การ์ตูน

อนิเมะ Whisper of the heart วันนี้…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู
การ์ตูน

อนิเมะ Whisper of the heart วันนี้…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู

Whisper of the Heart เป็นอนิเมะที่ฉายในปีพ.ศ.2538 เป็นอนิเมะแนวของคนช่างฝันทั้งในด้านทางเดินของตัวเองและความรักที่เกิดขึ้นแนว ๆ Puppy Love ประมาณนั้นเลยได้ใจคนดูเยอะมาก จนเรียกว่าเป็นหนึ่งในอนิเมะที่ดังเป็นพลุแตกของค่ายจิบลิเลย ยิ่งใครที่อยู่ในช่วงม.ต้นแล้วดู Whisper of the heart วันนี้…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพูก็จะยิ่งอินเข้าไปใหญ่ เพราะมันตรงกับวัยเราจริงๆ เรื่องย่ออนิเมะ Whisper of the heart อนิเมะ “Whisper of the heart วันนี้…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ชิซึคุ สึกิชิมะ” นักเรียนหญิงชั้นมัธยมตอนต้นที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เธอมักจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดสาธารณะอยู่เสมอ จนวันหนึ่งชิซึคุก็ได้รู้ว่าห้องสมุดกำลังเปลี่ยนระบบการยืมหนังสือจากที่เคยใช้บัตรเป็นระบบบาร์โค้ด เธอจึงหยิบบัตรกระดาษแข็งที่บันทึกรายชื่อผู้ที่เคยยืมหนังสือออกมาดู หนังสือทุกเล่มที่เธอเคยยืมจะมีชื่อของ “เซย์จิ อามาซาว่า” ยืมไปก่อนหน้าเธอทุกครั้ง ทำให้เธอจินตนาการว่าเขาต้องเป็นผู้ชายในอุดมคติของเธอแน่ๆ จวบจนวันที่ชิซึคุกำลังนั่งรถไฟไปห้องสมุดสาธารณะเพื่อเอาเบนโตะไปส่งให้คุณพ่อ เธอได้พบแมวตัวอ้วนอยู่ในรถไฟซึ่งลงสถานีเดียวกันกับเธอ เธอจึงตามมันไปจนถึงร้านขายของเก่า ”Earth Shop” ทำให้ได้เจอกับคุณตาเจ้าของร้านท่าทางใจดี แต่สิ่งที่สะดุดตาเธอเป็นอย่างแรกคือ รูปปั้นแมว “Baron Humbert Von Jikkingen” […]

รีวิว แอนิเมชัน Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ
การ์ตูน

รีวิว แอนิเมชัน Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ

Frozen ‘ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ’ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่จากค่าย Walt Disney Pictures ที่คราวนี้หยิบเอาเรื่องราวของราชินีน้ำแข็งมาสร้างเป็น แอนิเมชั่น 3 มิติ ที่ภาพออกมาดูสวยสดงดงาม แต่มันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเขาจะสร้างมันออกในแบบที่มีตัวละครร้องเพลง สลับกันไปกับการพูดสนทนา ผ่านเรื่องราวสไตล์เจ้าหญิงเจ้าชาย แต่มีพระเอกเป็นคนธรรมดา หนังเรื่องกำกับโดย Chris Buck และ Jennifer Lee ซึ่งทั้งสองคนก็นำเค้าโครงเรื่องมาจาก ‘The Snow Queen’ ของ Hans Christian Andersen อีกที เรื่องย่อ ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ อันนาและเอลซ่า สองพี่น้องเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรแอเรนเดล เอลซ่าเกิดมามีพลังวิเศษในการควบคุมน้ำแข็งและหิมะ แต่ด้วยความกลัวว่าเธอจะควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจกีดกันตัวเองออกจากโลกภายนอก และทำให้ฤดูหนาวมาเยือนอาณาจักรตลอดทั้งปี อันนาไม่เข้าใจว่าทำไมเอลซ่าถึงเกลียดเธอและทำร้ายอาณาจักร เธอจึงออกเดินทางตามหาเอลซ่าเพื่อให้เธอกลับมาแก้ไขทุกอย่าง ระหว่างทางอันนาได้พบกับคริสตอฟฟ์ ชายหนุ่มชาวภูเขาและสเวนกวางเรนเดียร์คู่ใจของเขา ทั้งสามคนได้ออกเดินทางไปด้วยกันเพื่อตามหาเอลซ่าและนำฤดูร้อนกลับมาสู่อาณาจักร Frozen เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่สนุกสนานและอบอุ่นหัวใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้สอนเราให้รู้ว่าความรักของครอบครัวสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้   นอกเหนือไปจากสองสาว เจ้าหญิง แห่งเมืองนี้แล้ว ก็ยังจะมีตัวละครชายสองตัวที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คนหนึ่งเป็นเจ้าชายและอีกคนเป็นมนุษย์หิมะที่ร่วมเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องที่เรียงร้อยด้วยกันเพลงเพราะๆ จากปากของตัวละครต่างๆ ในสไตล์ละครบรอดเวย์

