Ragnarok M Classic

Ragnarok M  Classic
เกมส์

รีวิวเกม Ragnarok M  Classic

การหวนคืนสู่ตำนานที่คุ้นเคย (และไม่คุ้นเคย) สำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่เติบโตมากับโลกของ Midgard ในตำนานอย่าง Ragnarok Online การได้เห็น Ragnarok M: Classic ปรากฏขึ้นมาบนแพลตฟอร์มมือถือย่อมเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย มันไม่ใช่เพียงแค่เกมมือถือที่นำชื่อเสียงของ RO มาใช้ แต่คือความพยายามที่จะนำประสบการณ์ “Classic” ที่หลายคนโหยหา กลับมาให้สัมผัสอีกครั้งบนอุปกรณ์ที่เข้าถึงง่ายขึ้น ทว่าภายใต้ความรู้สึกคิดถึงที่ซัดเข้ามา เกมนี้ก็มีทั้งจุดที่ทำได้ดีและจุดที่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ความคาดหวังของเหล่าเกมเมอร์รุ่นเก๋าได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งที่ Ragnarok M: Classic ทำได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัยคือการนำเสนอภาพและบรรยากาศที่คุ้นเคย กราฟิกสไตล์ 2.5D ที่เป็นเอกลักษณ์ของ RO ถูกนำมาปรับปรุงให้ดูสวยงามคมชัดขึ้นบนหน้าจอมือถือโดยไม่ทิ้งกลิ่นอายดั้งเดิม เมือง Prontera ที่คุ้นตา, Fields ที่เต็มไปด้วยเหล่า Poring และ Lunatic, หรือแม้แต่ดันเจี้ยนที่เคยเป็นแหล่งฟาร์มเก็บเลเวล ล้วนถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เสียงเพลงประกอบที่คุ้นหูยังคงสร้างบรรยากาศแห่งความคิดถึงได้อย่างยอดเยี่ยม การได้ยินเพลง Theme ของแต่ละเมืองหรือเพลงต่อสู้ที่คุ้นเคย ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกว่าเรากำลังกลับมาผจญภัยในโลกที่เรารักอีกครั้ง ระบบคลาสที่หลากหลาย, การอัปสกิล, การตีบวกอุปกรณ์, และระบบการ์ดที่ซับซ้อน ล้วนถูกนำมาปรับใช้ในเวอร์ชันมือถือได้อย่างครบถ้วน ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครในแบบที่ต้องการและสนุกไปกับการพัฒนาตัวละครได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คำว่า “Classic” ในชื่อเกมก็เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน ด้วยความพยายามที่จะรักษาความเป็น Classic เอาไว้ เกมจึงมีกลไกบางอย่างที่อาจจะรู้สึกเชื่องช้าและต้องใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการฟาร์มเลเวลที่ต้องใช้ความอดทน, การหาของสวมใส่, หรือการทำเควสที่ค่อนข้างซ้ำซาก สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่เหมาะกับผู้เล่นเกมมือถือยุคใหม่ที่คุ้นเคยกับความรวดเร็วและความสะดวกสบาย การทำซ้ำๆ หรือ “Grinding” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Ragnarok Online ดั้งเดิม อาจจะกลายเป็นภาระสำหรับผู้เล่นบางคนบนแพลตฟอร์มมือถือที่เวลาในการเล่นมีจำกัด นอกจากนี้ ระบบ Auto-play ที่มีมาให้ในระดับหนึ่ง แม้จะช่วยอำนวยความสะดวก แต่ก็อาจจะลดทอนประสบการณ์การเล่นด้วยตัวเองและอิสระในการควบคุมตัวละคร ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ RO ลงไปบ้าง ปัญหาเรื่องความสมดุลของเกมก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องกล่าวถึง การนำระบบเศรษฐกิจในเกมมาใช้ในรูปแบบมือถือที่อาจจะมีปัจจัยเรื่อง Item Mall หรือ Cash Shop เข้ามาเกี่ยวข้อง ย่อมส่งผลกระทบต่อความสมดุลและประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นที่ไม่ได้เติมเงิน ในบางครั้งผู้เล่นอาจจะรู้สึกว่าการแข่งขันไม่เป็นธรรมหรือการพัฒนาตัวละครทำได้ยากกว่าผู้เล่นที่เติมเงิน ส่งผลให้ความสนุกในการเล่นลดลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยรวมแล้ว Ragnarok M: Classic เป็นเกมที่มอบประสบการณ์ที่น่าคิดถึงและน่าประทับใจสำหรับแฟน ๆ Ragnarok Online ดั้งเดิมได้อย่างแน่นอน มันพาเรากลับไปสู่โลก Midgard ที่คุ้นเคย ด้วยภาพและเสียงที่งดงาม แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางจุดที่อาจจะยังไม่ลงตัวกับการเป็นเกมมือถือยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่องช้าในการเล่น หรือความท้าทายในการรักษาสมดุลของเกม Ragnarok M: Classic จึงเป็นเหมือนการเดินทางย้อนเวลาที่ยังคงมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงคุณค่าในฐานะเกมที่นำตำนานในอดีตกลับมาให้เราได้สัมผัสอีกครั้งในรูปแบบที่แตกต่างออกไป

