อนิเมะ

Miss Kobayashi's Dragon Maid
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Miss Kobayashi’s Dragon Maid

Miss Kobayashi’s Dragon Maid คืออนิเมะที่ผสมผสานความแฟนตาซีเหนือจริงเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว เล่าเรื่องราวของ โคบายาชิ โปรแกรมเมอร์สาวออฟฟิศผู้โดดเดี่ยวที่ชีวิตเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเธอได้ช่วยเหลือ โทรู มังกรสาวที่กำลังบาดเจ็บจากการต่อสู้บนภูเขาแห่งหนึ่ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณ โทรูจึงเสนอตัวมาเป็นสาวใช้ให้โคบายาชิ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นหัวใจและเสียงหัวเราะ เสน่ห์หลักของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวละครที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และเคมีที่เข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ โทรู ในร่างมนุษย์เป็นสาวใช้ที่ซื่อสัตย์และทุ่มเท แต่ก็ยังคงนิสัยของมังกรเอาไว้ ทั้งความแข็งแกร่งเกินมนุษย์ พฤติกรรมแปลกๆ และความเข้าใจผิดในโลกมนุษย์ที่มักนำไปสู่สถานการณ์ชวนปวดหัวและเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย ส่วน โคบายาชิ ถึงแม้ภายนอกจะดูเย็นชาและเบื่อโลก แต่เธอกลับมีจิตใจที่อ่อนโยนและค่อยๆ เปิดใจรับสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์เหล่านี้เข้ามาในชีวิตทีละน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพัฒนาไปอย่างช้าๆ แต่ลึกซึ้ง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับซึ่งกันและกันและความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่คาดคิด นอกจากโทรูแล้ว ยังมีมังกรตัวอื่นๆ ที่ทยอยปรากฏตัวและเข้ามาสร้างสีสันให้กับชีวิตของโคบายาชิและโทรู ไม่ว่าจะเป็น คานะ มังกรเด็กน้อยที่น่ารักและขี้สงสัย ผู้กลายมาเป็นลูกสาวบุญธรรมของโคบายาชิและโทรู, เอลมา มังกรคู่ปรับของโทรูที่คอยสร้างเรื่องวุ่นวาย, และ ลูคัว มังกรสาวผู้เย้ายวนใจที่มักจะปรากฏตัวพรอมกับโชคชะตาที่พลิกผัน มังกรแต่ละตัวมีบุคลิกและภูมิหลังที่แตกต่างกัน ทำให้เรื่องราวมีความหลากหลายและน่าติดตาม ไม่ใช่แค่เรื่องราวความสัมพันธ์ของมังกรกับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตประจำวันของคนทำงาน ปัญหาต่างๆ ที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน รวมถึงการค้นหาความสุขและความหมายในชีวิตประจำวันที่แสนจะธรรมดา แอนิเมชัน ของเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้อย่างสวยงาม ลายเส้นดูสะอาดตาและสดใส ฉากแอ็กชันของมังกรที่แม้จะมีไม่มากนัก แต่ก็ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงออกทางสีหน้าของตัวละครถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากตลกๆ ที่มักจะมาพร้อมกับสีหน้าสุดฮา นอกจากนี้ ดนตรีประกอบก็มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศของเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ Miss Kobayashi’s Dragon Maid เป็น อนิเมะ ที่ดูสบายๆ อบอุ่นหัวใจ และสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้เสมอ โดยรวมแล้ว Miss Kobayashi’s Dragon Maid เป็นอนิเมะที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเรื่องราวเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความหมาย ไม่ต้องมีพล็อตซับซ้อน แต่เน้นความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนาไปอย่างเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือ มีมังกรที่น่ารักและน่าเอ็นดูมาสร้างเสียงหัวเราะและสีสันให้กับชีวิตประจำวันที่แสนจะธรรมดาของคุณ

Leviathan 2025 (เลวีอาธาน ปฐมบทมหาสงคราม)
การ์ตูน

Leviathan 2025 (เลวีอาธาน ปฐมบทมหาสงคราม)