การ์ตูนแอนิเมชัน Kotaro Lives Alone (โคทาโร่ อยู่คนเดียว)
การ์ตูน

การ์ตูนแอนิเมชัน Kotaro Lives Alone (โคทาโร่ อยู่คนเดียว)

โคทาโร่ อยู่คนเดียว ซีรีส์ การ์ตูนแอนิเมชัน ญี่ปุ่นที่เคยถูกพูดถึงอย่างมาก ดัดแปลงมาจากมังงะขายดีของอาจารย์มามิ ซึมุระ เล่าเรื่องของ “ซาโต้ โคทาโร่” เด็กชายวัย 4 ขวบ ที่ย้ายเข้ามาอาศัยในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยใช้ชีวิตอยู่คนเดียว และได้ทำความรู้จักกับนักเขียนหนุ่ม และหญิงสาวข้างห้อง จนเกิดเป็นมิตรภาพต่างวัย แม้จะดูเหมือนเป็นการ์ตูนเด็ก แต่จริงๆ แล้วการ์ตูนแอนิเมชันญี่ปุ่นเรื่องนี้สอดแทรกข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการยอมรับความอ่อนแอ ให้กำลังใจ และพร้อมกับก้าวเดินต่อไปนั่นเอง มีข้อสังเกตที่น่าสนใจประการหนึ่งที่เพื่อนผู้ทำงานในหน่วยงานพัฒนาเยาวชนเล่าให้ผมฟัง เขาบอกว่าถ้าเจอเด็กที่ “ดูแก่เกินวัย” ให้ตั้งใจสังเกตเอาไว้ดีๆ ยิ่งปูมหลังของเด็กคนนั้นยากลำบาก ความแก่กร้านของเด็กก็ยิ่งปรากฏให้เห็นเด่นชัด เด็กชายเคาะประตูอพาร์ตเมนต์ของคาริโนะ นักเขียนการ์ตูนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ห้องข้างๆ เด็กชายโค้งคำนับ ส่งกระดาษทิชชู่ที่บรรจงเลือกมาเป็นของขวัญแก่เพื่อนบ้านคนใหม่ด้วยมารยาทอันดี พร้อมแนะนำตัวว่าชื่อ ซาโต โคทาโร่ จากนี้ไปจะเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขา ด้วยภาษาและสำเนียงของขุนนางโบราณ เจ้าเด็กคนนี้คงลำบากมามากทีเดียว Kotaro Lives Alone เป็นแอนิเมชั่นซีรีส์ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนตลกชื่อเดียวกัน (ชื่อตามภาษาต้นทางคือ Kotarō wa Hitori Gurashi – โคทาโร่อาศัยอยู่ตามลำพัง) จากปลายปากกาของมามิ ทสึมุระ ตีพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูนรายปักษ์ Big

รีวิว ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ 25 เจ้าสาวฮาโลวีน
การ์ตูน

รีวิว ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ 25 เจ้าสาวฮาโลวีน

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เจ้าสาวฮาโลวีน เป็น การ์ตูนแอนิเมชัน เรื่องราวของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ กลับมาอีกครั้ง ในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลฮาโลวีนกลางย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว เมื่อโคนันและเพื่อนๆ ได้รับเชิญไปงานแต่งงานของ “มิวาโกะ ซาโต้” แต่กลับเกิดเหตุคนร้ายกลุ่มหนึ่ง บุกเข้ามาในงาน ทำให้ “วาตารุ ทาคางิ” พยายามปกป้องเจ้าสาวของเขาจนได้รับบาดเจ็บ โคนันสืบพบว่าเหตุการณ์ทุกอย่างกลับถูกเชื่อมโยงเข้ากับมือวางระเบิดที่หลบหนีออกจากเรือนจำพอดี เขาจึงต้องทำหน้าที่นักสืบเพื่อไขปริศนาในครั้งนี้ให้ได้ เดอะมูฟวี่ ภาคนี้ทำหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติทั้งในด้านการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลกระชับฉับไวมาก ช่วงแรกที่ตัดสลับกับดนตรีงานแต่งงานที่บิ๊วอารมณ์ แอบทำจังหวะเสียเพราะรวบไปเนี่ยแหละ มันทำให้แอบรู้สึกว่าหนังรีบเฉลยปมไวไปนิด หลังจากนั้นหนังก็ประเคนคดีเข้าหาใส่โคนัน แต่ก็ไม่วายจะมอบพื้นที่ให้กับโฟกัสหลักของภาคอย่างทาคางิกับซาโต้ที่มีปมสำคัญที่แอบรู้สึกว่ามันเบาไปหน่อยกับคนดูทั่วไปที่ไม่เคยดูซีรีส์มาก่อน แถมเดิมพันก็ไม่ได้สูงพอกับการเป็นเมนหลักของเรื่องด้วย แต่เรื่องความสำคัญคือหวานจนน่าอิจฉาเลยล่ะ เช่นเดียวกับกลุ่มของตำรวจที่บทบาทสำคัญเฉลี่ยตามความเหมาะสม ตัวละครรับเชิญของภาคก็มีความสำคัญแตกต่าง แต่ก็อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในขณะที่ตัวฟุรุยะไม่ได้เป็นบทเด่นหลักหรือขโมยซีนทั้งเรื่องอย่างที่คิด เขามีหน้าที่เชื่อมเรื่องความสัมพันธ์ของสี่พยัคฆ์นักเรียนตำรวจเสียมากกว่า ซึ่งช่วงนั้นมันเจ๋งประหนึ่งดูหนังแอ็คชั่นชั้นดีเลยด้วย จนยิ่งน่าสลดหดหู่กับชะตากรรมของสหายที่ล่วงลับไปของเขา ในขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นความร่วมมือของเขากับโคนันตลอดทั้งเรื่อง เมื่อเทียบกับภาค 22 ประหนึ่งหนังมิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ลเลย พาร์ทของคดี ไม่ได้ซับซ้อน แต่ค่อนข้างจะมีชั้นเชิงน่าติดตามชวนลุ้นขึ้นมากว่าภาคที่แล้วโข แม้จะเดาคนร้ายได้ง่าย แต่ก็ไม่สามารถหามูลเหตุจูงใจที่สมเหตุสมผลได้จนโคนันต้องมาเฉลย และไม่ต้องคิดว่าภาพรวมคดีมันจะเข้าใจยากเหมือนภาคที่แล้ว คราวนี้มันย่อยง่ายกว่า และพาร์ทแอ็คชั่นก็ไม่ได้ใส่มาแบบพร่ำเพรื่อ แต่ใส่มาเพื่อเล่าเรื่องและโชว์ความสามารถของโคนันแบบไม่เฝือมากนัก เมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ เพราะรอบนี้หนังให้ความสำคัญกับ “ความร่วมมือ”

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Encanto (เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์)
Uncategorized

รีวิว การ์ตูนแอนิเมชัน Encanto (เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์)

