รีวิวซีรีส์ The Crown เมื่อราชวงศ์กลายเป็นละครที่ยิ่งใหญ่กว่าความจริง
ซีรีส์ดราม่าชีวิตจริง The Crown ที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นับตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ในช่วงปี 1950s ไปจนถึงเหตุการณ์สำคัญในศตวรรษที่ 21 ซีรีส์นี้ไม่เพียงแค่บอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเปิดเผยให้เห็นเบื้องหลังอารมณ์ ความขัดแย้ง และภาระหนักอึ้งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความหรูหราและเกียรติยศของราชวงศ์ หนึ่งในจุดแข็งที่สุดของ The Crown การเล่าเรื่องที่มีจังหวะนิ่งลึกแต่เข้มข้น ทุกตอนนำเสนอช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์ซูเอซ สงครามฟอล์กแลนด์ หรือความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับเจ้าหญิงไดอานา โดยแต่ละเหตุการณ์ถูกนำเสนอผ่านมุมมองของราชวงศ์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสร้างอารมณ์ร่วมและทำให้ผู้ชมได้เข้าใจว่าเบื้องหลังคำว่า “หน้าที่” นั้นหมายถึงอะไร อีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือความอลังการของโปรดักชัน ลงทุนอย่างมหาศาลในด้านเครื่องแต่งกาย ฉาก และสถานที่ถ่ายทำ ทุกสิ่งได้รับการออกแบบให้ใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังบักกิงแฮม ห้องทรงงาน หรือแม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างเครื่องเพชรของราชินี ล้วนถูกถ่ายทอดออกมาด้วยความประณีต ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในยุคนั้นจริง ๆ การเลือกนักแสดงของซีรีส์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ โดยแต่ละซีซันจะมีการเปลี่ยนนักแสดงตามช่วงวัยของตัวละคร ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพราะช่วยเพิ่มความสมจริงและต่อเนื่องในเชิงเวลายิ่งขึ้น แคลร์ ฟอย ในบทสมเด็จพระราชินีช่วงวัยสาว ถ่ายทอดความสับสนและความแข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนโอลิเวีย โคลแมน ที่มารับไม้ต่อในวัยกลางคน ก็สามารถถ่ายทอดความเงียบขรึมและความเจ็บปวดจากภาระของราชินีได้อย่างลึกซึ้ง ขณะเดียวกัน เอ็มมา คอร์ริน […]