อนิเมะจาก Netflix เรื่อง เลวีอาธาน ปฐมบทมหาสงคราม ที่ดัดแปลงจากนิยายไตรภาคของ Scott Westerfeld นำเสนอแนวคิดสุดแหวกนี้ได้อย่างน่าตื่นตา สงครามโลกครั้งที่ 1 ในจินตนาการนี้ถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย Clankers ผู้ใช้เครื่องจักรกลไก และ Darwinists ที่ควบคุมสัตว์ประหลาดจากพันธุวิศวกรรม ฟังดูน่าตื่นเต้นใช่ไหม? แต่เดี๋ยวก่อน เพราะสิ่งที่ควรจะเป็นมหาศึกสุดยิ่งใหญ่กลับถูกกลบด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของวัยรุ่นที่แสนจะธรรมดาเสียเหลือเกิน เรื่องย่อ Leviathan Leviathan 2025 นำเสนอโลกที่ สงครามโลกครั้งที่ 1 ถูกตีความใหม่ในสไตล์ สตีมพังก์ และ พันธุวิศวกรรม ได้อย่างน่าทึ่ง ฝ่าย Clankers ใช้เครื่องจักรกลไกที่ดูเหมือนหลุดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ยุคเก่า ขณะที่ฝ่าย Darwinists ใช้สัตว์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม เช่น วาฬยักษ์ที่ลอยฟ้าได้ราวกับยานอวกาศ ภาพของการต่อสู้ระหว่างเครื่องจักรและสัตว์ประหลาดเหล่านี้ชวนให้ตื่นเต้นตั้งแต่ฉากแรก ฉากหนีตายของ Aleksandar ลูกชายของ อาร์คดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ที่ต้องหลบหนีจากการลอบสังหาร หรือฉากที่ Deryn Sharp เด็กสาวสกอตที่ปลอมตัวเป็นชายเพื่อเข้าร่วมกองทัพ บนวาฬยักษ์บินได้นั้น ทำออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ

เรื่องย่อ อนิเมะ Solo Camping for Two (2025)
การ์ตูน

เรื่องย่อ อนิเมะ Solo Camping for Two (2025)

เรื่องราวของ Solo Camping for Two เริ่มต้นด้วยภาพที่ชวนฝัน การเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองสู่ชนบทของญี่ปุ่น เสียงนกร้อง และสายลมที่พัดผ่านทิวเขา เก็น คิโนะคุระ ชายวัย 34 ปี ผู้รักการอยู่กับตัวเอง ปรากฏตัวในฐานะนักตั้งแคมป์เดี่ยวที่เชี่ยวชาญ เขากางเต็นท์ จุดกองไฟและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศในช่วงแรกชวนให้รู้สึกเหมือนได้ดู อนิเมะแนวผ่อนคลาย อย่าง Laid-Back Camp ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและความละเมียดในการใช้ชีวิตกลางแจ้ง เก็นไม่ใช่แค่นักตั้งแคมป์ แต่เขาคือตัวแทนของคนที่หลงรักความเงียบสงบ เขาเพลิดเพลินกับการฟังเสียงธรรมชาติและขั้นตอนการตั้งแคมป์ที่พิถีพิถัน การนำเสนอในช่วงแรกนี้ทำได้ดีมาก ด้วยภาพที่สวยงามและซาวนด์แทร็กที่ช่วยขับเน้นความสงบ แต่คำถามคือ ถ้าเก็นรักการอยู่คนเดียวขนาดนี้ แล้วเรื่องราวจะไปต่อได้ยังไงเมื่อมีตัวละครใหม่เข้ามา? มันเหมือนคุณกำลังนั่งจิบชาร้อน ๆ อยู่ดี ๆ แล้วมีคนมาเติมน้ำตาลลงไปทั้งกระป๋อง! แล้วชิซูกุ คูซาโนะ สาววัย 20 ปี ก็ปรากฏตัว เธอเป็นมือใหม่ใน การตั้งแคมป์ ที่ดูเหมือนจะขาดความพร้อมไปเสียทุกอย่าง การมาถึงของเธอเปลี่ยนบรรยากาศจากอบอุ่นเป็นวุ่นวายในพริบตา เก็นที่ดูเหมือนจะเป็นคนเย็นชาและไม่ค่อยต้อนรับแขกใหม่ ต้องมาเผชิญหน้ากับชิซูกุที่ทั้งกระตือรือร้นและดูจะขาดประสบการณ์สุด ๆ ความแตกต่างของทั้งคู่ทำให้เกิดความขัดแย้งที่บางครั้งก็ดูตลก แต่บางครั้งก็ชวนให้รู้สึกอึดอัด การที่ อนิเมะ พยายามสร้างเคมีระหว่างตัวละครอาจจะดูน่าสนใจในตอนแรก

