูงสุดของชั้น เป็นที่นิยมของคนทั้งโรงเรียน และยังเป็นถึงสมาชิกสภานักเรียนอีกด้วย ด้วยความที่เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและมักจะแสดงท่าทีเย็นชาต่อมาซาจิกะอยู่เสมอ ทำให้ภาพลักษณ์ของเธอในสายตาคนทั่วไปดูเข้าถึงยาก เมื่อภาษารัสเซียกลายเป็นรหัสลับสิ่งที่ทำให้เรื่องราวสนุกและน่าติดตามคือ อาเรียมักจะบ่นหรือแสดงความรู้สึกในใจออกมาเป็นภาษารัสเซีย โดยที่เธอคิดว่าไม่มีใครเข้าใจ และนั่นทำให้เธอมักจะเผลอพูดอะไรที่ขัดกับภาพลักษณ์เย็นชาของตัวเองออกมา ไม่ว่าจะเป็นการบ่นถึงความขี้เกียจของมาซาจิกะ การแอบชื่นชมเขา หรือแม้กระทั่งการแสดงอาการ เดเระ อ่อนโยน, เขินอาย ออกมาเล็กน้อยในภาษารัสเซียแน่นอนว่า มาซาจิกะได้ยินและเข้าใจทุกคำพูดของเธอ แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ และแอบสนุกกับการที่ได้เห็นด้านที่ซ่อนอยู่ของอาเรีย เป็นความลับเล็กๆ

การ์ตูน

Chowder ครัววุ่นชุลมุนของเชาเดอร์

การ์ตูนแอนิเมชันแนวคอมเมดี้ที่ออกฉายทางช่อง Cartoon Network ผลงานสร้างโดย C.H. Greenblatt อย่าง Chowder เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดและอาหารสุดสร้างสรรค์ ตัวเอกของเรื่องคือเชาเดอร์เด็กชายตัวกลมสีม่วงผู้มีความฝันอยากเป็นพ่อครัวมือหนึ่งแห่งเมือง Marzipan City เขาทำงานเป็นลูกมืออยู่ที่ร้านอาหารของมุงดาล พ่อครัวสูงวัยผู้เป็นทั้งครูและเจ้านายของเขา เชาเดอร์เป็นเด็กที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ เขามักเผลอกินส่วนผสมต่างๆ ขณะทำอาหาร และก่อเรื่องวุ่นวายให้มุงดาลกับชิฟ (Shnitzel) ผู้ช่วยอีกคนของร้านอยู่เสมอ ถึงแม้จะซุ่มซ่ามและขี้ลืม แต่เชาเดอร์ก็มีความตั้งใจจริงและหัวใจที่อบอุ่น โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับอาหารที่มีชีวิต เวทมนตร์แปลกประหลาด หรือแขกที่คาดไม่ถึง ตัวละครอื่นที่มีสีสันในเรื่อง เช่น ปานินี (Panini) เด็กสาวกระต่ายที่หลงรักเชาเดอร์อย่างออกนอกหน้า ถึงแม้เชาเดอร์จะบอกว่า “ฉันไม่ใช่แฟนเธอ!” อยู่ตลอดเวลา และยังมี เกซปาโช่ (Gazpacho) แม่ค้าขายผลไม้ที่มักให้คำแนะนำแบบแปลกประหลาด จุดเด่นของการ์ตูน Chowder อยู่ที่รูปแบบภาพที่หลุดกรอบ มีการผสมผสานระหว่างแอนิเมชันแบบ 2 มิติ 3 มิติ และภาพถ่ายจริง เสียงพากย์และมุกตลกก็นำเสนอได้อย่างแหวกแนว ไม่ยึดตามสูตรสำเร็จ การ์ตูนยังมีการทำลายกำแพงที่สี่ (Breaking the fourth wall) อยู่บ่อยครั้ง เช่น

See You Tomorrow at the Food Court (เจอกันพรุ่งนี้ที่ฟู้ดคอร์ท)
การ์ตูน

See You Tomorrow at the Food Court (เจอกันพรุ่งนี้ที่ฟู้ดคอร์ท)

วาดะและยามาโมโตะแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงคือการยอมรับตัวตนของกันและกัน แม้จะมีภาพลักษณ์ที่ต่างกันสุดขั้ว เป็น อนิเมะ เน้นการนั่งคุยในฟู้ดคอร์ทที่เต็มไปด้วยบทสนทนาสนุกๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความชิล เรื่องนี้แอบเล่าถึงความกดดันจากสังคมและการค้นหาตัวตนในแบบที่วัยรุ่นหลายคนจะอิน ถ้าคุณชอบพล็อตซับซ้อน อาจรู้สึกว่ามันชิลเกินไป แต่ถ้าชอบตัวละครที่มีเคมีดี คุณจะหลงรักแน่นอน จุดเด่นของ เจอกันพรุ่งนี้ที่ฟู้ดคอร์ท คือความสัมพันธ์ของวาดะและยามาโมโตะที่ทั้งขัดแย้งและเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด วาดะที่ดูเป็นเด็กเรียนแสนดี แต่กลับกลายเป็น “เกมเมอร์จอมโว” ที่พร้อมถล่มคู่ต่อสู้ในเกมมือถือด้วยคำพูดแสบๆ ส่วนยามาโมโตะที่ดูเป็นสาวกยารุสุดเปรี้ยว กลับหลงใหลในเรื่องลี้ลับอย่างสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือคริปทิด และมักจะลอยไปกับความคิดปรัชญาเกี่ยวกับจักรวาล ความแตกต่างนี้ทำให้ทั้งคู่มีเคมีที่ลงตัว บทสนทนาของพวกเธอเต็มไปด้วยการแซวกันแบบเพื่อนซี้ที่รู้ใจกันดี ซึ่งทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้นั่งฟังเพื่อนเม้าท์เรื่องสนุกๆ สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งสองคนตระหนักถึงภาพลักษณ์ที่สังคมมองพวกเธอ วาดะเลือกที่จะเล่นตามบทเด็กเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ในขณะที่ยามาโมโตะยอมรับความเสี่ยงจากการเป็นตัวของตัวเอง เช่น การย้อมผมที่อาจทำให้หางานพาร์ทไทม์ยากขึ้น การที่ทั้งคู่มีฟู้ดคอร์ทเป็น “เซฟโซน” ที่ได้ปลดปล่อยตัวตนทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ มันเหมือนเป็นการบอกว่าไม่ว่าโลกภายนอกจะตีกรอบเรายังไง การมีเพื่อนที่ยอมรับเราในแบบที่เราเป็นมันมีค่ามากแค่ไหน คุณเคยมีสถานที่หรือเพื่อนที่ทำให้รู้สึกเป็นตัวเองได้เต็มที่บ้างไหม? เรื่องนี้จะพาคุณย้อนนึกถึงโมเมนต์แบบนั้น See You Tomorrow at the Food Court เป็นอนิเมะที่เรียบง่ายสุดๆ ไม่มีชมรม ไม่มีงานอดิเรกหลัก ไม่มีเป้าหมายใหญ่โต แค่สองสาวนั่งคุยกันในฟู้ดคอร์ท ซึ่งนี่คือทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของเรื่อง สำหรับคนที่ชอบอนิเมะแนว สไลซ์ออฟไลฟ์ ความเรียบง่ายนี้อาจจะเหมือนได้พักผ่อนในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่สำหรับบางคน การดูสองสาวนั่งเม้าท์กันทั้งตอนอาจจะรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทีมงานพยายามใส่ลูกเล่นภาพ

