แอนิเมชั่น

แนะนำ การ์ตูนแอนิเมชัน Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า
การ์ตูน

แนะนำ การ์ตูนแอนิเมชัน Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า

Turning Red อีกหนึ่งแอนิเมชัน พร้อมมาระเบิดความสดใส จากดิสนีย์และพิกซาร์ สตูดิโอ ที่หยิบเสน่ห์ของความเป็นคนเอเชียเข้ามาดำเนินเรื่องอีกครั้ง โดยมี “โดมี ฉี (Domee Shi)” นักสร้างแอนิเมชันชาวแคนาเชื้อสายจีน ผู้คว้ารางวัลออสการ์จากการ์ตูนสั้น “Bao” มารับหน้าที่กำกับเป็นครั้งแรก ว่าด้วยเรื่องราวของ เมยหลิน ลี (Meilin Lee) หรือ เหม่ยลี่ เด็กหญิงผู้เติบโตท่ามกลางครอบครัวเอเชียในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งทางร่างกายและจิตใจในช่วงวัย 13 ปี ใครหลาย ๆ คนน่าจะจำได้ว่า ในวันนั้น เราต่างก็กำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของตัวเอง เหม่ยลี่เองก็เช่นกัน แต่ทว่าสำหรับเหมยลี่แล้ว เชื้อสายตระกูลของเธอนั้น ต้องคำสาปประหลาดมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อใดที่ลูกสาวรู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวายใจขึ้นมา เธอจะกลายร่างเป็นแพนด้าแดงยักษ์ ยิ่งทำให้การก้าวข้ามช่างวัยไปสู่วัยรุ่นเต็มตัวของเหมยลี่นั้นสับสนยิ่งขึ้น หนังพาให้เราคอยเอาใจช่วยกับการเติบโตของเหมยลี่ พร้อม ๆ กับกลุ่มเพื่อนสาวตลอดทั้งเรื่อง ท่ามกลางบรรยากาศชีวิตวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียม (2000s) ผ่านแก็ดเจ็ตสุดฮิตในยุคนั้น ยิ่งทำให้หนังมีอรรถรสที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ทามาก็อตจิ, มือถือแบบปุ่มกด, กล้องถ่ายวิดีโอ รวมไปถึงเพลงประกอบหนังในสไตล์เพลงป็อปยุคบอยแบนด์จาก 5 […]

แนะนำ การ์ตูนอนิเมชั่น แฟนตาซี My Neighbor Totoro (1988)
การ์ตูน

แนะนำ การ์ตูนอนิเมชั่น แฟนตาซี My Neighbor Totoro (1988)

My Neighbor Totoro (1988) เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นแฟนตาซีจากประเทศญี่ปุ่น ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Hayao Miyazaki สร้างโดย Studio Ghibli เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวลำดับที่สองของสตูดิโอ โทโทโร่เพื่อนรัก อาจมองได้คือแฟนตาซีที่เกิดขึ้นในจินตนาการของเด็กหญิงสาว ไม่สิเป็นกึ่งอัตชีวประวัติของผู้กำกับ Hayao Miyazaki ถ่ายทอดความคิดเพ้อฝัน อารมณ์ความรู้สึก และความทรงจำวัยเด็กของตนเอง แปรสภาพความทุกข์โศกเศร้า กลายเป็นภาพแห่งรอยยิ้มโลกสวย แม้ชีวิตจริงจะไม่ค่อยสวยงามดั่งความฝัน แต่เราสามารถเลือกมองโลกแต่มุมดีๆ คิดในแง่บวก ก็อาจพบเจอความสุขสงบสันติขึ้นในจิตใจ My Neighbor Totoro คือผลงานชิ้นเอกของปรมาจารย์ผู้กำกับ Hayao Miyazaki แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทันทีตอนออกฉายในญี่ปุ่น เพราะเข้าโรงควบกับ Grave of the Fireflies (1988) ที่มีเรื่องราวตรงข้ามสุดขั้ว ผู้ชมเลยเบือนหน้าหนี แต่ด้วยคำวิจารณ์เสียงตอบรับดีล้นหลาม และยอดขายตุ๊กตา Totoro กับ Nekobasu (Catbus) ผลิตกันแทบไม่ทันจนได้ทุนคืน เด็กๆต่างคลั่งไคล้หลงใหล กลายเป็นกระแส Cult ตามมา ในบรรดาผลงานของ Miyazaki จะบอกว่า