See You Tomorrow at the Food Court (เจอกันพรุ่งนี้ที่ฟู้ดคอร์ท)
การ์ตูน

See You Tomorrow at the Food Court (เจอกันพรุ่งนี้ที่ฟู้ดคอร์ท)

วาดะและยามาโมโตะแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงคือการยอมรับตัวตนของกันและกัน แม้จะมีภาพลักษณ์ที่ต่างกันสุดขั้ว เป็น อนิเมะ เน้นการนั่งคุยในฟู้ดคอร์ทที่เต็มไปด้วยบทสนทนาสนุกๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความชิล เรื่องนี้แอบเล่าถึงความกดดันจากสังคมและการค้นหาตัวตนในแบบที่วัยรุ่นหลายคนจะอิน ถ้าคุณชอบพล็อตซับซ้อน อาจรู้สึกว่ามันชิลเกินไป แต่ถ้าชอบตัวละครที่มีเคมีดี คุณจะหลงรักแน่นอน จุดเด่นของ เจอกันพรุ่งนี้ที่ฟู้ดคอร์ท คือความสัมพันธ์ของวาดะและยามาโมโตะที่ทั้งขัดแย้งและเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด วาดะที่ดูเป็นเด็กเรียนแสนดี แต่กลับกลายเป็น “เกมเมอร์จอมโว” ที่พร้อมถล่มคู่ต่อสู้ในเกมมือถือด้วยคำพูดแสบๆ ส่วนยามาโมโตะที่ดูเป็นสาวกยารุสุดเปรี้ยว กลับหลงใหลในเรื่องลี้ลับอย่างสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือคริปทิด และมักจะลอยไปกับความคิดปรัชญาเกี่ยวกับจักรวาล ความแตกต่างนี้ทำให้ทั้งคู่มีเคมีที่ลงตัว บทสนทนาของพวกเธอเต็มไปด้วยการแซวกันแบบเพื่อนซี้ที่รู้ใจกันดี ซึ่งทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้นั่งฟังเพื่อนเม้าท์เรื่องสนุกๆ สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งสองคนตระหนักถึงภาพลักษณ์ที่สังคมมองพวกเธอ วาดะเลือกที่จะเล่นตามบทเด็กเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ในขณะที่ยามาโมโตะยอมรับความเสี่ยงจากการเป็นตัวของตัวเอง เช่น การย้อมผมที่อาจทำให้หางานพาร์ทไทม์ยากขึ้น การที่ทั้งคู่มีฟู้ดคอร์ทเป็น “เซฟโซน” ที่ได้ปลดปล่อยตัวตนทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ มันเหมือนเป็นการบอกว่าไม่ว่าโลกภายนอกจะตีกรอบเรายังไง การมีเพื่อนที่ยอมรับเราในแบบที่เราเป็นมันมีค่ามากแค่ไหน คุณเคยมีสถานที่หรือเพื่อนที่ทำให้รู้สึกเป็นตัวเองได้เต็มที่บ้างไหม? เรื่องนี้จะพาคุณย้อนนึกถึงโมเมนต์แบบนั้น See You Tomorrow at the Food Court เป็นอนิเมะที่เรียบง่ายสุดๆ ไม่มีชมรม ไม่มีงานอดิเรกหลัก ไม่มีเป้าหมายใหญ่โต แค่สองสาวนั่งคุยกันในฟู้ดคอร์ท ซึ่งนี่คือทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของเรื่อง สำหรับคนที่ชอบอนิเมะแนว สไลซ์ออฟไลฟ์ ความเรียบง่ายนี้อาจจะเหมือนได้พักผ่อนในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่สำหรับบางคน การดูสองสาวนั่งเม้าท์กันทั้งตอนอาจจะรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทีมงานพยายามใส่ลูกเล่นภาพ