Encanto นำเสนอเรื่องราวของตระกูล “มาดรีกัล” ตระกูลที่อยู่ได้เพราะปาฏิหาริย์ในอดีต ที่ทำให้มีบ้านเวทมนต์ และคนในครอบครัวก็จะได้รับพรเมื่อถึงวัยอันสมควร ซึ่งพรนั้นก็จะเป็นพลังพิเศษที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ซึ่งครอบครัวนี้ก็จะใช้พลังเหล่านี้เพื่อดูแล และช่วยเหลือคนในเมืองที่ชื่อว่า “Encanto” Encanto เป็นแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ Disney บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัว Madrigal ที่ทุกคนได้รับพรจากเทียนวิเศษตั้งแต่รุ่นยายอพยพลี้ภัยมาโคลัมเบีย เช่น บ้างก็มีพลังในการฮีล บ้างก็มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง บ้างก็เนรมิตดอกไม้ได้ บ้างก็คุยกับสิงสาราสัตว์ได้ ฯลฯ แม้กระทั่งตัวบ้าน ก็มีความพิเศษ อย่างที่บอกไปว่า คนของบ้านนี้จะได้รับพรเมื่อถึงวัย แต่กระนั้นก็ดันมีหนึ่งคนที่ไม่ได้พรได้แก่ “มีราเบล” ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้เธอนั้น “โคตรจะเฟล” และเหมือนมันเป็นปมด้อยของเธอ เพราะตัวเธอนั้นอยากที่จะมีพลัง และช่วยเหลือคนในเมือง และครอบครัวของเธอมากๆ แต่สุดท้ายเธอโดนกีดกัน เพราะการที่เธอไม่มีเวทมนต์เหมือนใครเขา ทำให้เธอเป็นเหมือนภาระ แต่แล้ววันหนึ่ง เธอพบว่า เวทมนต์ กำลังจะหายไป ซึ่งก็เธอก็ได้บอกคนในบ้าน แต่ไม่มีใครเชื่อเธอ กระนั้นก็ดี มีราเบล ก็ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะปกป้องครอบครัวของเธอ แม้การกระทำนั้นมันจะนำหายนะมาให้ครอบครัวอันเป็นที่รักของเธอแบบไม่รู้ตัว Encanto จึงถือเป็น “แฟรี่เทล” ที่ปราศจากเจ้าหญิง เจ้าชาย และตัวร้าย แต่เต็มเปี่ยมด้วยเวทมนตร์วิเศษ ความรักแสนพิเศษของ

แนะนำ การ์ตูนแอนิเมชัน Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า
การ์ตูน

แนะนำ การ์ตูนแอนิเมชัน Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า

Turning Red อีกหนึ่งแอนิเมชัน พร้อมมาระเบิดความสดใส จากดิสนีย์และพิกซาร์ สตูดิโอ ที่หยิบเสน่ห์ของความเป็นคนเอเชียเข้ามาดำเนินเรื่องอีกครั้ง โดยมี “โดมี ฉี (Domee Shi)” นักสร้างแอนิเมชันชาวแคนาเชื้อสายจีน ผู้คว้ารางวัลออสการ์จากการ์ตูนสั้น “Bao” มารับหน้าที่กำกับเป็นครั้งแรก ว่าด้วยเรื่องราวของ เมยหลิน ลี (Meilin Lee) หรือ เหม่ยลี่ เด็กหญิงผู้เติบโตท่ามกลางครอบครัวเอเชียในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งทางร่างกายและจิตใจในช่วงวัย 13 ปี ใครหลาย ๆ คนน่าจะจำได้ว่า ในวันนั้น เราต่างก็กำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของตัวเอง เหม่ยลี่เองก็เช่นกัน แต่ทว่าสำหรับเหมยลี่แล้ว เชื้อสายตระกูลของเธอนั้น ต้องคำสาปประหลาดมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อใดที่ลูกสาวรู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวายใจขึ้นมา เธอจะกลายร่างเป็นแพนด้าแดงยักษ์ ยิ่งทำให้การก้าวข้ามช่างวัยไปสู่วัยรุ่นเต็มตัวของเหมยลี่นั้นสับสนยิ่งขึ้น หนังพาให้เราคอยเอาใจช่วยกับการเติบโตของเหมยลี่ พร้อม ๆ กับกลุ่มเพื่อนสาวตลอดทั้งเรื่อง ท่ามกลางบรรยากาศชีวิตวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียม (2000s) ผ่านแก็ดเจ็ตสุดฮิตในยุคนั้น ยิ่งทำให้หนังมีอรรถรสที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ทามาก็อตจิ, มือถือแบบปุ่มกด, กล้องถ่ายวิดีโอ รวมไปถึงเพลงประกอบหนังในสไตล์เพลงป็อปยุคบอยแบนด์จาก 5

The Apothecary Diaries สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง ซีซั่น 2
การ์ตูน

The Apothecary Diaries สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง ซีซั่น 2

