ใครจะคิดว่า Devil May Cry ซีรีส์เกมแอคชันสุดเพี้ยนจาก Capcom จะถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะทาง Netflix ได้อย่างสมบูรณ์แบบ? แน่นอนว่าความท้าทายไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะโลกของ Dante เต็มไปด้วยการต่อสู้สุดโอเวอร์ เดือดเลือดพล่าน และเนื้อเรื่องที่กระจัดกระจายเหมือนถูกสาป! แต่ Netflix และ Adi Shankar (ผู้อยู่เบื้องหลัง Castlevania) พิสูจน์แล้วว่าพวกเขารับมือได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้ตอนแรกอาจทำให้แฟนๆ เกมสะดุดกับทิศทางที่ต่างออกไปเริ่มต้นด้วยเพลง Limp Bizkit และบทสนทนาที่ดูแข็งๆ แต่ความอดทนจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า! ซีรีส์นี้ไม่เพียงเก็บรายละเอียดทุกอย่างที่ทำให้ Devil May Cry เป็นตำนาน แต่ยังเพิ่มมิติของตัวละครและเนื้อเรื่องให้ลึกซึ้งขึ้นผ่านการเล่าเรื่องแบบซีรีส์
และนี่ไม่ใช่แค่การตามหาคะแนน “SSS” ในเกมอีกต่อไป แต่คือการผจญภัยของ Dante และ Lady ที่ต้องร่วมมือกันปิดประตูนรกในนิวยอร์ก! ถ้าคุณพร้อมที่จะเห็นดาบ Rebellion ฟาดฟันปีศาจพร้อมอนิเมชันระดับ 4K แล้วล่ะก็ อย่ารอช้า!
เรื่องย่อ Devil May Cry
Netflix ใช้เวลาเกือบ 7 ปี ตั้งแต่ประกาศสร้างจนถึงวันปล่อยซีรีส์ Devil May Cry เวอร์ชันนี้ และมันสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่ผสมผสานระหว่างความบ้าคลั่งของเกมเดิมและพล็อตที่โดดเด่นในฐานะซีรีส์
จุดแข็งที่เห็นชัดคือ “การต่อสู้” ทุกฉากถูกออกแบบโดย สตูดิโอ Mir (เกาหลี) ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเกมจริงๆ แอนิเมชันลื่นไหล ดาบปาดเลือดปีศาจแบบมินิมอลแต่ทรงพลัง และการใช้มุมกล้องแบบไดนามิกช่วยให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเร็วและความรุนแรง
แต่สิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่ การ์ตูนแอคชัน ธรรมดาคือ การพัฒนาตัวละคร โดยเฉพาะ Lady (หรือ Mary ในซีรีส์) ที่ถูกขยายความหลังให้สมบูรณ์ผ่านตอนพิเศษที่แทบไม่มีบทพูด! นี่คือสิ่งที่เกมทำได้ยาก แต่ซีรีส์ทำได้อย่างยอดเยี่ยมJohnny Yong Bosch (นักพากย์ Dante จากเกม) กลับมาพากย์เสียง Dante อีกครั้ง แต่คราวนี้เขามีพฤติกรรมใกล้เคียงกับเวอร์ชัน DmC: Devil May Cry ของ Ninja Theory ทั้งอารมณ์ร้อนและความขี้เล่นที่บางครั้งก็เกินขอบเขต!
ส่วน Lady (Scout Taylor-Compton) นั้นเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบในฐานะคู่หูของ Dante เธอไม่เพียงเป็นนักสู้สุดแกร่ง แต่ยังเป็นตัวแทนของ “มนุษย์” ที่ต้องต่อสู้กับความกลัวและความไม่แน่นอนในโลกที่ปีศาจเริ่มรุกราน
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติจากศัตรูสู่พันธมิตร พร้อมบทสนทนาสุดเสียดสีและโมเมนต์ที่ทำให้เห็นว่า Devil May Cry ไม่ได้มีแค่การฟันดาบ!
สตูดิโอ Mir ทำได้เกินคาด! ทุกการเคลื่อนไหวของ Dante จากท่าคอมโบสุดเริดไปจนถึงการยิงปืนแบบไม่ต้องเล็ง ถูกถ่ายทอดด้วยความละเอียดและความเร็วที่สมบูรณ์แบบ เพลงประกอบก็เป็นอีกจุดเด่น ตั้งแต่ Limp Bizkit ในตอนต้นจนถึงเพลงโอเวอร์ไทม์สุดดราม่า ที่ช่วยขับเน้นอารมณ์ในฉากสำคัญ
Devil May Cry (2025) เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ว่าเกมแอคชันสามารถแปลงเป็นซีรีส์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าคุณชอบการต่อสู้สุดมัน ตัวละครทรงเสน่ห์ และพล็อตที่ค่อยๆ เผยความลับ นี่คือซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาด!
