ซีรีส์แนวอาชญากรรม-ทริลเลอร์ที่สร้างโดย Derek Haas (จากแฟรนไชส์ Chicago และ FBI) อย่าง Countdown ออกฉายเฉพาะบน Prime Video ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2025 เรื่องเริ่มต้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (HSI) ถูกสังหารอย่างลึกลับกลางแจ้ง ทำให้ Mark Meachum (รับบทโดย Jensen Ackles – เป็นอดีตนักสืบ LAPD ที่กลายเป็นสายลับหน่วยพิเศษ) ถูกคัดเลือกเข้าร่วม ทีมผสมลับ ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานทั้ง HSI, FBI, DEA และ LAPD ในเบื้องต้น เป้าหมายของทีมคือจับตัวฆาตกรและคลี่คลายคดีเดียว แต่จากการสืบสวนไล่ตั้งแต่ร่างกายผู้เสียชีวิต เบาะแส และการเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรม พบว่าคดีนี้มีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับ เครือข่ายก่อการร้าย ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการ “นิวเคลียร์” ข่มขืนเมืองลอสแองเจลิส
ทีมที่รวมตัวว่าเป็นสมาชิกของ หน่วยปฏิบัติการลับ ประกอบด้วย:
- Nathan Blythe (Eric Dane) – ผู้นำสายปฏิบัติการ FBI ผู้แข็งแกร่งและเจ็บปวดในอดีต
- Amber Oliveras (Jessica Camacho) – เจ้าหน้าที่ DEA มือดี
- Evan Shepherd (Violett Beane) – ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไซเบอร์ของ FBI
- Keyonte Bell (Elliot Knight) – FBI สายต่อต้านผู้ก่อการร้าย
- Lucas Finau (Uli Latukefu) – นักสืบ LAPD รุ่นเก๋า ที่เคยร่วมมือกับ Meachum มาก่อนหน้านี้
เนื้อเรื่องดำเนินแบบ ระทึกใจแบบรายการทีวี (procedural thriller) ที่ผสมผสานแอ็คชันสไตล์ยุค 80–90 เช่น Die Hard หรือ Lethal Weapon กับแนวการเล่าเรื่องแบบซีรีส์กลุ่มทีม ซึ่งเรียกได้ว่าคือแนวทางของ Derek Haas ในการผสมความเคลื่อนไหวและพล็อตลึกลับเข้าด้วยกัน เปิดเรื่องด้วยฉากที่ Milo Ventimiglia ปรากฏตัวในฐานะเจ้าหน้าที่ HSI – ก่อนจะถูกยิงตายเป็นฉากจุดชนวนให้เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้น จากนั้นผู้ชมจะได้เห็นทีมปฏิบัติการเร่งคลี่ปม และวิ่งแข่งกับเวลาเพื่อหยุดแผนร้ายครั้งใหญ่
จุดเด่นของซีรีส์ Countdown
- นักแสดงนำคุณภาพระดับแถวหน้า Jensen Ackles (จาก Supernatural) รับบทนำในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษผู้แข็งกร้าวและเปี่ยมด้วยเสน่ห์ พร้อมด้วย Eric Dane (Grey’s Anatomy, Euphoria) และนักแสดงสมทบอย่าง Jessica Camacho, Violett Beane, Elliot Knight ฯลฯ ทุกคนมีประสบการณ์สายแอ็กชันและดราม่า ทำให้บทบาทมีมิติและน่าเชื่อถือ
- ความเข้มข้นของพล็อตแนว “แข่งกับเวลา” เนื้อเรื่องของ Countdown หมุนรอบแผนก่อการร้ายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน ทีมตัวละครต้องแข่งกับเวลาเพื่อหยุดยั้งหายนะที่อาจคร่าชีวิตผู้คนนับแสน ความรู้สึกเร่งรีบ ตื่นเต้น และมีเดิมพันสูง ทำให้ซีรีส์ดูได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่มีเบื่อ
- การสร้างทีม “รวมดาว” จากหลายหน่วยงาน รูปแบบคล้ายหนัง “รวมทีมฮีโร่” โดยแต่ละตัวละครมีจุดเด่นเฉพาะตัว เช่น มือเทคโนโลยี, นักวิเคราะห์, นักเจรจา หรือสายบู๊ ซึ่งนำเสนอการทำงานเป็นทีมที่หลากหลายแต่ลงตัว เพิ่มความลึกให้กับเรื่องราวและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร
