เรื่อง “Get Away” เป็นหนังแนว สยองขวัญผสมตลก ที่มีเนื้อเรื่องพลิกความคาดหมายอย่างมากเรื่องราวเริ่มต้นด้วยครอบครัวชาวอังกฤษตระกูล “สมิธ” ที่ประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูกชายและลูกสาว พวกเขาเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะห่างไกลในประเทศสวีเดน เพื่อร่วมงานเทศกาลเก่าแก่ของชาวบ้าน ที่มีชื่อว่า “คอแรนแท็น” ทันทีที่ไปถึง พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างไม่เป็นมิตรจากชาวบ้าน ซึ่งดูไม่พอใจที่คนนอกอย่างพวกเขาเข้ามาในพื้นที่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ความตึงเครียดค่อยๆ เพิ่มขึ้น เมื่อครอบครัวสมิธต้องเจอกับเหตุการณ์ประหลาดและน่าขนลุกต่างๆ
การเผชิญหน้ากับชาวบ้านและเรื่องราวที่พลิกผัน
ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการแนะนำ ครอบครัวสมิธ ซึ่งประกอบด้วย ริชาร์ด พ่อผู้แสนดีแต่มีความซุ่มซ่าม, ซูซาน แม่ผู้มองโลกในแง่ดี, และลูกวัยรุ่นสองคนคือ แซม และ เจสซี่ พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะห่างไกลชื่อ สวัลตา ในประเทศสวีเดน เพื่อเข้าร่วมเทศกาลประจำปีที่ชื่อว่า คารันแทน ซึ่งมีรากฐานมาจากเหตุการณ์ในอดีตที่คนบนเกาะต้องเผชิญกับโรคระบาดและภาวะอดอยากเมื่อมาถึงเกาะ พวกเขากลับได้รับการต้อนรับอย่างเย็นชาจากคนในท้องถิ่นที่ดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย แม้จะมีคนพยายามเตือนให้พวกเขากลับไป แต่ครอบครัวสมิธก็ยังคงยืนยันที่จะพักอยู่ที่นั่น โดยหารู้ไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำมาซึ่งโศกนาฏกรรม
ในตอนแรก หนังทำให้ผู้ชมเชื่อว่าครอบครัวสมิธเป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์ พวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าสงสัยและน่าขนลุกต่างๆ ทั้งการโดนจับตามองจากคนบนเกาะ หรือการเจอซากสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้หน้าบ้าน สิ่งเหล่านี้ทำให้ความตึงเครียดของเรื่องค่อยๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้รู้ว่ามีฆาตกรต่อเนื่องแอบซ่อนตัวอยู่บนเกาะแห่งนี้ด้วยจุดหักมุมเมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงช่วงไคลแม็กซ์ เผยความจริงที่น่าตกใจอย่างสุดขีด ครอบครัวสมิธไม่ใช่ครอบครัวนักท่องเที่ยวผู้บริสุทธิ์ แต่พวกเขาคือกลุ่มฆาตกรต่อเนื่องที่รวมตัวกันเพื่อออกล่าเหยื่อ การเดินทางมายังเกาะสวัลตาครั้งนี้ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่เป็นการ “พักร้อนของนักฆ่า” ที่พวกเขาตั้งใจมาเพื่อสนองความกระหายในการสังหาร
การเปิดเผยนี้พลิกบทบาทของตัวละครทั้งหมด จากเหยื่อกลายเป็นผู้ล่า ทำให้หนังเปลี่ยนแนวจากสยองขวัญแบบไล่ล่า กลายเป็นเรื่องราวของการประจันหน้ากันระหว่างฆาตกรกับชาวบ้านที่ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อที่กำลังวางแผนบางอย่างเช่นกันในที่สุด ครอบครัวสมิธก็เปิดเผยธาตุแท้และเริ่มไล่สังหารชาวบ้านบนเกาะอย่างโหดเหี้ยมและสนุกสนาน พวกเขาลงมือฆ่าคนท้องถิ่นเกือบทั้งหมดและสร้างความโกลาหลไปทั่วเกาะตอนจบของเรื่อง เผยให้เห็นว่ามีตำรวจนายหนึ่งมายังเกาะเพื่อสืบสวนคดีที่เกิดขึ้น และด้วยความเป็นนักแสดงชั้นยอด ครอบครัวสมิธจึงแสร้งทำเป็นเหยื่อผู้รอดชีวิตที่ถูกทำร้ายจากคนบนเกาะ พวกเขาสามารถหลอกตำรวจได้สำเร็จและหลบหนีออกจากเกาะไปได้ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคือฆาตกรตัวจริงจึงเป็นภาพยนตร์ที่เล่นกับความคาดหวังของผู้ชมได้อย่างชาญฉลาด มันเริ่มต้นเหมือนหนัง Folk Horror ทั่วไป แต่จบลงด้วยการเป็นหนังตลกร้ายที่สะท้อนถึงด้านมืดของมนุษย์ได้อย่างแสบสันต์และไม่เหมือนใคร