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Coco (2017)
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Coco (2017)

Coco เรียกได้ว่าเป็นแอนิเมชันดีกรีออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ที่สร้างความประทับใจให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลก เรื่องราวของ “มิเกล” เด็กชายวัย 12 ปี เกิดมาในครอบครัวที่มีกฎเหล็กห้ามสมาชิกในบ้านเป็นนักดนตรี แต่เขากลับชื่นชอบดนตรีและเสียงเพลงในหัวใจ นำไปสู่เรื่องราวการผจญภัยที่เรียกน้ำตาจากผู้ชม นอกจากนี้ Coco ยังมีเนื้อหาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทศกาลวันแห่งความตาย (Day of the Dead) ของประเทศเม็กซิโก สำหรับ Coco (2017) เป็นหนังที่เซอร์ไพร์สสำหรับเรามากจริงๆ สารภาพว่าในตอนแรกที่ได้ดูตัวอย่างหนัง แทบไม่ได้สนใจเลย เพราะเห็นสไตล์หนังคิดว่าเป็นหนังแอนิเมชันที่เน้นไปทางเด็กดูมากกว่า จนมาเห็นกระแสวิจารณ์ค่อนข้างดี เลยต้องหันกลับมาดู แล้วก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงชมกันว่าหนังดีมาก รวมทั้งยังคิดว่า Coco ถือเป็นตัวเต็งที่แข็งมากในเวทีออสการ์ สาขารางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม (คิดว่าโอกาสได้สูงมาก !) Coco แอนิเมชันจาก Pixar ภายใต้การควบคุมของ Disney หนังได้รับการกำกับโดย Lee Unkrich และ Adrian Molina โดย Lee Unkrich เคยได้รับออสการ์แอนิเมชันยอดเยี่ยมมาแล้วครั้งนึงจาก Toy Story 3

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018)
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018)

Spider-Man: Into the Spider-Verse ภาคล่าสุดของโซนี่จะเป็นเรื่องราวของไมลส์ เด็กชายผิวสีที่ค้นพบว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในสไปเดอร์แมนอีกคน และพบว่าในจักรวาลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่เป็นสไปเดอร์แมน เขาเริ่มออกช่วยเหลือผู้คนรวมถึงคนที่เขารักนั่นคือพ่อ ซึ่งเราจะได้เห็นสไปเดอร์แมนอีกหลายคน หนึ่งในการ์ตูนแอนิเมชันที่เชิดชูความหลากหลายทางสังคม เมื่อตัวละครเอกเป็นสไปเดอร์แมนผิวสี โดยเลือกเล่าเรื่องผ่านตัวละคร “ไมลส์ โมราเลส” เด็กชายผิวสี ที่ได้รับพลังแมงมุม จนสุดท้ายได้เริ่มออกช่วยเหลือผู้คนในเมืองจากภัยร้าย การ์ตูนเรื่องนี้มอบแรงบันดาลใจให้ผู้ชม แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็เป็นสไปเดอร์แมน หรือ “ฮีโร่” ได้ นอกจากจะกวาดรายได้ทั่วโลกมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว ยังคว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม อีกทั้งทำให้เพลงประกอบภาพยนตร์อย่าง “Sunflower” ของ Post Malone โด่งดังติดชาร์ตเพลงทั่วโลก ความเปลี่ยนแปลงอีกประการคือการยกตัวเอกที่ไม่ใช่ ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ในวัยผู้ใหญ่หรือเด็กมานำ  แต่เปลี่ยนมามองผ่านสายตาของ ไมลส์ โมราเลส เด็กผิวสีที่บังเอิญได้รับพลังแมงมุมและยังหาวิธีจัดการกับพลังที่ได้รับมาอย่างยากลำบาก ซึ่งจะคล้ายกับปีเตอร์ตอนวัยรุ่นเลย สำหรับคอคอมิกส์หรือสื่ออื่นที่ไม่ใช่หนังน่าจะคุ้นเคยกับไมลส์มาพอสมควรเพราะเขาโลดแล่นในฐานะสไปเดอร์แมนแทน ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ มาได้พอสมควรแล้ว แต่สำหรับคอหนังนี่คือการตัวครั้งแรกและยังได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ของสไปเดอร์แมนที่มีมากกว่าหนึ่งคนเลยด้วย นอกจากนี้ยังมีดาราที่คาดไม่ถึงมาให้เสียงพากย์อีกทั้ง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ ที่กำลังร้อนแรงกับหนัง Bumblebee ก็มาให้เสียง เกวน สเตซี่

