หนังสยองขวัญ

รีวิวหนังสยองขวัญ ซ่อนเร้น (Untold)
หนัง

รีวิวหนังสยองขวัญ ซ่อนเร้น (Untold)

ในโลกที่เต็มไปด้วย หนังสยองขวัญ ที่พยายามช็อกคนดูด้วยผีกระโดดและเรื่องราวหลอนๆ Untold ดูเหมือนจะมีอะไรที่แตกต่าง ด้วยการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของนักข่าวที่ต้องเผชิญหน้ากับความผิดพลาดในอดีต แต่เมื่อเราได้ดูจริงๆ กลับพบว่ามันอาจไม่ได้น่าตื่นเต้นอย่างที่หวัง บทความนี้จะพาเราไปสำรวจ Untold (2025) อย่างละเอียด ทั้งเนื้อเรื่องที่พยายามชวนหลอน ตัวละครที่ขาดเสน่ห์ และเหตุผลที่ทำให้หนังเรื่องนี้อาจไม่ติดอยู่ในใจเรา พร้อมแล้ว มาดูกันว่าเรื่องนี้จะหลอนสมใจหรือหลอนจนอยากหลับ! เรื่องย่อ Untold (ซ่อนเร้น)   Untold เล่าเรื่องของ วิเวียน เวรา นักข่าวที่เคยสร้างชื่อด้วยการรายงานข่าว “เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปูนซีเมนต์” ที่เต็มไปด้วยความเท็จ วันเวลาผ่านไป อดีตนั้นกลับมาหลอกหลอนเธอในรูปแบบของวิญญาณที่ตามติดไม่เลิก วิเวียนต้องเผชิญหน้ากับความกลัวในฝันร้ายที่เต็มไปด้วยผีและเงามืดที่พยายามลากเธอลงสู่นรกของความผิดบาป เรื่องราวพยายามชวนให้เราลุ้นว่าเธอจะเอาชนะวิญญาณเหล่านี้ได้หรือต้องยอมจำนนต่อโชคชะตา แต่สิ่งที่ทำให้ Untold สะดุดคือการเล่าเรื่องที่ขาดพลัง หนังพยายามสร้างความน่าสนใจด้วยการโยงความผิดพลาดในอดีตของวิเวียนเข้ากับความสยองขวัญ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวละครหลักอย่างวิเวียนดูเหมือนเงาที่ว่างเปล่า เราแทบไม่รู้จักเธอเลยนอกจากการเป็นนักข่าวที่เคยโกหก ซึ่งทำให้ยากที่เราจะรู้สึกผูกพันหรือกลัวไปพร้อมกับเธอเมื่อผีโผล่มาในฉากฝันร้าย เรื่องราวเหมือนรถไฟที่แล่นช้าๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างที่ไม่เคยมาถึง ถ้าพูดถึง หนังสยองขวัญ สิ่งที่ทุกคนคาดหวังคือความรู้สึกที่ทำให้หัวใจเต้นแรงหรือขนลุกซู่ แต่ Untold กลับเลือกใช้สูตรสำเร็จของการ jumpscare ที่ซ้ำซากและน่าเบื่อ ผีในฝันของวิเวียนโผล่มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บางครั้งก็แค่ยืนจ้องหรือคว้าตัวเธอจากมุมมืด ซึ่งแทนที่จะสร้างความกลัว กลับทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูอะไรที่ซ้ำๆ ซากๆ […]

รีวิวหนัง สุดสยดสยอง "พนอ"
หนัง

รีวิวหนัง สุดสยดสยอง พนอ

รีวิวหนัง สุดสยดสยอง พนอ ปลุกความเสียวสยองเกือบทุกสองนาทีไม่เกินจริง เพราะการกลับมาปล่อยของ สามารถทำให้ผู้ชมขนลุกขนพองและเผลอร้องออกมาด้วยความน่าสยดสยอง โดยพนอเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ของ “ลองของ” ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งในไทยและหลายประเทศทั่วโลกมาแล้ว ทำให้การนำพล็อตเนื้อหาความเชื่อทางไสยศาสตร์และความต้องการในการตีแผ่ต้นกำเนิดตัวละครของ พนอ เปี่ยมด้วยความท้าทายในการร้อยเรียงมิติคาแรกเตอร์ของตัวละคร และร้อนแรงด้วยคุณไสยที่แทบจะไม่ได้พักหายใจหายคอกันเลย เป็นความท้าทายในพล็อตเนื้อหาเหมือนกัน เพราะว่าตัวละครของ พนอ ในลองของ 1-2 มีการตีแผ่มุมมองของเธอไปในระดับหนึ่งแล้วเช่นกัน การวางเนื้อหาต้นกำเนิดของเธอโดยใช้ความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์ผสมเข้ามาจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีลู่ทางไม่มากนักจึงสามารถเดาทางได้พอสมควร เพราะจากการปูทางวัยเด็กจวบจนถึงช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายของพนอ เธอต้องเผชิญหน้ากับกับความเปล่าเปลี่ยวและน่าสงสารซึ่งจากปมปัญหาที่ขมวดไว้ก็ไม่ทำให้แปลกใจสักเท่าไรที่เธอเติบโตไปเป็น ครูพนอในลองของ นั่นจึงทำให้การดำเนินเนื้อหาค่อนข้างมีความราบเรียบไปสักหน่อย อาจจะไม่ได้มีปมปัญหาซับซ้อนหรือมีรูปแบบเนื้อหาเข้มข้นลึกซึ้งมากนัก แต่เป็นการชูโรงไสยศาสตร์มนต์ดำแบบเต็มอัตราแทบจะทุกสองนาทีจริง ๆ แม้ว่าในบทสนทนาหรือเนื้อหาในบางส่วนอาจจะมีความรู้สึกว่ากลายเป็นละครน้ำเน่าและมีไดอาล็อกชัดเจนไปอยู่บ้าง ซึ่งมันค่อนข้างตรงข้ามกับอารมณ์ที่กำลังต่อเนื่องในความเสียวสยองและความเจ็บปวดที่โดนทำร้าย ในขณะเดียวกันความเชื่อมโยงของตัวละครบางคนในฉาก ๆ หนึ่ง เรารู้สึกถึงความไม่สัมพันธ์กันทั้งการปรากฏตัวและการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งร่วมกัน อาจผนวกรวมกับการตัดต่อฉากซึ่งพอมาเคล้ารวมกันจึงเกิดเป็นแผลที่ชัดเหมือนโดนคุณไสยมนต์ดำเข้าไปเช่นกัน และหากไม่ได้ใช้การเล่นของมาพยุงเนื้อหาเอาไว้ในตลอดระยะเวลาของการรับชมมันอาจจะจมมากกว่านี้เลยก็ว่าได้ เพราะฉากการเล่นของทั้งในการแก้แค้น และการเผชิญหน้ากับผู้เล่นของคนอื่นทำออกมาได้อึ้ง ทึ่ง เสียวจนขนลุกตลอดระยะเวลาของการรับชม และสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกประทับใจคือ ฝีมือการแสดงของทีมนักแสดงทุก ๆ คน พวกเขาสามารถถ่ายทอดมิติอารมณ์ของตัวละครและสร้างภาพจำให้กับตัวละครนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี โดย เฌอปราง อารีย์กุล ในบท พนอ สามารถออกแบบคาแรกเตอร์ที่มีความต่อเนื่องจากภาพยนตร์ลองของได้ค่อนข้างน่าสนใจ การแสดงท่าทางผ่านแววตา สีหน้า น้ำเสียง

Scroll to Top