The Summer Hikaru Died (หน้าร้อนที่ฮิคารุจากไป)
การ์ตูน

The Summer Hikaru Died (หน้าร้อนที่ฮิคารุจากไป)

เป็น อนิเมะ ที่ผสมผสานความสยองขวัญและ BL ได้อย่างลงตัว ผ่านเรื่องราวความสูญเสียและความรัก การแสดงเสียงของ ชิอากิ โคบายาชิ และ ชูอิจิโระ อูเมดะ ทำให้ตัวละครโยชิกิและฮิคารุมีชีวิตและบีบหัวใจ ภาพเคลื่อนไหวจาก Cygames Pictures ถ่ายทอดความรู้สึกของมังงะต้นฉบับได้อย่างงดงาม เรื่องนี้ชวนให้คิดถึงความโศกเศร้าและความเห็นแก่ตัวในความรักที่เราทุกคนเคยสัมผัส เคยไหม? ความรู้สึกที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งเปลี่ยนไป ราวกับเขาไม่ใช่คนที่เราเคยรู้จัก แต่เรายังยึดติดกับความทรงจำเก่าๆ เพราะกลัวการสูญเสีย The Summer Hikaru Died  อนิเมะที่เพิ่งฉายในปี 2025 บน Netflix นำพาเราดำดิ่งสู่ความรู้สึกแบบนั้น ผ่านเรื่องราวของ โยชิกิ และ ฮิคารุ สองเพื่อนรักในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อ “บางสิ่ง” เข้ามาแทนที่ตัวตนของฮิคารุ อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้แค่เล่าเรื่องสยองขวัญหรือความรักแบบ BL แต่เป็นการสำรวจความโศกเศร้าที่ลึกซึ้ง เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียคนที่รักที่สุด มันเหมือนเพื่อนที่มานั่งเล่าความรู้สึกข้างในให้เราฟัง พร้อมชวนให้เราร้องไห้ไปด้วยกัน ถ้าคุณพร้อมสัมผัสเรื่องราวที่จะทำให้หัวใจสั่นไหว มาดูกันว่า หน้าร้อนที่ฮิคารุจากไป ตอนแรกทำอะไรกับใจเราได้บ้าง เรื่องราวของ The Summer Hikaru Died

หนุ่มเย็บผ้ากับสาวนักคอสเพลย์ (My Dress-Up Darling) ซีซั่น 2
การ์ตูน

หนุ่มเย็บผ้ากับสาวนักคอสเพลย์ (My Dress-Up Darling) ซีซั่น 2

ถ้าพูดถึงอนิเมะที่ทำให้หัวใจเต้นแรงด้วยความน่ารักและมุกตลกที่ลงตัว คงหนีไม่พ้น หนุ่มเย็บผ้ากับสาวนักคอสเพลย์ ซีซั่น 2 หรือ Sono Bisque Doll wa Koi wo Suru ที่เพิ่งกลับมาหลังจากหายไปถึงสามปีเต็ม! ซีซันแรกเคยทำให้เราตกหลุมรัก Marin Kitagawa และ Wakana Gojo ด้วยเคมีที่แสนจะเข้ากัน และใน ซีซั่น 2 ตอนที่ 1-2 นี้ บอกเลยว่าความสนุกและความฟินไม่ได้ลดลงเลยสักนิด การกลับมาของ อนิเมะ เรื่องนี้ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของการ คอสเพลย์, โมเมนต์เขินๆและการเติบโตของตัวละครที่ทำให้เรายิ้มตามไม่หยุด เพื่อนๆคนไหนที่กำลังลังเลว่า My Dress-Up Darling ซีซั่น 2 จะยังคงความสนุกเหมือนเดิมหรือเปล่า บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของสองตอนแรก รับรองว่าอ่านจบแล้วจะอยากวิ่งไปเปิดดูทันที เรื่องย่อ My Dress-Up Darling ซีซั่น 2 My Dress-Up Darling ซีซั่น 2 เปิดตัวด้วยมุกตลกที่ยังคงความสดใหม่และชวนขำเหมือนเดิม Marin

