Mercy for None คืนล้างแค้นแห่งกรุงโซล

ซีรีส์แนวนัวร์แอ็กชัน-ล้างแค้นอย่าง Mercy for None ที่ออกฉายบน Netflix เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2025 รวม 7 ตอน ควบคุมโดยผู้กำกับ ชเวซองอึน จากบทเขียนโดย ยูกีซอง บนพื้นฐานของเว็บตูนชื่อ Plaza Wars (หรือ Mercy for None) ของโอเซฮยองและคิมคยอนแท เรื่องราวเริ่มต้นกับตัวเอก นัมกีจุน (รับบทโดย โซจีซอบ) อดีตผู้บังคับใช้ในองค์กรใต้ดินระดับสูงของกรุงโซล หลังจากเป็นส่วนสำคัญในสงครามแก๊ง เขาตัดสินใจถอนตัวจากวงการ ด้วยการตัดเอ็นร้อยหวายของตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่า “จะไม่กลับมาอีก” และใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบในการจัดส่งเครื่องดื่มให้ธุรกิจในย่านบงซาน อย่างไรก็ตาม ชะตาไม่อาจพักลงได้ เมื่อ นัมกีซอก (รับบทโดย อีจุนฮยอก) น้องชายของเขาที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารลำดับสองของกลุ่มจูอุน ถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ กีจุนจึงตัดสินใจกลับเข้าสู่โลกอาชญากรรมอีกครั้ง เพื่อค้นหาความจริงและ “ล้างแค้นแบบไม่มีเมตตา”

นอกจากเส้นเรื่องหลักของการตามล่าหาคำตอบ นักแสดงและตัวละครอีกหลายคนล้วนมีบทบาทสำคัญ ประกอบด้วย หัวหน้าแก๊งจูอุน ลีจูอุน (ฮอจุนโฮ), หัวหน้าแก๊งบงซาน กูบงซัน (อันกิลคัง), กูจุนโม ลูกชายบงซาน (กงมยอง), และอัยการหนุ่มผู้ซับซ้อนเจ้าของสองหน้า อีกึมซน (ชูยองอู) ซีรีส์เล่าถึงความเศร้า ความโดดเดี่ยว และการเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย ถ่ายทอดผ่านภาพแบบนัวร์มืดไซไฟ เสริมด้วยฉากต่อสู้สุดระทึก และตัวละครที่เต็มไปด้วยมิติของความคิดลึก เหมาะกับผู้ที่ชอบเสพเนื้อเรื่องเข้มข้นในโลกอาชญากรรมที่ไร้ความปราณี

ทำไมถึงไม่ควรพลาดซีรีส์ Mercy for None

  1. โซจีซอบ กับบทบาทการล้างแค้นที่ดิบที่สุดในชีวิตการแสดง
    นักแสดงนำอย่าง โซจีซอบ กลับมาทวงบัลลังก์สายบู๊อีกครั้ง หลังจากห่างหายจากบทเข้ม ๆ ไปนาน โดยในบท “นัมกีจุน” เขาสวมบทเป็นอดีตนักเลงผู้เงียบขรึมที่แบกบาดแผลในอดีต แต่ต้องกลับมาจับอาวุธเพื่อล้างแค้นให้ครอบครัว เขาถ่ายทอดอารมณ์เจ็บปวด ผสมกับความเด็ดขาดอย่างน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจและอินไปกับเส้นทางการเอาคืนของเขาทุกก้าว
  2. งานภาพมืดหม่น สไตล์นัวร์ ที่สะท้อนความเน่าเฟะของโลกใต้ดิน
    ด้วยโทนภาพแบบนัวร์ที่หม่นแต่สวยงาม Mercy for None พาเราดำดิ่งสู่โลกอาชญากรรมของกรุงโซลที่เต็มไปด้วยอำนาจ การหักหลัง และความรุนแรง ไม่ใช่แค่ฉากแอ็กชันที่ดุเดือดเท่านั้น แต่ยังมีการจัดแสง สี และมุมกล้องที่เสริมอารมณ์ของเรื่องได้อย่างถึงแก่น สร้างบรรยากาศตึงเครียดและลึกลับแบบที่แฟน ๆ แนว “John Wick” หรือ “The Night Comes for Us” ห้ามพลาด
  3. เส้นเรื่องซับซ้อน ตัวละครเทาเข้มทุกตัว ไม่มีใครดีหรือเลวเต็มร้อย
    เรื่องนี้ไม่มีฮีโร่หรือวายร้ายแบบขาวดำ ทุกตัวละครล้วนมีเหตุผลและด้านมืดในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งที่เอื้อเฟื้อในคราวหนึ่งแต่เลือดเย็นในอีกคราว หรืออัยการที่แอบมีผลประโยชน์แฝง บทละครวางชั้นเชิงอย่างชาญฉลาด ทำให้ผู้ชมต้องจับตาทุกคำพูด ทุกสายตา เพราะทุกอย่างอาจพลิกเกมได้
Scroll to Top