The Apothecary Diaries สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง ซีซั่น 2 กลับมาอีกครั้งในปี 2025 พร้อมกับความคาดหวังจากแฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของ “เมาเมา” (Maomao) และ “จินซิ” (Jinshi) หลังจากซีซั่นแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ซีรีส์นี้ยังคงถ่ายทอดเรื่องราวในวังหลวงที่เต็มไปด้วยปริศนา การเมือง และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน โดยตอนแรกของซีซั่นใหม่นี้ได้พาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของจักรวรรดิที่มีทั้งอารมณ์ขันและความลึกซึ้ง ในตอนแรก เราได้เห็นเมาเมาที่กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้ชิมพิษให้กับสนม Gyokuyou และการปรากฏตัวของตัวละครใหม่ รวมถึงแมวตัวหนึ่งที่กลายมาเป็นจุดเด่นของเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเมาเมาและจินซิยังคงเป็นหัวใจสำคัญของซีรีส์ โดยมีการพัฒนาที่น่าสนใจและเพิ่มความลึกซึ้งให้กับตัวละครทั้งสอง เรื่องย่อ The Apothecary Diaries ซีซั่น 2 The Apothecary Diaries ยังคงเอกลักษณ์ของการเล่าเรื่องที่ผสมผสานระหว่างปริศนา การแพทย์ และการเมืองในวังหลวง เมาเมายังคงใช้ความรู้ด้านสมุนไพรและพิษเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ในวัง ซึ่งในซีซั่นนี้ การเรียนรู้และการพัฒนาตัวละครยังคงเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะการช่วยให้หญิงสาวในวังเรียนรู้การอ่านเขียนผ่านหนังสือที่ดึงดูดความสนใจ ตอนแรกของซีซั่นนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในวัง เช่น การอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในวัง ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำตัวละครใหม่อย่าง Shisui ที่ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่องต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่างเมาเมาและจินซิยังคงเป็นจุดเด่นของซีรีส์ โดยในตอนแรกนี้

รีวิว My Happy Marriage อนิเมะโรแมนติก ห้ามพลาด
การ์ตูน

รีวิว My Happy Marriage อนิเมะโรแมนติก ห้ามพลาด

My Happy Marriage อนิเมะฤดูร้อนปี 2023 นําเสนอซีรีส์โรแมนติก ตลก และแอ็คชั่นมากมายให้ผู้ชมได้รับชม ตั้งแต่ Jujutsu Kaisen ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงไปจนถึง Zom 100: Bucket List of the Dead หลายคนตั้งคําถามว่าจะมีซีรีส์นอกสเปกตรัมแอ็คชั่นที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ชมหรือไม่ เข้าสู่ My Happy Marriage ของ Netflix ซีรีส์โรแมนติกเหนือธรรมชาติ 12 ตอนที่ทําให้แฟนอนิเมะหลายคนตกตะลึงทุกสัปดาห์ แม้ว่าจะไม่ใช่ซีรีส์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีส่วนผสมที่เหมาะสมที่จะประกาศว่าเป็นอัญมณีที่ยอดเยี่ยม My Happy Marriage สร้างจากไลท์โนเวลของญี่ปุ่นที่เขียนโดย Akumi Agitogi และวาดภาพประกอบโดย Tsukiho Tsukioka เรื่องราวติดตาม Miyo Saimori เด็กผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ชีวิตที่ดีที่สุดและถูกบังคับให้เชื่อฟังทุกคําสั่งของครอบครัว ครอบครัวของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับ Kiyoka Kudo บุคคลที่มีข่าวลือว่าเข้มงวดและโหดร้าย หลังจากเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา มิโยะก็ได้เรียนรู้ว่าเธอกําลังจะแต่งงานนิรันดร์ที่มีความสุขมากกว่าเจ็บปวด ความรักที่ผสมหลากหลายแนว My Happy Marriage เป็นอนิเมะแนวโรแมนติกอย่างไม่ต้องสงสัย

แนะนำ การ์ตูนอนิเมชั่น แฟนตาซี My Neighbor Totoro (1988)
การ์ตูน

แนะนำ การ์ตูนอนิเมชั่น แฟนตาซี My Neighbor Totoro (1988)

