หนังไทย

ลักกันวันตาย
หนัง

ลักกันวันตาย – Everybody Loves Me When I’m Dead

หนึ่งในคอนเทนต์ออริจินัลจาก Netflix ที่ถือเป็นหนังไทยโดดเด่นประจำปีนี้ “ลักกันวันตาย – Everybody Loves Me When I’m Dead” พาเราลงสู่โลกอาชญากรรมดราม่าที่เต็มไปด้วยความหม่นคลุ้งและสีเทาของมนุษย์ ผ่านตัวละครที่ทั้งน่าสงสารและน่ากลัวไปพร้อมกัน ถือเป็นหนังไทยแนวที่หาได้ไม่บ่อยนัก และมาพร้อมทีมนักแสดงคุณภาพที่คืนกำไรให้ผู้ชมอย่างแท้จริง เรื่องย่อ เรื่องราวเล่าถึง โต พนักงานธนาคารที่กำลังจะได้รับการโปรโมตเป็นผู้จัดการ และ เพชร หนุ่มแบงค์ที่กำลังเผชิญปัญหาชีวิตทั้งคู่ร่วมมือกันก่ออาชญากรรม ด้วยการแอบถอนเงินจากบัญชีผู้ตาย แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือ การเข้าไปเกี่ยวพันกับเงินและความตายได้นำพาให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับผู้คนอันตรายหลายฝ่าย ที่หมายตาเงินก้อนเดียวกัน และดึงทั้งสองไปสู่ห้วงอันตรายที่ยากจะควบคุม การกลับมาของผู้กำกับ นี่คือผลงานล่าสุดของ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร หลังจากห่างหายไปเกือบ 10 ปี และเป็นผลงานที่แตกต่างจากแนวฟีลกู้ดที่เขาเคยสร้างกับจีดีเอช คราวนี้เขาหันมาสู่การตีแผ่ด้านมืดของสังคม ผสมผสานกับประสบการณ์จากซีรีส์ Analog Squad ที่ช่วยเติมไอเดียและแรงบันดาลใจให้หนังเรื่องนี้ บทภาพยนตร์ก็เป็นงานที่ พี่ต้นลงมือเขียนเอง ทำให้หนังเต็มไปด้วยลูกเล่นและชั้นเชิง มีความเป็นทริลเลอร์ระทึกขวัญระดับสากล พร้อมประเด็นความเหลื่อมล้ำและชนชั้นในสไตล์ที่คุ้นเคยจากหนังเกาหลี โลเคชันและงานสร้าง เป็น หนังไทย ที่เลือกใช้เมืองพัทยาและชายหาดใกล้กรุงเทพฯ เป็นฉากหลัง เน้นโทนสีหม่นๆ และการจัดแสงที่สร้างบรรยากาศจริงจัง งานโปรดักชันดูพิถีพิถัน เซ็ตฉาก มุมกล้อง […]

รีวิวภาพยนตร์ไทย ผู้บ่าวนิกะห์ ผสมวัฒนธรรมและความตลก
หนัง

รีวิวภาพยนตร์ไทย ผู้บ่าวนิกะห์ ผสมวัฒนธรรมและความตลก

สำหรับเรื่อง ผู้บ่าวนิกะห์ เป็นภาพยนตร์ที่ถูกจับตามองอย่างมากจากผลงานก่อนหน้าของสตูดิโอ Monwichit ที่ฝากผลงานฟีลกู๊ดและโด่งดังในวงการ หนังไทย  ด้วยความสำเร็จนั้น หลายคนจึงตั้งความหวังกับโปรเจกต์ใหม่ครั้งนี้ ทว่าความหวังกลับไม่ได้แปลว่าจะสมหวังเสมอไป พล็อตของหนังบอกเล่าเรื่องราวของความรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทางวัฒนธรรมระหว่างภาคอีสานและภาคใต้ ภายใต้กรอบที่เต็มไปด้วยความแตกต่างทั้ง แนวคิดและศาสนา เมื่อครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวตั้งใจขัดขวางงานแต่งงาน จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่เต็มไปด้วยเรื่องราวขำขัน แต่กลับพ่วงมาด้วยมุขตลกและการแสดงออกที่ทำให้ผู้ชมบางกลุ่มตั้งคำถามถึงความเหมาะสม “ผู้บ่าวนิกะห์” มีทั้งจุดที่น่าชื่นชมและจุดที่พลาด ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบความรู้สึกของผู้ชมที่นับถือศาสนา แต่ยังสร้างบรรยากาศที่ไม่สมดุลในหนังโดยรวม บทความนี้จะพาคุณสำรวจจุดเด่น จุดพลาด และมุมมองต่อเรื่องราวนี้อย่างละเอียด เริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่ดูมีศักยภาพสูงในการเล่าเรื่อง เมื่อใช้ความแตกต่างของวัฒนธรรมเป็นแก่นสำคัญ การแต่งงานที่ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากครอบครัว ฝ่ายเจ้าสาวเน้นความเคร่งครัดในศาสนาและวัฒนธรรม ขณะที่ฝ่ายเจ้าบ่าวมาพร้อมความเรียบง่ายของวิถีชีวิตอีสาน แม้โครงเรื่องดูจะมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมวัฒนธรรม แต่การเล่าเรื่องกลับเต็มไปด้วยมุขตลกที่ล้ำเส้น โดยเฉพาะมุขเกี่ยวกับประเด็นความเชื่อทางศาสนา การนำเรื่องเพศ การเปรียบเทียบพฤติกรรม และมุขเหยียดเข้ามาใส่ในสถานการณ์หลายจุด ทำให้ภาพยนตร์นี้ขาดความเคารพต่อความละเอียดอ่อนที่ควรมี แม้ว่าหนังจะมีจุดพลาดในด้านการเล่าเรื่อง แต่การแสดงของนักแสดงหลักถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก เคมีระหว่างตัวละครทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบทของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ที่สามารถสะท้อนถึงความรักและความพยายามในการฝ่าฟันอุปสรรคได้อย่างน่าเอ็นดู นักแสดงสมทบยังช่วยเพิ่มสีสันและความสนุกให้กับหนังในบางจุด โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวกับครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงกับสถานการณ์ได้ แม้ว่ามุขตลกบางส่วนจะยังคงทำให้รู้สึกอึดอัด สิ่งที่ทำให้ “ผู้บ่าวนิกะห์” ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เท่าที่ควร คือการใส่มุขที่ขาดความละเอียดอ่อนและการเลือกนำเสนอประเด็นศาสนาในลักษณะที่ล้ำเส้น บทสนทนาบางจุดที่เสียดสีวัฒนธรรมและศาสนา ทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่สบายใจ แม้จะเข้าใจว่าตัวหนังพยายามนำเสนอในเชิงขำขัน อีกหนึ่งปัญหาคือการเพิ่มฉากที่ไม่จำเป็นในช่วงท้ายเรื่อง โดยเฉพาะการใส่บทด่าทอที่กระทบความสัมพันธ์ของตัวละครสำคัญ มันไม่เพียงแต่ทำลายบรรยากาศที่อบอุ่นของหนัง แต่ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความไม่เหมาะสม

Scroll to Top