รีวิวแอนิเมชั่น The Nightmare Before Christmas
การ์ตูน

รีวิวแอนิเมชั่น The Nightmare Before Christmas

The Nightmare Before Christmas นําเสนอแอนิเมชั่นสต็อปโมชั่นที่น่าทึ่ง พร้อมเรื่องราวที่มืดมนสําหรับทั้งครอบครัว ซึ่งแตกต่างจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดของดิสนีย์ The Nightmare Before Christmas มีแนวทางการเล่าเรื่องที่มืดมนและบิดเบี้ยวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทุกอย่างตั้งแต่แอนิเมชั่นสต็อปโมชั่นไปจนถึงตัวละครที่น่าสยดสยองและการเล่าเรื่องที่ออกแบบมาให้ดูแปลกใหม่และไม่เหมือนใคร มารวมกันอย่างสวยงาม แจ็ค สเคลลิงตันปกครองในฐานะราชาฟักทองแห่งเมืองฮาโลวีน แต่เมื่อเขาสะดุดกับการค้นพบประตูวิเศษที่นําไปสู่วันหยุดอื่นๆ ความทะเยอทะยานของแจ็คนําไปสู่แผนการที่น่ารังเกียจที่จะเข้าครอบครองวันหยุดทั้งหมด โดยเริ่มจากเมืองคริสต์มาส ระหว่างทางเขาต้องเผชิญกับความท้าทายและสัตว์ประหลาดที่ไม่เหมือนใครก่อนที่จะสะดุดกับแซลลี่ที่รักในชีวิตของเขา เพลงฮิตในวันหยุดนี้เป็นการแสดงตั้งแต่ต้นจนจบ   ฝันร้ายก่อนคริสต์มาสเป็นผลงานชิ้นเอกทางดนตรีที่โดดเด่น The Nightmare Before Christmas มีเรื่องราวมาจากจินตนาการที่ดุร้ายและแปลกประหลาดของ Tim Burton แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทํางานในภาพยนตร์เรื่องนี้โดยตรงในฐานะนักเขียนหรือผู้กํากับ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขามีอยู่ทั่วทั้งภาพยนตร์ด้วยการออกแบบตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์และโน้ตดนตรีที่ไม่เหมือนใครซึ่งจัดทําโดย Danny Elfman ผู้ร่วมงานบ่อยครั้งของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าทึ่ง แต่บางทีดนตรีที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้น เรื่องราวมาจากจินตนาการที่ดุร้ายและแปลกประหลาดของ Tim Burton แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทํางานในภาพยนตร์เรื่องนี้โดยตรงในฐานะนักเขียนหรือผู้กํากับ ที่มีความคิดสร้างสรรค์อันน่าทึ่งของ Elfman สํารวจจุดตัดระหว่างโทนสีที่น่ากลัวและน่าขนลุกของวันฮาโลวีนกับความสุขและความลึกลับอันน่าอัศจรรย์ของคริสต์มาส การรวมองค์ประกอบสองอย่างที่ดูเหมือนตรงกันข้ามเข้าด้วยกันจะสร้างซาวด์แทร็กแบบไดนามิก เข้มข้น และมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง ทั้งเครื่องดนตรีและเพลงนั้นน่าทึ่ง และแม้ว่าพวกเขาจะเป็นจุดแข็งหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ซาวด์แทร็กก็คุ้มค่าที่จะฟังด้วยตัวมันเอง สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องราววันหยุดที่สร้างสรรค์และยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่างไม่ต้องสงสัย แนวทางการเล่าเรื่องของเบอร์ตันส่งผลให้เกิดเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมและนอกกรอบหลายเรื่อง และ The

