Past Lives: ตอนจบของพรหมลิขิต

การรีวิวหนัง Past Lives ตอนอายุสิบสองนายองชอบแฮซองที่สุด เธอมักได้ที่หนึ่ง เขามักได้ที่สอง วันหนึ่งเธอสอบได้ที่สองและเขาได้ที่หนึ่ง เธอเดินร้องไห้กลับบ้านโดยมีเขาเดินตามไปเป็นเพื่อน ตลอดมาทุกครั้งที่เธอร้องไห้ เขาจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเสมอ ไม่นานหลังจากนั้น แม่ของเธอให้เธอชวนแฮซองไปเดต แม่ของทั้งคู่พาสองคนไปสวนสาธารณะ ตอนกลับบ้าน นายองหลับซบไหล่เขา สองมือกุมกันไว้ แฮซองเหม่อมองออกไปนอกรถ 

 

แล้วไม่นานนายองก็ไปอเมริกา ต่างฝ่ายต่างหายวับไปจากชีวิตของกันและกัน สิบสองปีต่อมา พวกเขามาเจอกันอีกครั้งจากคนละเวลา คนละเมือง คนละซีกโลก คนละวิถีชีวิต เขาตามหาเธอมาสิบสองปีแล้ว พวกเขาพูดคุยกันผ่านสไกป์ แต่ระยะทางและวงโคจรของชีวิตทำให้ทั้งคู่ห่างหายไปจากกันในที่สุด สิบสองปีต่อมา นายองที่ตอนนี้ชื่อนอราห์ แต่งงานกับอาเธอร์ สามีที่เป็นนักเขียน แฮซองบอกเธอว่าเขาจะมาเยี่ยมเธอที่นิวยอร์ก สามีของเธอบอกว่าเขาจะห้ามเธอได้อย่างไรในเมื่อเรื่องราวของพวกเธอนั้นช่างแสนโรแมนติก เธอจึงไปพบเขา และเป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบสี่ปีที่พวกเขาได้พบกันเพื่อเฉลิมฉลองถึงชีวิตที่ผ่านพ้นไป 

ตอนจบของพรหมลิขิต

เราอาจเรียกมันว่าหนังรักของคนสองคนที่พลัดพรากจากกันและกลับมาพบกันใหม่ ในขณะเดียวกัน มันก็อาจเป็นหนังรักของคู่สามีภรรยาที่ชีวิตเรียบง่าย แต่อยู่มาวันหนึ่งคนรักเก่าของภรรยาก็กลับเข้ามาในชีวิต หรืออาจไม่เลย ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แต่เป็นหนังว่าด้วยชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชะตากรรมพัดพาเธอข้ามโลกไป เรียนรู้ความรัก ความใฝ่ฝัน และแรงปรารถนาที่จะมีชีวิต ที่จะสร้างสรรค์งาน  ผู้หญิงที่จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของชะตากรรม หรือพรหมลิขิตใดๆ 

 

หนัง Past Lives เล่าเรื่อง ไล่เรียงตามลำดับเวลา ซึ่งในทางหนึ่งก็ดูจะคาดเดาได้ว่าอะไรจะเดินไปในทิศทางไหน จนอาจให้ความรู้สึกเรียบเรื่อย แต่ทั้งหมดนั้นปูทางมาสู่องก์สุดท้ายของหนัง การกลับมาพบกันใหม่ในวันเวลาที่ล่วงเลยไปแล้ว บทสนทนาบนเตียงนอนของเธอกับสามี และบทสนทนาในการกลับมาพบกันทั้งสามคนในช่วงสุดท้ายของหนัง พลังอันท่วมท้นของทั้งสามคนในช่วงนี้ล้วนเป็นผลจากการที่หนังเล่าอย่างตรงไปเรียงตามลำดับเวลานั่นเอง หนึ่งในสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ตลอดเรื่องคือคำว่า ‘อินยอน’ ในภาษาเกาหลีหมายถึงคำว่าโชคชะตาหรือพรหมลิขิต  นอราห์เล่าให้อาเธอร์ฟังถึงคำคำนี้ และบอกว่ามันเป็นเพียงคำที่คนเกาหลีใช้จีบกันเฉยๆ แต่กลายเป็นว่าความสัมพันธ์ของเธอกับแฮซองกลับมีบางสิ่งที่คล้ายคลึงกับพรหมลิขิตเสียเอง นั่นทำให้เธอกับเขาได้วนกลับมาเจอกัน แม้ว่าจะอยู่กันคนละซีกโลก  

 

สำหรับนักเขียน พรหมลิขิตเป็นเรื่องพาฝันอันงดงามทั้ง อาเธอร์ และตัวเธอเองต่างเป็นนักเขียน และอาเธอร์เข้าใจในเรื่องนี้  ในฉากหนึ่งหลังจากกลับมาพบกัน สองสามีภรรยานอนคุยกันบนเตียง อาเธอร์เปรียบเทียบเรื่องของเธอกับแฮซอง และเรื่องของเธอกับเขา ข้างหนึ่งคือการพบพาน พลัดพรากและข้ามฟ้ามาพบกันใหม่ อาจผูกพันกันมาแต่อดีตชาติ แต่กับเขาเป็นเพียงการพบกันพื้นๆ ของคนที่บังเอิญสนใจเรื่องเดียวกัน และบังเอิญโสด การแต่งงานก็เป็นไปอย่างสมประโยชน์ในการขอกรีนการ์ด เขากับเธอคือเหตุผลและความเหมาะสม แต่เธอกับแฮซองคืออารมณ์และลิขิตฟ้า 

 

อาเธอร์ถามเธอว่า ถ้าสำหรับแฮซองคือเธอเท่านั้น สำหรับเธอ เขาจะเป็นคนอื่นได้ไหม เขาเติมเต็มความใฝ่ฝันของเธอหรือเปล่าสิ่งที่เธอฝันไว้ในการย้ายมาอเมริกา และเธอตอบว่า เขาคือคนที่เธอ ‘มาลงเอย’ อยู่ด้วย มันไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ มันธรรมดาเรียบง่าย หากเป็นจริงและมั่นคง เรื่องรักที่ไม่มีอะไรให้เขียน ไม่มีอดีตชาติ ไม่มีการข้ามน้ำข้ามทะเล หรือการรอคอย

Scroll to Top