อนิเมะเรื่องใหม่ Necronomico and the Cosmic Horror Show (2025)
การ์ตูน

อนิเมะเรื่องใหม่ Necronomico and the Cosmic Horror Show (2025)

พบกับอนิเมะเรื่องใหม่ที่กำลังเป็นกระแสอย่าง Necronomico and the Cosmic Horror Show ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลก แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาที่น่าผิดหวัง นั่นคือคุณภาพของซับไตเติลภาษาอังกฤษที่แย่มาก ทำให้ผู้ชมหลายคนไม่สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้อย่างเต็มที่ ในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ว่าอะไรคือปัญหาของซับไตเติล และทำไมมันถึงเกิดขึ้นได้ พร้อมทั้งพูดถึงคุณภาพของอนิเมะเรื่องนี้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังปัญหาเหล่านี้ Necronomico ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวทั่วไป มันเป็นการผสมผสานระหว่างเกม VR สุดตื่นเต้นและ Cosmic Horror ที่น่าขนลุก แต่เมื่อซับไตเติลล้มเหลว ผู้ชมอย่างเราๆ ก็เหมือนพยายามอ่านหนังสือโดยไม่มีแว่นตา จะทำยังไงให้เราได้สัมผัสกับความสนุกที่แท้จริงของเรื่องนี้? มาดูกันว่าเรื่องนี้มีอะไรที่น่าติดตาม และอุตสาหกรรมอนิเมะควรทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ เรื่องย่อ Necronomico and the Cosmic Horror Show Necronomico and the Cosmic Horror Show เป็น อนิเมะ ที่นำเสนอเรื่องราวของ Kuroneko Miko หรือที่รู้จักในชื่อ “Necronomico” ในวงการเกม เธอเป็นเจ้าของช่องเกมขนาดเล็กที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Mayu ผู้ร่วมสตรีมของเธอตกอยู่ในอาการโคม่าลึกลับ

Fruits Basket
การ์ตูน

รีวิวการ์ตูน Fruit Basket

Fruits Basket ไม่ได้เป็นเพียงแค่การ์ตูนโชโจธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เป็นผลงานที่มอบความอบอุ่นหัวใจ ผสมผสานความแฟนตาซี ดราม่า และความตลกขบขันเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว กลายเป็นเรื่องราวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับมิตรภาพ ความรัก และการเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ฮอนดะ โทรุ เด็กสาวกำพร้าผู้มองโลกในแง่ดีและมีจิตใจที่บริสุทธิ์ สูญเสียแม่ไปจากอุบัติเหตุ เธอต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์กลางป่า แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาเธอให้มาพบกับ ตระกูลโซมะตระกูลลึกลับที่มีสมาชิกต้องคำสาป เมื่อถูกเพศตรงข้ามกอด พวกเขาจะกลายร่างเป็นสัตว์ 12 นักษัตร และแมวในตำนาน ทำให้โทรุได้เข้ามาพัวพันกับชีวิตของเหล่าสมาชิกตระกูลโซมะ และรับรู้ถึงความลับอันเจ็บปวดที่พวกเขาแบกรับอยู่ จุดเด่นของ Fruits Basket อยู่ที่การนำเสนอ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนของตัวละครแต่ละตัว โทรุไม่ได้เข้ามาเพียงแค่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลโซมะ แต่เธอเข้ามาเพื่อเป็น แสงสว่างที่ส่องนำทางและเยียวยาบาดแผลในใจของพวกเขา ตัวละครแต่ละตัวในตระกูลโซมะมีปมในใจที่แตกต่างกันออกไป บางคนถูกความอิจฉาริษยาครอบงำ บางคนรู้สึกโดดเดี่ยว บางคนรู้สึกไร้ค่า และบางคนก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากคำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด โทรุในฐานะตัวเอกหญิง ไม่ได้มีพลังวิเศษหรือความสามารถเหนือมนุษย์ แต่สิ่งที่เธอมีคือความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริงความเข้าใจในผู้อื่น และความสามารถในการรับฟัง เธอไม่ตัดสินใคร และพร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเสมอ ด้วยความบริสุทธิ์ใจของเธอ ทำให้กำแพงในใจของเหล่าโซมะค่อยๆ พังทลายลงทีละน้อย เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครที่เริ่มจากการปิดกั้นตัวเอง ไปสู่การเปิดใจและยอมรับความช่วยเหลือจากโทรุ ซึ่งเป็นกระบวนการที่กินใจและทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันไปกับพวกเขา อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Fruits Basket พิเศษคือการผสมผสานระหว่างเรื่องราวในชีวิตประจำวันกับองค์ประกอบเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัว แม้จะมีเรื่องของคำสาปสัตว์นักษัตรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่แก่นแท้ของเรื่องยังคงเป็นการสำรวจอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์