รีวิว แอนิเมชันฟีลกู๊ด Up (2009)
การ์ตูน

รีวิว แอนิเมชันฟีลกู๊ด Up (2009)

แอนิเมชันฟีลกู๊ด จากพิกซาร์ (Pixar) ที่นำเรื่องราวของความรัก ความฝัน และความทรงจำ มาถ่ายทอดผ่านตัวละคร “ปู่คาร์ล” ชายชราที่เคยสัญญากับภรรยาว่าจะสานฝันให้ด้วยการพาไปเที่ยวที่อเมริกาใต้ แต่สัญญานั้นไม่มีวันเป็นจริง จนกระทั่งปู่คาร์ลได้พบกับเหตุการณ์ที่ปัดฝุ่นความฝันในอดีตขึ้นอีกครั้ง นำไปสู่การผจญภัยสนุกๆ ปนซึ้ง เชื่อว่าภาพบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งกำลังถูกลูกโป่งนับพันลูกยกให้ลอยขึ้นบนท้องฟ้า น่าจะเป็นภาพจำที่สร้างความประทับใจให้ใครหลายคนอมยิ้ม เมื่อพูดถึงแอนิเมชันเรื่องนี้ Up เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันจากค่าย Disney Pixar เข้าฉายเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2009 โดยเป็นแอนิเมชันเรื่องแรกของค่ายที่มีการออกฉายในรูปแบบสามมิติ กำกับโดย พีท ด็อกเตอร์ ผู้เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้ในการ์ตูนคลาสสิกอย่าง Monsters, Inc. (2001) ให้เสียงภาคโดย เอ็ด แอสเนอร์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, จอร์แดน นากาอิ, บ๊อบ ปีเตอร์สัน และจอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์ เล่าเรื่องราวของ คาร์ล เฟรดริกสัน คุณปู่สูงวัย ผู้ต้องการเติมเต็มความฝันวัยเด็กและรักษาคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับ เอลลี ภรรยาผู้ล่วงลับของเขา ว่าสักวันทั้งสองจะบินลัดฟ้าไปผจญภัยในทวีปอเมริกาใต้ คาร์ลตัดสินใจผูกบ้านเข้ากับลูกโป่งนับพัน ก่อนบินเหินฟ้าเพื่อไล่ตามความฝัน แต่แล้วทริปนี้กลับไม่เป็นดั่งใจเมื่อ

รีวิวแอนิเมชั่น องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ (Out Of The Nest)
การ์ตูน

รีวิวแอนิเมชั่น องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ (Out Of The Nest)

