ซีรี่ส์

Bon Appetit, Your Majesty

ซีรีส์เกาหลี Bon Appetit, Your Majesty (เชิญเสวยให้อร่อยพะย่ะค่ะ) เป็น ผลงานแนวโรแมนติกแฟนตาซี ย้อนเวลาที่มีกลิ่นอายไม่เหมือนใคร เพราะหยิบเอา “อาหาร” มาเป็นหัวใจสำคัญในการเล่าเรื่อง โดยเปิดเรื่องด้วย ยอน จียอง เชฟสาวมากความสามารถจากโลกปัจจุบันที่เพิ่งประสบความสำเร็จในการแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติ แต่ชะตากลับเล่นตลก เมื่อเธอย้อนเวลากลับไปในยุคโชซอน และต้องเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบ วังหลวงที่ซ่อนเล่ห์กล และราชาผู้เย็นชาอย่าง พระเจ้าอีฮอน สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างจากแนวโรแมนซ์ย้อนเวลาเรื่องอื่น ๆ คือการใช้ “อาหาร” เป็นสื่อกลางเชื่อมโลกสองยุคเข้าด้วยกัน ทุกเมนูที่จียองปรุงไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่เหล่าขุนนางและชาววัง แต่ยังเป็นกุญแจไขหัวใจของราชาผู้แข็งกร้าวทีละน้อย จนกลายเป็นเรื่องราวความรักอบอุ่นที่แทรกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งในวัง และการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เนื้อเรื่องของซีรี่ส์ เชิญเสวยให้อร่อยพะย่ะค่ะ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ซ่งเหยียน  หญิงสาวนักออกแบบรองเท้าผู้มุ่งมั่น ได้รับการวินิจฉัยว่าลูกชายวัย 5 ขวบของเธอ ซ่งห่าวอวี่ เป็นโรคประหลาดที่ทำให้เขาพูดไม่ได้และมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ เธอได้พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ไม่มีใครสามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ จนกระทั่งเธอได้พบกับ ฉีซื่อเฉิง ประธานบริษัทเฟอร์นิเจอร์ผู้ร่ำรวยและเย็นชา ผู้ซึ่งลูกชายของเขาก็มีอาการป่วยเช่นเดียวกันและไม่สามารถพูดได้เมื่อทั้งสองคนได้พบกันโดยบังเอิญที่โรงพยาบาล ซ่งเหยียนได้เห็นว่าลูกชายของฉีซื่อเฉิงมีอาการป่วยแบบเดียวกับลูกชายของเธอ แต่กลับได้รับการรักษาจากแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และที่น่าแปลกใจคือเมื่อลูกชายทั้งสองคนได้มาอยู่ใกล้กัน กลับแสดงอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ในที่สุด ซ่งเหยียนได้รู้ความจริงว่าลูกชายของฉีซื่อเฉิงไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ แต่เป็นลูกบุญธรรมที่เขารับมาเลี้ยง ส่วนลูกชายของเธอ ซ่งห่าวอวี่ กลับเป็นลูกชายที่หายสาบสูญไปตั้งแต่เกิดของฉีซื่อเฉิง นั่นหมายความว่าเด็กชายทั้งสองคนเป็น “พี่น้องฝาแฝด” กัน!เมื่อรู้ความจริง ฉีซื่อเฉิงต้องการจะรับซ่งห่าวอวี่กลับไปดูแล แต่ซ่งเหยียนปฏิเสธ เพราะเธอรักลูกชายคนนี้มากและไม่ต้องการให้เขาต้องจากไป ในขณะเดียวกันแพทย์ก็ได้แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการป่วยของเด็กๆ คือให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเพื่อกระตุ้นพัฒนาการและการสื่อสาร ด้วยเหตุผลนี้ ฉีซื่อเฉิงจึงยื่นข้อเสนอสุดพิเศษให้กับซ่งเหยียน นั่นคือ “การแต่งงาน” เขาเสนอให้ทั้งสองคนมาแต่งงานกันเพื่อที่เด็กๆ จะได้อยู่ด้วยกันและได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากทั้งพ่อและแม่ ซ่งเหยียนเห็นแก่สุขภาพของลูกชายจึงยอมตกลงการแต่งงานครั้งนี้เป็นเพียง “การแต่งงานในนาม” เท่านั้น ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะใช้ชีวิตคู่แบบเพื่อนร่วมห้อง แต่การใช้ชีวิตภายใต้ชายคาเดียวกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนที่สนิทกันมากขึ้น ซ่งเหยียนได้สัมผัสถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเย็นชาของฉีซื่อเฉิง […]