รีวิว Helldivers 2 สาดกระสุน กางธงรบ เพื่อ “ประชาธิปไตย” (ที่เคลือบด้วยไบกอน!)หากคุณกำลังมองหาเกมแอ็กชันสุดมันส์ที่รวมเอาความโกลาหล เสียงหัวเราะ และการทำงานเป็นทีม (ที่พร้อมจะฆ่ากันเองได้ทุกเมื่อ) เข้าด้วยกัน Helldivers 2 จากค่าย Arrowhead Game Studios คือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในชั่วโมงนี้
สตูดิโอผู้สร้างและเบื้องหลังความมันส์
พัฒนาโดย Arrowhead Game Studios สตูดิโอสัญชาติสวีเดนที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำเกมแนว Hardcore Co-op ที่มาพร้อมกับอารมณ์ขันแบบร้าย ๆ (Black Comedy) และระบบ Friendly Fire (ยิงพวกเดียวกันเอง) ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยภาคนี้เป็นการก้าวกระโดดจากมุมมองแบบ Top-down (มองจากด้านบน) ในภาคแรก มาเป็นมุมมองบุคคลที่สาม (Third-person Shooter) ที่มอบประสบการณ์สมจริงและตื่นตาตื่นใจกว่าเดิมหลายเท่า

เนื้อเรื่องย่อ: สงครามเพื่ออิสรภาพ (หรือเปล่านะ?)
เนื้อเรื่องของเกมจะพาเราไปสู่ยุคที่มนุษยชาติอยู่ภายใต้การปกครองของ Super Earth ซึ่งยึดมั่นในอุดมการณ์ “ประชาธิปไตยที่มีการจัดการ” (Managed Democracy) เราจะได้รับบทเป็น Helldivers หน่วยรบพลีชีพสุดเท่ที่ได้รับภารกิจให้เดินทางไปยังดวงดาวต่าง ๆ ทั่วกาแล็กซี เพื่อ “ปลดปล่อย” พวกมันจากภัยคุกคามสองกลุ่มหลัก คือ Terminids (ฝูงแมลงยักษ์ที่พร้อมจะเขมือบคุณ) และ Automatons (กองทัพหุ่นยนต์สังหารไร้จิตใจ)
จุดเด่นที่ทำให้น่าติดตาม:
เสน่ห์ของเนื้อเรื่องไม่ใช่แค่การสู้รบ แต่คือการ เสียดสีล้อเลียน (Satire) การเมืองและโฆษณาชวนเชื่อแบบอเมริกันจ๋า ๆ ทุกอย่างในเกมถูกนำเสนอผ่านวิดีโอโฆษณาที่ดูเกินจริง ความฮึกเหิมแบบบ้าคลั่ง และประโยคเด็ดอย่าง “How about a nice cup of Liber-tea!” (รับชารสชาติแห่งอิสรภาพสักแก้วไหม!) ทำให้เราอินไปกับบทบาท “ทหารกล้า” ที่เหมือนหลุดมาจากหนัง Starship Troopers

จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้ “ต้องเล่น”
- ความโกลาหลที่คาดเดาไม่ได้: หัวใจหลักของเกมคือระบบ Stratagem หรือการเรียกกำลังสนับสนุนจากวงโคจร ไม่ว่าจะเป็นการปูพรมระเบิด, เรียกป้อมปืน หรือส่งอาวุธหนัก แต่ความพีคคือ “ระเบิดไม่เลือกหน้า” เพื่อนของคุณอาจจะโดนแอร์สไตรค์ที่คุณเรียกมาโดยบังเอิญ ซึ่งนำไปสู่โมเมนต์ฮา ๆ และความกดดันที่หาไม่ได้จากเกมอื่น
- สงครามระดับ Global: ทุกภารกิจที่เราทำจะส่งผลต่อ “เปอร์เซ็นต์การยึดครองดวงดาว” ของผู้เล่นทั้งโลก หากพวกเราช่วยกันทำภารกิจสำเร็จ ดวงดาวนั้นก็จะถูกปลดปล่อยจริง ๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายร่วมกัน
- งานภาพและเสียงที่สะใจ: เสียงปืนหนักแน่น แรงระเบิดที่ทำให้แผ่นดินสะเทือน และเอฟเฟกต์เลือดสาด (ทั้งเลือดแมลงและเลือดเรา) ถูกทำออกมาได้สวยงามและมีพลังมาก
ข้อดีที่คุณจะหลงรัก
- มิตรภาพ (และการหักหลัง): เกมนี้บังคับให้คุณร่วมมือกัน การแบ่งหน้าที่กันคุมปืนใหญ่หรือช่วยกันรีโหลดกระสุนสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น (ก่อนจะจบด้วยการเผลอโยนระเบิดใส่กัน)
- ระบบ Progress ที่เป็นมิตร: เกมนี้ไม่มีระบบเติมเงินเพื่อชนะ (Pay-to-Win) เงินที่เติมสามารถหาได้จากการเล่นจริง และไอเทมส่วนใหญ่เน้นความสวยงามหรือความหลากหลายมากกว่าความโกง
- ความท้าทายที่หลากหลาย: มีระดับความยากให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่เดินเล่นยิงแมลงขำ ๆ ไปจนถึงนรกบนดินที่ต้องอาศัยกลยุทธ์ขั้นสูง
สรุป: คุ้มค่าแก่การสละชีพไหม?
คือเกมที่มอบความสนุกแบบดิบ ๆ สะใจ และเข้าถึงง่ายสำหรับเพื่อนฝูง เป็นเกมที่สอนให้เรารู้ว่า “อิสรภาพไม่ได้มาฟรี ๆ แต่มันมาพร้อมกับฝูงแมลงยักษ์และระเบิดลูกใหญ่” หากคุณชอบเกมแอ็กชันที่เน้นทีมเวิร์คและมีมุกตลกเจ็บ ๆ เกมนี้คือภาคบังคับที่ต้องมีติดเครื่องครับ!