Zootopia
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Zootopia

Zootopia ของ Disney ไม่ใช่แค่การ์ตูนสำหรับเด็กธรรมดา แต่เป็นผลงานที่ฉลาดเฉลียวและเต็มไปด้วยความลุ่มลึกที่สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ตัวภาพยนตร์นำเสนอโลกที่สัตว์ทุกชนิดอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า ซึ่งสร้างฉากหลังที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจประเด็นทางสังคมที่ซับซ้อนอย่างแยบยล การผสมผสานระหว่างภาพเคลื่อนไหวที่สวยงาม เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และข้อคิดที่กินใจ ทำให้ Zootopia กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชันที่โดดเด่นที่สุดในรอบหลายปี เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ จูดี้ ฮอปส์ กระต่ายสาวผู้เปี่ยมด้วยความฝันและความมุ่งมั่น ต้องการเป็นตำรวจคนแรกที่เป็นสัตว์กินพืชในเมืองซูโทเปีย เมืองที่ใหญ่โตและเต็มไปด้วยโอกาส แต่เธอกลับต้องเผชิญกับอคติและการดูถูกจากเพื่อนร่วมงานที่เป็นสัตว์ผู้ล่าตัวใหญ่กว่า การต่อสู้ของจูดี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองสะท้อนถึงการดิ้นรนของบุคคลที่ถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือภูมิหลังของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเธอต้องร่วมมือกับ นิค ไวลด์ สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เพื่อไขปริศนาคดีสัตว์ที่หายตัวไป การผจญภัยของทั้งคู่ก็เผยให้เห็นถึงความจริงที่น่าตกใจเบื้องหลังภาพลวงตาของเมืองที่สมบูรณ์แบบ สิ่งที่ทำให้ Zootopia แตกต่างคือการที่ภาพยนตร์ไม่ได้กลัวที่จะแตะต้องประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่าง อคติทางเชื้อชาติ การเหมารวม และการเลือกปฏิบัติ ผ่านการเปรียบเทียบระหว่างสัตว์ผู้ล่าและผู้ถูกล่า ผู้ชมจะได้เห็นว่าการตัดสินผู้อื่นจากลักษณะเฉพาะกลุ่มสามารถนำไปสู่ความแตกแยกและความหวาดระแวงได้อย่างไร บทสนทนาและสถานการณ์ต่างๆ ในเรื่องถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างชาญฉลาดเพื่อสะท้อนความซับซ้อนของปัญหาสังคมเหล่านี้ โดยไม่ทำให้เนื้อเรื่องดูหนักเกินไปสำหรับเด็กๆ ซ้ำร้าย Zootopia ยังนำเสนอการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและการยอมรับความแตกต่างได้อย่างงดงาม นอกจากเนื้อหาที่ลึกซึ้งแล้ว Zootopia ยังโดดเด่นในด้านอื่นๆ ไม่แพ้กัน งานภาพ แอนิเมชัน มีความละเอียดอ่อนและสวยงามอย่างน่าทึ่ง การออกแบบตัวละครสัตว์แต่ละตัวมีความเป็นเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตั้งแต่ขนแต่ละเส้นของสัตว์ไปจนถึงรายละเอียดของอาคารและยานพาหนะในเมืองซูโทเปียล้วนถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน การพากย์เสียง ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม นักพากย์ถ่ายทอดอารมณ์และบุคลิกของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงของจูดี้และนิคที่สร้างเคมีที่ลงตัวและน่าติดตาม โดยรวมแล้ว Zootopia เป็นมากกว่าแค่การ์ตูนบันเทิง แต่เป็นผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยข้อคิดและแรงบันดาลใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้สอนให้เราเห็นถึงคุณค่าของการเปิดใจยอมรับความแตกต่าง การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และการไม่ตัดสินใครจากภายนอก เป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุก หัวเราะตามได้ และในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เราได้คิดตามไปพร้อมๆ กัน มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าภาพยนตร์แอนิเมชันสามารถเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการนำเสนอประเด็นทางสังคมที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่ม เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชมซ้ำๆ และจะยังคงอยู่ในใจของผู้คนไปอีกนาน

รีวิวการ์ตูนแอนิเมชั่น
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูน แอนิเมชั่น โดเรม่อน ตะลุยแดนมหัศจรรย์

