Lost Soul Aside เป็นเกมแนว แอ็กชัน-สวมบทบาท (Action-RPG) ผลงานของสตูดิโอ Ultizero Games (จากเซี่ยงไฮ้) และจัดจำหน่ายโดย Sony Interactive Entertainment เกมออกบน PS5 และ PC (ผ่าน Epic Games Store)ตัวเอกชื่อ Kaser มีภารกิจใหญ่: ปกป้องน้องสาว Louisa และกอบกู้มนุษยชาติจากเผ่าพันธุ์มิติที่เรียกว่า “Voidrax”นั่นแปลว่าเกมนี้คือ “แอ็กชันแฟนตาซีระทึก” — ไม่ได้แค่ฟันดาบสไลซ์ศัตรู แต่ต้องผ่านคอมโบ สลับอาวุธ จัดสกิล จับจังหวะให้แม่น
🎯 จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้น่าจับตามอง

1. ระบบต่อสู้ (Combat) แบบสไตล์จัดเต็ม
นี่คือหัวใจของเกมครับ — ระบบคอมโบลื่นไหล ผู้เล่นสามารถ สลับอาวุธกลางคอมโบ (weapon swapping) ได้ (เช่น ดาบ, ดาบใหญ่, หอก, เคียว) เพื่อสร้างรูปแบบการโจมตีที่หลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีท่า “จบคอมโบ” แบบ Burst Pursuit, ระบบปัดป้อง (parry) และการหลบที่ให้ฟีล “ช้าหน่วงเวลา (Witch Time–แบบเหมือน saint) ” — ทำให้การต่อสู้ไม่ใช่แค่กดโจมตีอย่างเดียว แต่เล่นแบบมีจังหวะ มีสไตล์
บอสไฟต์นี่คือจุดเด่นจริง ๆ — การออกแบบลวดลาย บอสใหญ่ ยักษ์ หรือบอสความเร็วสูง มีจังหวะให้จัดคอมโบ สลับอาวุธ และทำฟินิชเตอร์ที่เท่แบบ “สมควรแล้ว”เมื่อเอาชนะมัน
2. พัฒนาโดยใจ (แต่ไม่สมบูรณ์แบบทุกจุด)
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกมเริ่มต้นจากโปรเจกต์คนเดียว (Yang Bing) แล้วเติบโตเป็นทีมใหญ่ภายใต้ China Hero Project ของ Sonyนั่นแปลว่าเบื้องหลังมีความฝัน +ใจรักเกมมาก ซึ่งสะท้อนในงานภาพและระบบคอมโบที่ลึก
แต่ไม่ใช่ทุกจุดจะครบ — ตามรีวิวของสื่อหลายแห่ง เรื่องราว (เนื้อเรื่อง) ถูกมองว่าค่อนข้างธรรมดา, ตัวละครไม่ค่อยลึก และบทพูดบางจังหวะยัง “แห้ง” ไปบ้าง
3. สเกลโลก +การสำรวจ
เกมออกแบบให้มีพื้นที่ให้ “เดิน +ผจญภัย” ไม่ใช่แค่ทางเดินเชิงเส้นทั้งหมด โดยมีจุด platforming และปริศนา (puzzle)เบา ๆ มาแทรกถึงแม้ว่าส่วน platforming จะถูกบางคนวิจารณ์ว่าควบคุมไม่ค่อยแม่น (“floaty”) ในช่วงต้นเกม
นอกจากนี้ยังมีระบบอัปเกรดสกิล (skill tree) ให้เล่น ทำให้การเก็บเลเวลและพัฒนาคอมโบของ Kaser มีมิติ
4. งานภาพ &สไตล์เสียง
ใช้ Unreal Engine 4 ภาพสวยมาก บรรยากาศแฟนตาซี-ไซไฟแบบจัดหนัก การดีไซน์มอนสเตอร์ Voidrax, บอสใหญ่ และแผนที่แต่ละจุดมีความโดดเด่น