รีวิว The Way of the Househusband พ่อบ้านสุดเก๋า
การ์ตูน

รีวิว The Way of the Househusband พ่อบ้านสุดเก๋า

The way of the house husband เคยถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์คนแสดงมาก่อนแล้วโดยได้ ฮิโรชิ ทามากิ มารับบททัตสึมังกรอมตะออกอากาศไปเมื่อปีก่อนทางสถานีนิปปอนทีวี (Nippon TV) ซึ่งเมื่อผมได้ดูเทียบกันแล้วจะพบว่าตอนเปิดเรื่องของทั้งสองฉบับแทบไม่ต่างกันเลยเพราะถือเป็นฉากเปิดเรื่องในมังงะที่ช่วยแนะนำให้เรารู้จักทัตสึดีที่สุดก็เลยนำเสนอการทำข้าวกล่องให้ภรรยาเป็นฉากเปิดตัวพระเอกของเราไป กระนั้นก็ต้องเตือนไว้สักนิดถึงสไตล์อนิเมะของ ‘The way of the house husband’ กันก่อนนะครับใครที่คุ้นชินกับแอนิเมะยุคหลังที่เริ่มมีการพัฒนาการอนิเมทหรือการเคลื่อนไหวของภาพที่ล้ำมาก ๆ ต้องบอกไว้ก่อนว่ากับ ‘The way of the house husband’ งานภาพจะมีการขยับเขยื้อนน้อยมากและยังมีตัวหนังสือแทนเสียงประหนึ่งเราเปิดมังงะก็ไม่ปานซึ่งใครไม่ชินสไตล์นี้อาจต้องปรับตัวและลองเปิดใจสักนิดครับ   เนื้อหาของอนิเมะซีรีส์จะเล่าเป็นเหตุการณ์สั้น ๆ โชว์มุกกาว ๆ (คล้ายอนิเมะซีรีส์ Backstreet Girls Goku Dols) ที่เปิดให้เห็นแง่มุมฮา ๆ ของยากูซ่าที่จริงจังไปเสียทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการมีปัญหากับหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นหรือกระทั่งการจัดเลี้ยงให้ประธานหมู่บ้านที่ทำเสียอย่างกับว่ากำลังจัดงานให้หัวหน้าแก๊งยากูซ่าก็ไม่เป็นทำอะไรมีพิรุธจนตำรวจเขม่นไปหมดและที่สำคัญยังทำให้เห็นแง่มุมน่ารักของพ่อบ้านที่อาจเป็นเทรนด์ใหม่ในอนาคตที่ผู้ชายเริ่มมีส่วนช่วยภรรยาในการทำงานบ้านก็เป็นได้ โดย ‘The way of the house husband’ ในซีซั่นแรกนี้จะมีเพียง 5 ตอนเท่านั้นโดยเฉลี่ยตอนละ 16 นาทีโดยมีเหตุการณ์ย่อย

เรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อคามาโดะทันจิโร่ ที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าล้างบาง
การ์ตูน

รีวิว Demon Slayer หรือ ดาบพิฆาตอสูร

Demon Slayer หรือ ดาบพิฆาตอสูร เป็นอนิเมะแนวแฟนตาซีที่เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อคามาโดะทันจิโร่ ที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าล้างบาง เหลือเพียงน้องสาวของเขา เนซึโกะ ที่แม้จะรอดชีวิต แต่กลับกลายเป็นอสูรไปแทน ทันจิโร่จึงสาบานว่าจะต้องหาทางรักษาให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง พร้อมทั้งล้างแค้นให้กับครอบครัวที่ถูกพรากไป ทันจิโร่เริ่มต้นเดินทางเป็นนักล่าอสูร หลังจากได้พบกับโทมิโอกะ กิยู เสาหลักวารีผู้มีฝีมือเก่งกาจ กิยูแนะนำให้ทันจิโร่ไปฝึกฝนกับอุโรโคดากิ ซาคอนจิ อดีตเสาหลักวารีที่ถ่ายทอดเทคนิคการใช้ลมหายใจวารีให้แก่เขา การฝึกฝนที่ทรหดนี้ทำให้ทันจิโร่สามารถผ่านการทดสอบที่ยากลำบากจนกลายเป็นนักล่าอสูรอย่างเต็มตัว ในระหว่างการเดินทาง เขาได้พบกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอย่างอากาสึมะ เซนอิทซึและฮาชิบิระ อิโนะสุเกะ ทั้งสองต่างมีพรสวรรค์และทักษะเฉพาะตัว ซึ่งทั้งสามร่วมกันต่อสู้กับเหล่าอสูรที่เข้ามาคุกคามมนุษยชาติ การต่อสู้กับอสูรไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพวกมันมีพลังมหาศาลและมักมีความโหดร้ายรุนแรง ภารกิจของทันจิโร่และเพื่อนร่วมทีมจึงเต็มไปด้วยความสูญเสียและความลำบาก แต่พวกเขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ ในภาคที่ชื่อว่า ย่านเริงรมย์ ทันจิโร่และทีมงานต้องร่วมมือกับเสาหลักเสียง เท็นเง็น อุซุย เพื่อปราบอสูรข้างขึ้นอย่างดาคิและกิวทาโร่ ซึ่งเป็นพี่น้องอสูรที่แข็งแกร่งมาก การต่อสู้นี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและเป็นการแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความร่วมมือที่เข้มแข็งของนักล่าอสูร ต่อมาในภาค หมู่บ้านช่างตีดาบ ทันจิโร่ได้พบกับเสาหลักหมอกและเสาหลักรักในขณะที่ต้องปกป้องหมู่บ้านจากอสูรข้างขึ้นอีกสองตัว เนซึโกะน้องสาวของเขายังแสดงพลังที่น่าทึ่งด้วยการสามารถทนแสงแดดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อสูรทั่วไปไม่สามารถทำได้ ความสามารถนี้ทำให้เนซึโกะกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของราชาแห่งอสูร คิบุตสึจิ มุซัน ผู้เป็นต้นเหตุของทุกความชั่วร้ายและความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น คิบุตสึจิ มุซัน เป็นอสูรต้นกำเนิดที่เกิดขึ้นเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว เขามีเป้าหมายในการหาวิธีทำให้ตัวเองไม่ตายและทนแสงแดดได้ ซึ่งเนซึโกะถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำเช่นนั้น การต่อสู้ระหว่างนักล่าอสูรและมุซันเป็นการปะทะครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความสูญเสีย หลังจากการสู้รบอันดุเดือด ทันจิโร่สามารถหยุดยั้งมุซันได้สำเร็จ

Scroll to Top