ในเกม Clash Heroes การเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญของการเอาชนะศัตรู ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแรง การป้องกันแน่น หรือการสนับสนุนทีมฮีโร่แต่ละตัวมีสกิลและบทบาทเฉพาะตัวที่ช่วยให้ทีมมีความสมดุลและเพิ่มโอกาสชนะได้สูง ในบทความนี้เราจะมาแนะนำฮีโร่ที่เด่นและมีสกิลเก่ง ๆ พร้อมบอกบทบาทของแต่ละตัว เพื่อให้ผู้เล่นสามารถวางแผนจัดทีมได้อย่างชาญฉลาด
Aegis นักป้องกันที่แข็งแกร่ง
Aegis เป็นฮีโร่ประเภทแท็งก์ที่มีพลังชีวิตสูงและความสามารถในการป้องกันทีมได้อย่างยอดเยี่ยม สกิลเด่นของ Aegis คือ Shield Wall ที่สามารถสร้างโล่ขนาดใหญ่เพื่อดูดซับความเสียหายให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนรอบตัว ทำให้ทีมรอดจากการโจมตีหนัก ๆ ได้ นอกจากนี้สกิล ิยังทำให้ศัตรูโจมตี Aegis ก่อน จึงช่วยปกป้องตัวละครที่เปราะบางในทีมได้ดี
Blaze นักเวทไฟทำลายล้าง
Blaze เป็นฮีโร่สายโจมตีเวทที่ถนัดการโจมตีเป็นวงกว้าง สกิล Flame Burst ของเขาสามารถสร้างความเสียหายเวทแบบ AoE รอบตัวศัตรู และสกิล Inferno จะเพิ่มความเสียหายต่อศัตรูที่ติดสถานะไฟ ช่วยให้ Blaze เป็นตัวทำดาเมจหลักในทีม นอกจากนี้ Blaze ยังมีความสามารถในการเคลียร์มินเนี่ยนหรือศัตรูกลุ่มใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
Luna นักธนูสายคริติคอล
Luna เป็นฮีโร่สายโจมตีระยะไกลที่เน้นความแม่นยำและคริติคอลสูง สกิล Piercing Arrow สามารถยิงลูกศรทะลุศัตรูหลายตัวพร้อมกัน ทำให้เธอเหมาะกับการโจมตีศัตรูที่อยู่หลังแนวหน้า และสกิล Rapid Shot ช่วยเพิ่มอัตราการโจมตีอย่างรวดเร็ว ทำให้ Luna สามารถสร้างดาเมจต่อวินาทีสูงและกดดันฝ่ายตรงข้ามได้ตลอดเกม
Terra ฮีโร่สายซัพพอร์ตและรักษา
Terra เป็นฮีโร่สายสนับสนุนที่มีสกิลรักษาเพื่อนร่วมทีม สกิล Healing Wave จะฟื้นฟูพลังชีวิตให้เพื่อนรอบตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนสกิล Protective Aura จะเพิ่มความต้านทานต่อสถานะผิดปกติ เช่น สตั๊นหรือชะลอ ทำให้ทีมสามารถต่อสู้ได้นานขึ้น Terra จึงเหมาะกับทีมที่ต้องพึ่งพาการรอดชีวิตและต่อสู้ระยะยาว
Rogue นักลอบสังหารสายดาเมจสูง
เป็นฮีโร่ที่เน้นการโจมตีแบบรวดเร็วและเน้นเป้าหมายเดี่ยว สกิล Shadow Strike ทำให้เขาสามารถพุ่งไปโจมตีศัตรูจากด้านหลังพร้อมสร้างดาเมจแรง และสกิล Smoke Bomb จะทำให้ Rogue ล่องหนชั่วคราว เพิ่มโอกาสในการหลบหนีหรือโจมตีศัตรูอย่างรุนแรง Rogue เหมาะสำหรับการกำจัดศัตรูตัวสำคัญอย่างแม่นยำ