ดนตรีฉากต่อสู้ เสียงเอฟเฟกต์คอมโบ แสงอนุภาค — มีการทำให้การโจมตีแต่ละครั้งดู “อลังการ” — แต่ในบางจุดการแสดงเสียงพากย์ (voice acting) โดยเฉพาะเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ถูกวิจารณ์ว่ายังไม่ค่อยทรงพลัง
5. ประสิทธิภาพ (Performance) และปัญหาเทคนิค
เป็นส่วนที่มีคนร้องเรียนมาก — บน PC มีรายงานตก FPS, กระตุกตอนเปิดเมนู หรือเมื่อมีเอฟเฟกต์เยอะมากยังมีบั๊ก บางจังหวะโหลด stutter (กระตุก) โดยเฉพาะตอนเซฟอัตโนมัติหรือฉากคัตซีนซึ่งอาจทำให้ประสบการณ์เล่นสะดุด
💬 ความรู้สึกส่วนตัว: “ไฟแฟนตาซี”แวววับ แต่ก็แอบเน่าในบางมุม
พูดตรง ๆ คือ ถ้าให้เล่าเหมือนเพื่อน: เกมนี้คือ ดิสโก้ไฟแฟนตาซี มันแวววับ คัตเท่ คอมโบเม็ดระเบิด แต่บางจังหวะก็เหมือนไฟที่เริ่ม “ควันจับ” — แสงสวยแต่ยังไม่สมบูรณ์ด้านเทคนิคหรือเรื่องราว
จุดที่ฉันอินมากคือเวลาต่อสู้ — สลับอาวุธกลางคอมโบ ความรู้สึกว่าจะได้โจมตีแบบใหม่ตลอด สนุกมาก และทำให้เล่นแล้วไม่เบื่อเร็ว (โดยเฉพาะหลังปลดล็อกสกิลหลายอัน) > “combat is really shines late game” แต่พอเลยจุดเริ่มต้น (ช่วงต้นเกม) หลายคนรวมถึงรีวิวบอกว่ายังจังหวะช้าหน่อย เรื่องราวเริ่มต้นอาจไม่ดึงดูดมากนักอีกจุดที่หงุดหงิดคือนิสัยบางบอสและศัตรูเล็ก ๆ — เอฟเฟกต์สายรุ้ง อนุภาคระเบิดเยอะมาก จนอาจรบกวนให้เราไม่เห็นจังหวะโจมตีหรือป้องกันชัดเจน
แต่สิ่งที่ทำให้ฉันยกคะแนนให้เกมนี้มากก็คือ ศักยภาพ — ถ้าเพิ่มแพตช์แก้บั๊ก ปรับ performance ให้ลื่นขึ้น เติมจุดอ่อนของบทสนทนา + คาแรคเตอร์ นี่อาจกลายเป็นเกมแอ็กชัน-RPGที่ “ครบเครื่อง”ได้มากกว่าที่หลายคนคิด

✅ สรุปว่าควรเล่นไหม?
- แนะนำมาก สำหรับคนที่:
- ชอบเกมแอ็กชันที่ “เน้นคอมโบ +สไตล์”
- อยากเล่นเกม RPG ที่มีววงจรต่อสู้ลึก +อาวุธหลายแบบ
- ไม่รังเกียจบั๊กหรือเฟรมเรตไม่สเถียรมาก — และหวังว่าผู้พัฒนาจะอัปเดตแก้ไขไปเรื่อย ๆ
- อาจรอ สำหรับคนที่:
- ต้องการเกมที่ “เรื่องราวแน่น” และตัวละครมีมิติลึก
- เล่นบน PC ที่สเปกไม่แรง — เพราะอาจมีปัญหาระบบประสิทธิภาพ
- ไม่ชอบ platforming หรือส่วน “ปริศนาเบา ๆ” ที่อาจดูธรรมดา
โดยรวมแล้ว Lost Soul Aside คือเกมที่ ไฟแฟนตาซีเหมือนจะลุกโชน — แอ็กชันจัดจ้าน สไตล์ตะลุยโลกแฟนตาซีสุดอลังการ — แต่ก็มีจุดอ่อนให้เห็นชัดเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่อง performance และการเล่าเรื่อง ถ้าคุณพร้อมรับ “ความแวววับ +จังหวะคอมโบ +ศักยภาพอนาคต” — มันเป็นเกมที่ “ควรลอง”แน่นอน
แต่ถ้าคุณขอเกมที่สมบูรณ์แบบ 100% ตั้งแต่วันแรก — อาจอยากรอดูแพตช์เพิ่มเติมก่อนกระโดดเข้าไป




