ซีรีส์เรื่อง “It’s Alright, This is Love” (ชื่อไทย: ถ้ารักกัน…มันก็โอเค) เป็นผลงานที่โดดเด่นและได้รับการยกย่องอย่างมากในวงการซีรีส์เกาหลี เพราะกล้าที่จะนำเสนอประเด็นด้านสุขภาพจิตที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนได้อย่างเข้าถึงและเข้าใจง่าย โดยมีเนื้อเรื่องที่ผสมผสานความโรแมนติก ดราม่า และจิตวิทยาเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
เริ่มต้นเรื่องราวถ้ารักกันมันก็โอเค
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ จาง แจยอล นักเขียนนิยาย สืบสวนสอบสวนชื่อดังและดีเจรายการวิทยุสุดฮอต ที่ภายนอกดูเป็นคนมีเสน่ห์ โรแมนติก และเพอร์เฟกต์ แต่ภายในใจกลับมีบาดแผลฝังลึกจากเรื่องราวในวัยเด็กที่ทำให้เขาป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เขาไม่สามารถนอนบนเตียงได้ ต้องนอนในห้องน้ำเท่านั้น และมักจะมองเห็นภาพหลอนของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ ฮัน คังอู ซึ่งเป็นแฟนคลับของเขาและคอยติดตามเขาไปทุกที่ในขณะเดียวกันก็มี จี แฮซู จิตแพทย์ สาวผู้มีความสามารถและมั่นใจในตัวเองสูง แต่เธอกลับมีปมในใจเรื่องความสัมพันธ์ที่ทำให้เธอไม่กล้ามีรักและกลัวการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย เมื่อทั้งสองได้มาพบกันจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดพวกเขาจึงต้องมาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในบ้านเช่าที่มีเพื่อนร่วมอาศัยเป็นจิตแพทย์รุ่นพี่ โจ ดงมิน และคนไข้ที่มีอาการป่วยทางจิต พัค ซูกวัง (รับบทโดย อี กวางซู)การได้ใช้ชีวิตร่วมกันทำให้ แจยอล และ แฮซู ค่อยๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาผลัดกันรักษาบาดแผลในใจของอีกฝ่าย โดยที่ แจยอล
พยายามช่วยให้ แฮซู กล้าที่จะเปิดใจในเรื่อง ความรัก ส่วน แฮซู ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของ แจยอล และพยายามช่วยรักษาเขาในฐานะจิตแพทย์ แต่เมื่อความรักของทั้งคู่เบ่งบานมากขึ้น การรักษาจึงกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนขึ้นไปอีกจุดหักมุมที่สำคัญของเรื่องนี้คือการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ ฮัน คังอู ซึ่งไม่ใช่แค่แฟนคลับอย่างที่ แจยอล เข้าใจ แต่เป็นภาพหลอนที่เกิดจากบาดแผลในอดีตที่ฝังลึกและไม่ได้รับการรักษา ทำให้ แจยอล ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เจ็บปวดและต้องเข้ารับการรักษาอย่างจริงจังซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงแค่บอกเล่าเรื่องราวความรัก แต่ยังช่วยสร้างความเข้าใจและทัศนคติที่ดีต่อผู้ป่วยทางจิตเวช ช่วยให้ผู้ชมเห็นว่าโรคทางจิตเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ และสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดไม่ใช่การถูกตีตรา แต่คือความรัก ความเข้าใจ และกำลังใจจากคนรอบข้าง
บทสรุปและบทส่งท้าย
ในการ รีวิวซีรีส์ เรื่อง It’s Alright, This is Love ไม่ได้จบลงด้วยการบอกว่า “ความรักเอาชนะทุกสิ่ง” แต่เป็นบทสรุปที่สมจริงและกินใจกว่านั้นมาก มันสอนให้เราตระหนักว่าความรักคือการยอมรับซึ่งกันและกัน ยอมรับแม้กระทั่งบาดแผลที่อยู่ภายในใจของคนที่เรารักในตอนท้ายของเรื่องราว จาง แจยอล ไม่ได้หายจากอาการป่วยในทันที แต่เขายอมรับว่าตัวเองป่วยและเต็มใจที่จะเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง การที่เขาได้เผชิญหน้ากับความจริงที่เจ็บปวดในอดีต และการได้บอกลาภาพหลอนของ ฮัน คังอูคือก้าวสำคัญที่สุดของการเยียวยาส่วน จี แฮซู เธอสามารถเอาชนะความกลัวในเรื่องความสัมพันธ์ได้สำเร็จ และยืนหยัดอยู่เคียงข้าง แจยอล ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของเขา ความรักของพวกเขาเติบโตขึ้นจากความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่วคราวบทสรุปของซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นเหมือนการบอกเล่าเรื่องราวของ “ความรักที่สมจริง” ที่ไม่ได้สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความพยายาม และความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันได้มอบกำลังใจให้กับผู้ชมทุกคนว่า “ถึงแม้ชีวิตจะไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่เราก็สามารถรักและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้
ช่องทางรับชม: It’s Alright, This is Love
ซีรีส์แนะนำ: Jessica Jones ฮีโร่ที่ไม่สมบูรณ์แบบกับอดีตที่ตามหลอกหลอน