My Neighbor Totoro (1988) เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นแฟนตาซีจากประเทศญี่ปุ่น ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Hayao Miyazaki สร้างโดย Studio Ghibli เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวลำดับที่สองของสตูดิโอ โทโทโร่เพื่อนรัก อาจมองได้คือแฟนตาซีที่เกิดขึ้นในจินตนาการของเด็กหญิงสาว ไม่สิเป็นกึ่งอัตชีวประวัติของผู้กำกับ Hayao Miyazaki ถ่ายทอดความคิดเพ้อฝัน อารมณ์ความรู้สึก และความทรงจำวัยเด็กของตนเอง แปรสภาพความทุกข์โศกเศร้า กลายเป็นภาพแห่งรอยยิ้มโลกสวย แม้ชีวิตจริงจะไม่ค่อยสวยงามดั่งความฝัน แต่เราสามารถเลือกมองโลกแต่มุมดีๆ คิดในแง่บวก ก็อาจพบเจอความสุขสงบสันติขึ้นในจิตใจ My Neighbor Totoro คือผลงานชิ้นเอกของปรมาจารย์ผู้กำกับ Hayao Miyazaki แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทันทีตอนออกฉายในญี่ปุ่น เพราะเข้าโรงควบกับ Grave of the Fireflies (1988) ที่มีเรื่องราวตรงข้ามสุดขั้ว ผู้ชมเลยเบือนหน้าหนี แต่ด้วยคำวิจารณ์เสียงตอบรับดีล้นหลาม และยอดขายตุ๊กตา Totoro กับ Nekobasu (Catbus) ผลิตกันแทบไม่ทันจนได้ทุนคืน เด็กๆต่างคลั่งไคล้หลงใหล กลายเป็นกระแส Cult ตามมา ในบรรดาผลงานของ Miyazaki จะบอกว่า

รีวิว การ์ตูน Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
การ์ตูน

รีวิว การ์ตูน Snow White and the Seven Dwarfs (1937)

Snow White and the Seven Dwarfs ภาพยนตร์อนิเมชั่นสีขนาดยาวเรื่องแรกของ Walt Disney และ Hollywood ที่ใช้การวาดด้วยมือ (Cel Animated) ดัดแปลงมาจากเทพนิยายของ Brothers Grimm, ทุกความยิ่งใหญ่มีจุดเริ่มต้น แม้เรื่องราวจะเรียบง่าย เน้นความบันเทิง แต่แฝงอะไรแนวคิดบางอย่างไว้ และเทคนิค ลูกเล่น ชั้นเชิงในการนำเสนอ เป็นสิ่งควรค่าที่จะ “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย” สโนว์ไวท์เป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในแผ่นดิน ทำให้ราชินีผู้ชั่วร้ายอิจฉาและต้องการกำจัดเธอ ราชินีได้ปลอมตัวเป็นแม่มดและหลอกให้สโนว์ไวท์กินแอปเปิ้ลพิษ สโนว์ไวท์จึงหลับไปเหมือนตาย แต่แท้จริงแล้วเธอแค่หลับไหลเท่านั้น คนแคระทั้งเจ็ดที่อาศัยอยู่ในป่าได้พบกับสโนว์ไวท์และนำเธอมาดูแล พวกเขาเฝ้ารออยู่เคียงข้างสโนว์ไวท์ตลอดเวลาจนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าชายได้มาพบกับเธอและปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาด้วยจูบแห่งรักแท้ ราชินีผู้ชั่วร้ายได้พยายามขัดขวางความรักของทั้งคู่ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้และเสียชีวิตลง   สำหรับแม่เลี้ยงผู้ชั่วร้าย ผู้หลงใหลคลั่งไคล้ในความงามของตนเอง ทำให้เธอเกิดความอิจฉาริษยาต่อสโนวไวท์ที่สวยงามกว่าตนอย่างรุนแรง ถึงกับวางแผนฆ่าเธอโดยใช้วิธีการอันชั่วร้าย, ตัวละครนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นบทเรียนสอนเด็ก ต่อความน่ารังเกียจของคนที่หลงตนเอง (Narcissism) และหยิ่งในศักดิ์ศรี (Pride) ที่สุดท้ายแล้วสังคมก็ไม่ยอมรับ (เธอถูกประหารในเวอร์ชั่นของ Brothers Grimm), ในเวอร์ชั่นของ Disney เธอตกหน้าผาตาย นี่มองได้ว่าเป็นการ ‘ทำตัวเอง’ จากที่เคยอยู่จดสูงสุด

Scroll to Top