เด็กชายกับนกกระสา อนิเมะเรื่องล่าสุดจากสตูดิโอจิบลิ ที่มีนกกระสาพูดได้ลึกลับตัวหนึ่งร่วมอยู่ในเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับบรรดานกลึกลับทั้งหลายและความเชื่อมโยงของพวกมันกับโลกแห่งวิญญาณ
เดิมที “เด็กชายกับนกกระสา” ก็มีความน่าสนใจในตัวอยู่ไม่น้อย ทั้งการเป็นผลงานเรื่องล่าสุดของสตูดิโออนิเมชั่นระดับขึ้นหิ้งอย่าง Ghibli Studio หลังจากที่ล้มเหลวกับงานอนิเมชั่น 3 มิติ เรื่องแรกของพวกเขาอย่าง Earwig and the Witch (2020) และหนำซ้ำยังเป็นการหวนคืนการกำกับอีกครั้งในรอบ 10 ปี ของผู้ก่อตั้งและผู้กำกับอนิเมชั่นระดับพระกาฬอย่างฮายาโอะ มิยาซากิ (หรือจะมิยาซากิ ฮายาโอะ ก็ได้) ที่เคยประกาศว่าจะวางมือจากการกำกับตั้งแต่เรื่อง The Wind Rises ในปี 2013
ด้วยภาพตัวอย่างเพียงแค่ภาพเดียวเท่านั้น ไม่มีการปล่อยตัวอย่างหนัง ไม่มีภาพวิชวลต่างๆ เพิ่มเติม ไม่มีการเปิดเผยเรื่องย่อ ราวกับว่าต้องการให้ผู้ชมไปลุ้นเอาเองในโรงภาพยนตร์ ส่วนการตลาดนอกญี่ปุ่นมีตัวอย่างหนังถูกปล่อยออกมาเล็กน้อย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อจาก 君たちはどう生きるか (How Would You Live?) เป็น The Boy and the Heron ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่ใช่ “ระดับตำนาน” จริงๆ ภาพนกกระสาหน้าตาพิลึกเพียงภาพเดียว คงไม่สามารถสร้างความน่าสนใจได้อย่างที่ Ghibli Studio ทำได้
แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ คงอยู่ที่ตัว ภาพยนตร์อนิเมชั่น มากกว่าสิ่งอื่นใด และต้องบอกตามตรงว่าหากเทียบกับภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ของจิบลิหรือของฮายาโอะเองก็ตาม The Boy and the Heron ถือว่ามีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างยากต่อความเข้าใจ และอาจจะไม่ค่อยรื่นรมย์นักสำหรับบุคคลทั่วไป ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับผลงานมาสเตอร์พีชอย่าง Spirited Away (2001) ที่มีพล็อตใกล้เคียงกัน ที่ว่าด้วยการผจญภัยของเด็กในดินแดนมหัศจรรย์เพื่อเรียนรู้ถึงการก้าวผ่านช่วงวัย (Coming of age) ซึ่งถูกใช้เป็นประเด็นหลักของเรื่อง
The Boy and the Heron ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของฮายาโอะ มิยาซากิ ที่แม้จะไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของเขาจริงๆ หรือไม่ แต่หากวิเคราะห์จากเนื้อหาและมวลความรู้สึกที่ถูกส่งออกมาจากผลงานชิ้นนี้ก็อาจจะไม่แปลกใจถ้าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ และแม้เรื่องราวของ เด็กชายมาฮิโตะ อาจจะดูไม่ง่ายและไม่ได้สร้างความสนุกสนานได้มากมาย แต่มันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความงามทางศิลปะและสารที่ถูกซ่อนไว้ อันบ่งบอกถึงความสามารถในการสร้างสรรค์ที่ทำให้เขาและสตูดิโอได้รับการยอมรับในฐานะของ “ระดับตำนาน” อย่างไม่ต้องสงสัย