Good News

ซีรีส์เกาหลี เรื่อง Good News

🙏 Good News (พลิกน่านฟ้าผ่าวิกฤติ): เมื่อการจี้เครื่องบินกลายเป็น ‘ตลกร้าย’ ที่คุณจะลืมไม่ลง คุณพร้อมหรือยังที่จะนั่งเครื่องบินโบอิ้ง 727 ย้อนกลับไปสู่ปี 1970 เพื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์สุดระทึกและปั่นป่วนที่สุดในประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่หนังแอ็กชันระทึกขวัญจี้เครื่องบินธรรมดา แต่มันคือ “Dark Comedy Satire” หรือหนังตลกสีดำเสียดสี ที่จะพาคุณไปสำรวจความวุ่นวาย เบื้องหลังปฏิบัติการลับระดับชาติ ด้วยมุมมองที่ทั้งคมคาย สนุกสนาน และน่าขบขันไปพร้อม ๆ กัน

 

💥Good News พล็อตเรื่องที่ ‘บ้า’ แต่ ‘มาจากเรื่องจริง’

เรื่องราวได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงในปี 1970 เมื่อกลุ่มหัวรุนแรง Red Army Faction ของญี่ปุ่นจี้เครื่องบินโดยสารเพื่อเรียกร้องให้บินไปยังเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นคือการสอดแทรก “ความเพี้ยน” และ “ความตลกร้าย” เข้าไปในสถานการณ์คอขาดบาดตาย

  • บนน่านฟ้า: ความตึงเครียดของการจี้เครื่องบินที่เต็มไปด้วยตัวประกัน
  • บนพื้นดิน: ปฏิบัติการลับสุดป่วนที่เต็มไปด้วยความพยายามในการช่วงชิงผลประโยชน์ทางการเมืองระหว่างชาติ โดยเฉพาะจากหน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ (KCIA) ที่มองวิกฤตนี้เป็น “โอกาส” ในการสร้างชื่อเสียงระดับโลก

💬 “ข่าวดี!” คือสิ่งที่ผู้อำนวยการ KCIA อยากได้ยินจากสถานการณ์นี้ แม้จะต้องหลอกล่อให้เครื่องบินลงจอดที่สนามบินกิมโพ (โซล) ซึ่งถูกแปลงโฉมให้เหมือน “เปียงยางปลอม ๆ” ด้วยฉากและพร็อพจากกองถ่ายหนัง! นี่คือจุดที่หนังยิงมุกเสียดสีได้อย่างสุดแสบ

 

Good News

🎭 ตัวละครที่ไม่ธรรมดา: คู่หูคู่ฮา (ที่มาพร้อมกับทักษะระดับเทพ)

องค์ประกอบที่ทำให้  น่าดึงดูดอย่างยิ่งคือการรวมตัวของนักแสดงมากฝีมือที่มารับบทบาทที่ซับซ้อนและมีเสน่ห์

นักแสดง บทบาท จุดเด่นของตัวละคร
ซอล คยองกู (Sul Kyung Gu) “Nobody” (นักแก้ไขปัญหาลึกลับ) ชายผู้ไม่เปิดเผยตัวตนที่ปรากฏตัวเมื่อเกิดวิกฤต มีทักษะการวางแผนระดับเซียน แต่เต็มไปด้วยปริศนา
ฮง คยอง (Hong Kyung) ซอ โกมยอง (ร้อยโทกองทัพอากาศ) ชายหนุ่มผู้ทะเยอทะยานที่ฝันอยากเป็น “วีรบุรุษแห่งชาติ” ต้องรับบทเป็นผู้หลอกล่อสลัดอากาศทางวิทยุ
รยู ซึงบอม (Ryoo Seung Bum) ผอ. พัค ซังฮยอน (ผู้อำนวยการ KCIA) ผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการลับทั้งหมด เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และมองทุกอย่างเป็นโอกาสทางการเมือง

การจับคู่ของ “Nobody ผู้เงียบขรึมแต่เฉียบคม และ “ซอ โกมยอง” ผู้เต็มไปด้วยไฟและความกระตือรือร้น (อยากเป็นฮีโร่จนตัวสั่น) สร้างพลวัตที่ทั้งตลกและตื่นเต้น การร่วมมือกันของพวกเขาเพื่อควบคุมวิกฤติให้เป็นไปตามแผนการที่บ้าบิ่น คือหัวใจสำคัญของเรื่อง

 

🎬 สไตล์การกำกับที่ ‘เหนือชั้น’ และ ‘ไม่เหมือนใคร’

ผู้กำกับ บยอน ซองฮยอน (Byun Sung-hyun) ซึ่งเป็นที่รู้จักจากหนังอย่าง Kingmaker และ The Merciless นำเสนอภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยสไตล์ที่รวดเร็ว กระฉับกระเฉง และเต็มไปด้วยพลังงาน การตัดต่อที่ฉับไว มุมกล้องที่ไม่ธรรมดา และการใช้ “Black Comedy” ที่เสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบ ทำให้ผู้ชมถูกดึงดูดเข้าสู่ความวุ่นวายตั้งแต่ต้นจนจบ

หนังไม่ได้มีแค่ความตลก แต่ยังแฝงคำถามที่คมคายเกี่ยวกับการเมือง สื่อ และการแสวงหาผลประโยชน์ท่ามกลางวิกฤต บทสรุปของเรื่องนี้อาจทำให้คุณทั้งขำ ขมขื่น และสะเทือนใจไปพร้อมกัน เพราะมันชี้ให้เห็นว่าบางครั้ง “ความดีงาม” หรือ “ความกล้าหาญ” ที่แท้จริง อาจถูกลบเลือนหรือถูกช่วงชิงไปโดยอำนาจและการเมือง

 

ทำไมคุณถึงไม่ควรพลาด 

คือหนังที่มอบประสบการณ์การรับชมที่ครบเครื่อง มันไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นผลงานศิลปะที่ฉลาดหลักแหลม

  • การผสมผสานที่ลงตัว: แอ็กชันระทึกขวัญที่มาพร้อมกับอารมณ์ขันและชั้นเชิงทางการเมือง
  • การแสดงระดับมาสเตอร์พีซ: ทีมนักแสดงหลักแบกเรื่องได้อยู่หมัด ทำให้ตัวละครมีมิติและน่าจดจำ
  • พล็อตที่คาดเดายาก: มีการหักมุมและพลิกผันตลอดทาง ทำให้คุณต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้
  • บทสรุปที่ชวนคิด: แม้จะจบลงอย่างมีความสุข (ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย) แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นกลับเต็มไปด้วยรสชาติอันขมขื่นของการเป็น “วีรบุรุษผู้ไม่ถูกกล่าวถึง”

หากคุณเบื่อหนังแอ็กชันสูตรสำเร็จ และกำลังมองหาหนังที่กล้าบ้าบิ่น ฉลาด และชวนให้หัวเราะทั้งน้ำตา (พลิกน่านฟ้าผ่าวิกฤติ) คือคำตอบที่คุณตามหา ดูจบแล้วคุณอาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า: “ในโลกของความเป็นจริง ข่าวดีกับข่าวร้าย…มันแยกกันได้จริงหรือ?”

Scroll to Top