รีวิวภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Despicable Me
Despicable Me หรือในชื่อไทยว่า “มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด” เปิดตัวในปี 2010 และพาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของ กรู สุดยอดวายร้ายผู้มีหัวใจอบอุ่นซ่อนอยู่ภายใต้ความขี้โมโหและบุคลิกที่ดูเย็นชา ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างสรรค์โดยสตูดิโอ Illumination Entertainment ได้สร้างปรากฏการณ์และกลายเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยการผสมผสานอารมณ์ขันที่เข้าถึงได้ง่าย เรื่องราวที่ซาบซึ้ง และตัวละครที่น่าจดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มินเนี่ยน สิ่งมีชีวิตสีเหลืองตัวจิ๋วที่พูดภาษาประหลาดและสร้างเสียงหัวเราะได้ไม่รู้จบ แก่นเรื่องหลักของ Despicable Me คือการเดินทางของการเปลี่ยนแปลงและค้นหาความหมายของ ครอบครัว กรูเริ่มต้นเรื่องด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นสุดยอดวายร้ายอันดับหนึ่ง ด้วยแผนการอันยิ่งใหญ่ที่จะขโมยดวงจันทร์ แต่ชีวิตของเขากลับพลิกผันเมื่อเขารับอุปถัมภ์เด็กหญิงกำพร้าสามคนคือ มาร์โก้, อีดิธ และ แอ็กเนส ในช่วงแรก กรูมองเด็กๆ เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับแผนการชั่วร้ายของเขา ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความไร้เดียงสา ความน่ารัก และความต้องการความรักของเด็กๆ ค่อยๆ ทลายกำแพงในใจของกรูทีละน้อย โดยเฉพาะแอ็กเนส ตัวละครที่น่ารักที่สุดด้วยความรักยูนิคอร์นที่ล้นเหลือ สามารถละลายหัวใจที่แข็งกระด้างของกรูได้ในที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยบทภาพยนตร์ที่ชาญฉลาดและตลกขบขัน มุกตลกส่วนใหญ่มาจากสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและปฏิกิริยาของตัวละครต่อสถานการณ์เหล่านั้น การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางของกรู รวมถึงภาษาต่างดาวและพฤติกรรมสุดป่วนของเหล่ามินเนี่ยน สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ความแตกต่างระหว่างโลกของวายร้ายที่ดูโหดร้ายกับความสดใสไร้เดียงสาของเด็กๆ สร้างคอนทราสต์ที่น่าสนใจและเป็นแหล่งกำเนิดของอารมณ์ขันหลายอย่าง นอกจากนี้ การออกแบบตัวละครก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ กรูที่มีรูปร่างสูงโย่ง จมูกโด่ง และชุดสีดำ ดูเป็นวายร้ายในแบบฉบับคลาสสิก แต่กลับมีบุคลิกที่ซับซ้อนและมีมุมน่ารัก มินเนี่ยนแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้จะคล้ายกันไปหมด แต่ก็มีวิธีการแสดงออกที่ทำให้พวกเขากลายเป็นที่รักของผู้ชม เพลงประกอบภาพยนตร์ที่แต่งโดย ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ และ เฮเตอร์ เพอร์เรย์ ก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและอารมณ์ของเรื่องได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเพลง “Happy” (ซึ่งมาจากภาคต่อ แต่ได้วางรากฐานทางดนตรีไว้ในภาคแรก) ที่สะท้อนถึงความสดใสและความสุขได้อย่างดีเยี่ยม แอนิเมชันของ Despicable Me มีความละเอียดและมีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหวของตัวละครลื่นไหล การแสดงออกทางอารมณ์ทำได้ดีเยี่ยม และการสร้างโลกที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ของวายร้ายและการตกแต่งที่แปลกตา ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกนั้นจริงๆ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดูเรียบง่าย แต่แก่นแท้ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสำรวจความหมายของความรักและสายใยครอบครัว กรูได้เรียนรู้ว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้มาจากการเป็นวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่มาจากการเป็นพ่อที่ดีและได้รับความรักจากลูกๆ การเปลี่ยนแปลงของกรูไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นการค่อยๆ ซึมซับและเรียนรู้ ซึ่งทำให้เรื่องราวมีความน่าเชื่อถือและกินใจผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง Despicable Me จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์แอนิเมชันสำหรับเด็กเท่านั้น แต่เป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิง ความอบอุ่น และข้อคิดดีๆ ให้กับทุกคนในครอบครัว