การ์ตูนแอนิเมชั่นที่ครองใจผู้ชมอย่างเรื่อง โดเรม่อน ตะลุยแดนมหัศจรรย์ หรือชื่อเต็มว่า โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ โนบิตะบุกดินแดนมหัศจรรย์ เปโกะกับห้าสหายนักสำรวจ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์โดราเอมอนฉบับรีเมคที่นำเค้าโครงเรื่องเดิมจากปี 1982 กลับมาสร้างใหม่ โดยมีเนื้อเรื่องย่อดังนี้ จุดเริ่มต้นของการผจญภัย เปโกะ สุนัขปริศนาเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ โนบิตะ ที่มักจะโดนแม่บ่นเรื่องการเก็บสัตว์เลี้ยงจรจัด ได้พบกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่ดูผอมโซและน่าสงสาร เขาจึงแอบนำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน และตั้งชื่อให้มันว่า เปโกะ เปโกะเป็นสุนัขที่ฉลาดและแสนรู้ผิดปกติ มันสามารถเข้าใจคำสั่งและยังแสดงท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน ไจแอนท์ ก็เริ่มเห็นภาพหลอนประหลาดเกี่ยวกับ เทพเจ้าและดินแดนลึกลับ ทำให้เขาสงสัยและเริ่มพูดถึงการออกสำรวจพื้นที่ปริศนาในทวีปแอฟริกา โนบิตะและเพื่อนๆ อย่าง ชิซุกะ และ ซูเนโอะ ในตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อโดราเอมอนนำเครื่องมือวิเศษอย่าง แผนที่ขุมทรัพย์นำทาง ที่ชี้ไปยังสถานที่ปริศนาแห่งหนึ่งในป่าลึกของแอฟริกา ทุกคนก็เริ่มสนใจและตัดสินใจออกเดินทางผจญภัยครั้งใหญ่การเดินทางสู่ดินแดนแห่งสุนัขแก๊งโดราเอมอนใช้ ประตูไปที่ไหนก็ได้ เพื่อเดินทางมาถึงป่าลึกของแอฟริกา การเดินทางเต็มไปด้วยอุปสรรค พวกเขาต้องเผชิญกับสัตว์ป่าอันตราย และสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แต่ด้วยความช่วยเหลือของโดราเอมอนและของวิเศษต่างๆ พวกเขาก็สามารถผ่านพ้นไปได้ระหว่างการเดินทาง เปโกะ แสดงท่าทีแปลกๆ และดูเหมือนจะคุ้นเคยกับป่าแห่งนี้เป็นพิเศษ มันนำทางทุกคนไปสู่สถานที่ที่ซ่อนเร้น นั่นคือ อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์สุนัข ที่สร้างอารยธรรมเป็นของตัวเอง สุนัขที่นี่สามารถยืนสองขา เดินเหมือนมนุษย์ พูดภาษาเดียวกับมนุษย์

การ์ตูน

Paw Patrol ผจญภัยเพื่อมิตรภาพและความดี

การ์ตูนแอนิเมชันสำหรับเด็กแนวผจญภัยที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่าง Paw Patrol โดยมีต้นกำเนิดจากประเทศแคนาดา ผลิตโดยบริษัท Spin Master และฉายครั้งแรกในปี 2013 เนื้อเรื่องติดตามภารกิจของทีมสุนัขกู้ภัยสุดน่ารักที่มีความสามารถเฉพาะตัวในการช่วยเหลือผู้คนในเมือง Adventure Bay โดยมีผู้นำทีมคือเด็กชายวัย 10 ขวบชื่อว่า ไรเดอร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลและวางแผนให้กับลูกทีมสุนัขทั้งหลายที่มีทักษะและอุปกรณ์เฉพาะตัว ทีมพาวพาโทรลประกอบไปด้วยลูกสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ เช่น “เชส” สุนัขตำรวจผู้รักในกฎระเบียบ, “มาร์แชล” นักดับเพลิงจอมซุ่มซ่าม, “สกาย” นักบินผู้กล้าหาญ, “รูบเบิล” วิศวกรขุดเจาะ, “ร็อกกี้” ผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิล และ “ซูมา” นักกู้ภัยทางน้ำ พวกเขาทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน ตั้งแต่การช่วยลูกแมวติดต้นไม้ การแก้เหตุฉุกเฉินบนภูเขา จนถึงภารกิจที่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการกู้ภัย โดยแต่ละตอนจะสอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม การเสียสละ ความรับผิดชอบ และการช่วยเหลือผู้อื่น จุดเด่นของพาวพาโทรล คือการผสมผสานระหว่างความสนุกของภารกิจสุดตื่นเต้นกับบทเรียนเชิงจริยธรรมสำหรับเด็ก ๆ ในแต่ละตอน เด็กจะได้เรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และการมีจิตใจที่ดีในการช่วยเหลือสังคม ผ่านตัวละครที่น่ารัก สีสันสดใส และบทพูดที่เข้าใจง่าย นอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กเล็กทั่วโลก Paw Patrol ยังขยายสู่สื่อรูปแบบอื่น เช่น ภาพยนตร์

Scroll to Top