สำหรับหนัง องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ ภารกิจสุดป่วนของแพะหนุ่มและลูกเจี๊ยบทั้ง 7 อีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทยกับแอนิเมชั่นสัญชาติไทยเรื่องแรก 1 ใน 12 ภาพยนตร์แอนิเมชั่น จาก 3,400 ผลงาน ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Annecy Selections ในงานเทศกาลภาพยนตร์แอนิเมชั่นนานาชาติ Annecy International Animation Film Festival 2024 กับเรื่องราวของ อาร์เธอร์ แพะหนุ่มวัยรุ่นที่มีความมุ่งมั่น มาร่วมผนึกกำลังกับเหล่าลูกเจี๊ยบทั้ง 7 เพื่อทำภารกิจสุดยิ่งใหญ่ในการกำจัดพลังมืดของพ่อมดชั่วร้ายและกอบกู้อาณาจักรแคสตีเลียอันเป็นที่รักกลับคืนมาให้ได้ หนังได้นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม ต้าห์อู๋ พิทยา ให้เสียงพากย์เป็น อาร์เธอร์ แพะหนุ่มผู้มีความมั่นใจในตัวเอง และเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตอย่าง 4EVE, มายด์ อาทิตยา ตรีบุดารักษ์, โจริญ คัมภีรพันธุ์, ตาออม เบญญาภา อุ่นจิตร, แฮนน่า โรสเซ็นบรูม, ฝ้าย ณัฐธยาน์ บุตรธุระ, พั้นช์ ทิพานัน นิลสยาม และ อ๊ะอาย กรณิศ

รีวิวแอนิเมชั่น นาจา 2 (Ne Zha 2)
การ์ตูน

รีวิวแอนิเมชั่น นาจา 2 (Ne Zha 2)

นาจา 2 คือการกลับมาสานต่อความปังอีกครั้งของ ตำนานเซียนปีศาจจอมป่วน ที่เป็นเรื่องเล่าปรำปราเก่าแก่จากจีนแผ่นดินใหญ่ คัมแบ็กหนนี้ใน “Ne Zha 2 นาจา 2” ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นเหมือนการอัปเกรดเครื่องใหม่ปังกว่าเดิม ที่ทะยานกราฟความสนุกแบบเพิ่มพูนขึ้นแบบเต็มปรอท ซ้ำอัดแน่นมาด้วยงานสร้างจากฝีมือแอนิเมเตอร์ชาวจีนที่ต้องยกนิ้วให้เลยจริงๆ เป็น แอนิเมชั่นจีน ภาคต่อที่ยกระดับจากภาคแรกทั้งในด้านงานภาพ ฉากแอ็กชัน และอารมณ์ของเรื่องราว ตัวละครเติบโตขึ้นพร้อมกับพล็อตที่เข้มข้นขึ้น มีการผสมผสานระหว่างดราม่าครอบครัว ความขัดแย้งภายในจิตใจ และฉากต่อสู้สุดอลังการที่ดึงดูดสายตาได้ตลอดทั้งเรื่อง พลังของมิตรภาพ การเสียสละ และการเลือกเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น ถูกเล่าออกมาอย่างชัดเจน Ne Zha 2 ยังคงเอกลักษณ์ของตำนานจีนในมุมมองใหม่ที่เข้าถึงผู้ชมรุ่นใหม่ได้ดี และเป็นอีกหนึ่งแอนิเมชันจีนที่น่าจับตามองในระดับโลก หลังจากรับอสนีบาต แม้นาจากับอ๋าวปิ่งจะรอดมาได้ด้วยการกลายเป็นวิญญาณ แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็จะต้องสลายหายไป ไท่หยี่จึงวางแผนที่จะสร้างร่างของนาจาและอ๋าวปิ่งขึ้นมาใหม่ด้วยดอกบัววิเศษเจ็ดสี ทว่าระหว่างการสร้างร่างก็ได้เกิดอุปสรรคขึ้นมากมาย มาลุ้นกันว่าชะตากรรมของนาจาและอ๋าวปิ่งจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยในภาคนี้ก็ยังคงได้ “หยางอวี่” (หรือ เจี่ยวจือ) มารับหน้าที่กำกับดูแลงานสร้างและดัดแปลงเขียนบทด้วยตัวเอง หยิบเอาตำราบันเทิงคดี Investiture of the Gods ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ของ ซู่จงหลิน มาประยุกต์สร้าง เอาจริงๆ ภาคแรกของหนังเรื่องที่ออกฉายไปเมื่อปี

Scroll to Top