เกมที่2
เกมส์

รีวิวเกม Ragnarok M Classic ช่วงเปิด CBT ลองแล้วเลยมาเล่าแบบกระชับ  

    หากให้พูดถึงเกมตระกูล RO หรือ Ragnarok Online บอกเลยว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในเกมไม่กี่ซีรีส์ที่สร้างความผูกพันกับเกมเมอร์ในไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมเพลย์อันเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์ของตัวละครกับมอนสเตอร์ที่ตราตรึง ตลอดจนบรรยากาศการผจญภัยเป็นปาร์ตี้ร่วมกับผู้เล่นอื่น และโลกในเกมที่อุดมไปด้วยสังคม ระบบเศรษฐกิจที่ออกแบบมาอย่างดี จนทำให้เราเพลิดเพลินไปกับมันได้แบบลืมวันลืมคืนเลยทีเดียวสำหรับผู้เขียนเอง ต้องสารภาพตามตรงก่อนว่าส่วนตัวเคยสัมผัส Ragnarok Online มาแค่เวอร์ชั่นแรกสุดที่เคยเปิดบริการในไทยเมื่อปี 2002 นู่นเลย และนั่นเป็นเพียงความประทับใจครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยมีก่อนหน้ากับเกมซีรีส์นี้ กระทั่งเวลาล่วงเลยมากว่า 20 ปีให้หลังจึงได้เห็นข่าวการเปิดช่วง Close-beta (CBT) ของเกม Ragnarok M: Classic เลยลองลงทะเบียนเข้าทดลองเล่นดู ด้วยความรู้สึกสนใจว่าในช่วงที่ห่างหายไปจากจักรวาลเกม RO ราว 2 ทศวรรษ ตัวเกมภาคปัจจุบันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่บ้าง และคนที่เคยเล่นมาแค่เวอร์ชั่นที่เป็นเกมออนไลน์บน PC จะสามารถจุดติดกับภาคปัจจุบัน        ขณะเดียวกันก็ยังมีกระแสจากบรรดาสตรีมเมอร์และอินฟลูเอนเซอร์จำนวนไม่น้อยที่ได้ลองเล่นช่วง CBT แล้วกล่าวชม Ragnarok M: Classic กันไม่ขาดสาย โดยมีหลายคนที่โหยหาบรรยากาศเก่าที่เคยสัมผัสตอนเล่นหรือบ้างก็ชื่นชอบกับระบบเกมของภาคนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยเพิ่มความอยากรู้อยากลองมากยิ่งขึ้นหลังจากได้ทดลองเล่น CBT อยู่หลายวัน ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ชอบก่อนเลยก็คือ ภาคนี้มีการปรับให้ใช้เพียงสกุลเงินเดียวซึ่งก็คือ Zeny ที่เป็นสกุลเงินมาตรฐานของเกมนั่นเอง

ragnarok
เกมส์

รีวิวเกม Ragnarok M Classic   

  หากให้พูดถึงเกมตระกูล RO หรือ Ragnarok Online บอกเลยว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในเกมไม่กี่ซีรีส์ที่สร้างความผูกพันกับเกมเมอร์ในไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมเพลย์อันเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์ของตัวละครกับมอนสเตอร์ที่ตราตรึง ตลอดจนบรรยากาศการผจญภัยเป็นปาร์ตี้ร่วมกับผู้เล่นอื่น และโลกในเกมที่อุดมไปด้วยสังคม ระบบเศรษฐกิจที่ออกแบบมาอย่างดี จนทำให้เราเพลิดเพลินไปกับมันได้แบบลืมวันลืมคืนเลยทีเดียวสำหรับผู้เขียนเอง ต้องสารภาพตามตรงก่อนว่าส่วนตัวเคยสัมผัส Ragnarok Online มาแค่เวอร์ชั่นแรกสุดที่เคยเปิดบริการในไทยเมื่อปี 2002 นู่นเลย และนั่นเป็นเพียงความประทับใจครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยมีก่อนหน้ากับเกมซีรีส์นี้ กระทั่งเวลาล่วงเลยมากว่า 20 ปีให้หลังจึงได้เห็นข่าวการเปิดช่วง Close-beta (CBT) ของเลยลองลงทะเบียนเข้าทดลองเล่นดู ด้วยความรู้สึกสนใจว่าในช่วงที่ห่างหายไปจากจักรวาลเกม RO ราว 2 ทศวรรษ ตัวเกมภาคปัจจุบันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่บ้าง และคนที่เคยเล่นมาแค่เวอร์ชั่นที่เป็นเกมออนไลน์บน PC จะสามารถจุดติดกับภาคปัจจุบันขณะเดียวกันก็ยังมีกระแสจากบรรดาสตรีมเมอร์และอินฟลูเอนเซอร์จำนวนไม่น้อยที่ได้ลองเล่นช่วง CBT แล้วกล่าวชม กันไม่ขาดสาย โดยมีหลายคนที่โหยหาบรรยากาศเก่าที่เคยสัมผัสตอนเล่น Ragnarok Mobile Eternal Love หรือบ้างก็ชื่นชอบกับระบบเกมของภาคนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยเพิ่มความอยากรู้อยากลองมากยิ่งขึ้นครับ       หลังจากได้ ทดลองเล่น CBT อยู่หลายวัน ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ชอบก่อนเลยก็คือ ภาคนี้มีการปรับให้ใช้เพียงสกุลเงินเดียวซึ่งก็คือ Zeny ที่เป็นสกุลเงินมาตรฐานของเกมนั่นเอง ซึ่งไม่มีร้านประเภท Cash

Scroll to Top