การเปิดตัวตัวละครใหม่ล่าสุดใน Dragon Ball Legends มักจะนำมาซึ่งการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในสมรภูมิ PvP และยูนิตระดับ LEGENDS LIMITED (LL) หรือ ULTRA ตัวล่าสุดนี้ก็เป็นไปตามคาด ด้วยชุดความสามารถที่ออกแบบมาเพื่อท้าทายและบิดเบือนกฎของเมต้าปัจจุบัน ตัวละครนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน่วยโจมตีที่รุนแรงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับกลไกเฉพาะตัวที่เปิดมิติใหม่ของกลยุทธ์การเล่น
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ Unique Gauge ที่มีความซับซ้อนและเปี่ยมประสิทธิภาพ เมื่อเกจนี้ถูกเติมเต็ม มันจะปลดล็อกสถานะพิเศษที่มอบทั้งการป้องกันที่แข็งแกร่งและการสวนกลับที่รุนแรง การเติมเกจนี้ไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ แต่ต้องอาศัยการเล่นอย่างชาญฉลาด เช่น การใช้ Vanish Step ในจังหวะที่เหมาะสม, การดูดซับการโจมตีบางประเภท, หรือการใช้ Special Arts Card เป็นจำนวนครั้งตามที่กำหนด ซึ่งสิ่งนี้เป็นการกระตุ้นให้ผู้เล่นต้องปรับเปลี่ยนจังหวะการต่อสู้และบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะเข้าโจมตี
ในด้านความสามารถในการต่อสู้ ตัวละครใหม่นี้มี Strike Arts และ Blast Arts ที่สร้างความเสียหายได้สูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ultimate Arts ของเขา/เธอ ที่มาพร้อมกับเอฟเฟกต์การทะลุทะลวงการ์ดป้องกัน (Penetrate Guard) และการเพิกเฉยต่อความสามารถในการฟื้นพลัง (Nullify Endurance) ของคู่ต่อสู้ ซึ่งหมายความว่าการโจมตีครั้งสุดท้ายนี้มีศักยภาพในการตัดสินเกมได้ในทันที
นอกจากนี้ ความสามารถของตัวละครยังถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแท็กทีมที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน เช่น Future หรือ God Ki ทำให้ทีมเหล่านั้นกลับมาเป็นที่นิยมและสามารถแข่งขันกับทีมชั้นนำอื่น ๆ ได้อย่างสูสี ผู้เล่นที่ต้องการครองบัลลังก์ใน Rating Match จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงการทำงานของเกจเฉพาะตัว การจับคู่กับ Equipment ที่เหมาะสม และช่วงเวลาที่ควรสลับตัวละครเข้ามาในสนามรบเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากชุดความสามารถอันทรงพลังนี้
นอกเหนือจากศักยภาพในการโจมตีที่รุนแรง ตัวละครใหม่นี้ยังถูกออกแบบมาให้เป็นยูนิตที่มีความยืดหยุ่นสูงในด้านการป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไก Cover Change ที่ไม่ได้เป็นเพียงการรับดาเมจแทนเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเอฟเฟกต์พิเศษที่เปลี่ยนกระแสการต่อสู้ได้ทันที เมื่อทำการ Cover Change สำเร็จ ตัวละครจะทำการลด Ki ของคู่ต่อสู้อย่างมหาศาล และในบางกรณีอาจทำการซีล Special Arts Card ของคู่ต่อสู้ชั่วขณะ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายเพื่อปิดฉากคอมโบได้ ซึ่งเป็นกลไกที่ทรงพลังในการขัดขวางจังหวะการบุกที่ต่อเนื่องและลดความกดดันต่อทีมลงได้อย่างมาก