จุดเด่นของหนังที่ทำให้เรื่องนี้แตกต่างและน่าสนใจ
- การพลิกแนวเรื่องอย่างสิ้นเชิง จุดเด่นที่สุดของเรื่องนี้คือการ พลิกแนวหนัง Horror-Comedy โดยสิ้นเชิง ในช่วงแรก หนังสร้างบรรยากาศเหมือนกับหนังแนว Folk Horror ทั่วไปที่ตัวละครถูกคุกคามโดยชาวบ้านในชนบท แต่กลับเปิดเผยว่าครอบครัวที่ดูเหมือนเหยื่อคือ ฆาตกรตัวจริง ทำให้ผู้ชมต้องประหลาดใจและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตัวละครไปโดยสิ้นเชิง การเปลี่ยนบทบาทจากเหยื่อมาเป็นผู้ล่า ทำให้หนังมีไดนามิกที่สดใหม่และคาดเดาไม่ได้
- อารมณ์ขันที่มืดหม่นและเลือดสาด หนังเรื่องนี้ผสมผสานความสยองขวัญเข้ากับอารมณ์ขันได้อย่างลงตัว ความตลกไม่ได้มาจากมุกตลกทั่วไป แต่มาจากการที่ตัวละครแสดงพฤติกรรมที่บ้าคลั่งและเกินจริงในสถานการณ์ที่โหดร้าย ฉากการฆ่าเต็มไปด้วยเลือดและความรุนแรง แต่กลับถูกนำเสนอด้วยลูกเล่นที่ชวนให้หัวเราะอย่างตลกร้ายทำให้หนังมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- การเสียดสีแนวคิดครอบครัวและสังคมยังเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนและเสียดสีแนวคิดเกี่ยวกับครอบครัวและสังคม การที่ครอบครัวสมิธมองการฆ่าคนเป็นเหมือน ‘กิจกรรมวันหยุด’ ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นการประชดประชันแนวคิดเรื่องการพักผ่อนและการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัวในรูปแบบที่บิดเบี้ยวสุดขีด นอกจากนี้ หนังยังเล่นกับแนวคิดที่ว่าคนที่เราเห็นเป็น ‘คนดี’ อาจมีความลับที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่
- ตัวละครที่ซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้แม้จะเป็นหนังที่มีความตลก แต่ตัวละครในเรื่องก็มีความซับซ้อนและมีมิติ ทั้งครอบครัวสมิธและชาวบ้านต่างมีความลับดำมืดและมีแรงจูงใจในการกระทำที่แตกต่างกัน ทำให้การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายไม่ได้มีแค่คนดีกับคนชั่ว แต่เป็นการเผชิญหน้ากันของตัวละครที่มีศีลธรรมคลุมเครือ ซึ่งทำให้เรื่องราวน่าติดตามจนถึงตอนจบ
บทสรุป
สำหรับหาร รีวิวหนัง เมื่อสถานการณ์พลิกผัน หนังก็กลายเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างครอบครัวสมิธกับชาวบ้านที่มีความสามารถในการเอาตัวรอดเกินคาด การเล่าเรื่องไม่ได้จำกัดแค่ความสยองขวัญ แต่ยังผสมผสานความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานภายในครอบครัวและความลับที่ดำมืดของตัวละครแต่ละตัวจึงเป็นบทสรุปของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการเสียดสีต่อแนวคิดเรื่องครอบครัวและความดีความชั่ว เป็นหนังที่ตั้งคำถามว่า ใครคือ “ตัวร้าย” ที่แท้จริง และนำเสนอความบันเทิงที่แปลกใหม่และน่าจดจำด้วยอารมณ์ขันที่มืดหม่นและฉากที่โหดร้ายแต่กลับชวนให้หัวเราะไปพร้อมกัน
ช่องทางรับชม: ตัวอย่างหนัง Get Away
หนังที่น่าดู : The Pursuit of Happyness ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
